จับปาร์ตี้สวิงกิ้ง กลางเมืองพัทยา


เพิ่มเพื่อน    

    นายอำเภอบางละมุงนำตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองทลายปาร์ตี้สวิงกิ้งในโรงแรมของชาวจีนกลางเมืองพัทยา พบต่างด้าวสารพัดสัญชาติรวมทั้งไทยกำลังเล่นเซ็กซ์หมู่กันอย่างเมามัน จับกุมดำเนินคดีกราวรูด ตั้งข้อหาหนักเจ้าของโรงแรมผู้จัดกิจกรรม ชี้สร้างความเสื่อมเสียให้ภาพพจน์ไทย เผยค่าปรับเปิดโรงแรมไม่ได้รับอนุญาตตั้งแต่เริ่มทำความผิดรวม 18 ล้านบาท ชงปิด
    มีรายงานว่า นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับการร้องเรียนว่าที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านเขาพระตำหนักพัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีการลักลอบจัดปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ประจำวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงได้ประสาน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา, พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา, พ.ต.ไพจิตร เจริญพงษ์ ผบ.ร้อย รส.มทบ.14 สนธิกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และทหาร ร่วมกันลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนได้ข้อมูลว่า คืนวันเสาร์ที่ 21 เม.ย. มีการนัดแนะจัดปาร์ตี้ จึงวางแผนปิดล้อมตรวจค้น
    กำลังเจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าตรวจค้นโรงแรมดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา เป็นอาคารสูง 4 ชั้น มีห้องพักกว่า 30 ห้อง บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่เศษ ชั้นล่างถูกแบ่งเป็น 3 โซน ประกอบด้วย โซนสระว่ายน้ำ โซนเคาน์เตอร์บาร์ และโซนสุดท้ายถูกจัดเป็นห้องปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ หรือที่เรียกกันว่าห้อง “เพลย์” หมายเลข 402 เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงของชายและหญิงร้องระงมลอดออกมาจนฟังไม่ได้ศัพท์ จึงเปิดประตูเข้าไป พบชายหญิงกำลังร่วมเพศที่เรียกว่า "สวิงกิ้ง" รวม14 คู่ จำนวน 28 คน จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ ให้ทั้งหมดอยู่ในความสงบ แล้วให้สวมใส่เสื้อผ้าก่อนคุมตัวสอบสวน
    จากการตรวจสอบพบว่า นักสวิงกิ้งทั้งชายหญิงมีหลายสัญชาติ ประกอบด้วย ประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เยอรมนี กัมพูชา อินเดีย ยูเครน และไทย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้กระจายกำลังตรวจค้นตามจุดต่างๆ พบพนักงานโรงแรมรวม 3 คนที่มีหน้าที่อำนวยความสะดวก และพบถุงยางอนามัย เจลหล่อลื่น ยาปลุกเซ็กซ์ อุปกรณ์ช่วยกระตุ้นทางเพศและถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วถูกทิ้งอยู่ถังขยะจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเชิญตัวนายเซิ่งไฉหยาง อายุ 53 ปี สัญชาติจีน แสดงตัวเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมแห่งนี้ไปสอบสวนตามกฎหมาย
    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานายเซิ่งไฉหยาง เจ้าของกิจการโรงแรม คือ 1.ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 2.เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ขณะที่พนักงานโรงแรม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา 1.เป็นผู้สนับสนุน เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    นายนริศเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่าสถานที่ดังกล่าวมีการลักลอบจัดปาร์ตี้เซ็กซ์สำหรับผู้ที่ชอบแนวเซ็กซ์หมู่ และแลกเปลี่ยนคู่นอน รวมถึงแนวสวิงกิ้ง โดยประกาศผ่านเว็บไซต์ สำหรับขั้นตอนการเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ทางผู้เข้าร่วมจะต้องสมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์ โดยมีเงื่อนไขว่าผู้เข้าร่วมปาร์ตี้จะต้องเป็นคู่รักชายหญิง มีค่าใช้จ่าย 1 คนคืนละ 1,500 บาท จึงประสานตำรวจหลายหน่วยงานลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวก่อนเข้าจับกุมดังกล่าว
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ชี้แจงว่า ได้รับรายงานเมื่อวันที่ 21 เม.ย. จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ว่ามีผู้ร้องเรียนการจัดปาร์ตี้ในเขตเมืองพัทยา โดยลักลอบสวิงกิ้งมีเซ็กซ์หมู่และเปิดเว็บไซต์ในต่างประเทศ โดยเชิญชวนคู่ชายหญิงมาร่วมกิจกรรมทางเพศ
โดยต้องสมัครและชำระเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวดังกล่าว จนกระทั่งในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา, ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจตรวจคนเข้ามือง จว.ชลบุรี สนธิกำลังเข้าตรวจสอบโรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบชายหญิงต่างชาติและมีชาวไทย รวมทั้งหมด 28 คน กำลังจัดงานปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ภายในอาคารของโรงแรมดังกล่าว จึงร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
    ในการนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับนายเซิ่งไฉหยาง สัญชาติจีน เป็นผู้แทนนิติบุคคลของบริษัท จือเซิ่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะเจ้าของโรงแรม โดยกล่าวหาว่า “ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” (ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547) “เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” และหญิงสาวพนักงานโรงแรมที่เป็นคนไทยอีก 3 คน โดยกล่าวหาว่า “เป็นผู้สนับสนุนเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” นอกจากนี้ยังตรวจพบว่า น.ส.ชาลิต้า ศรีสุข อายุ 52 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ นักท่องเที่ยวในกลุ่มดังกล่าว ถือหนังสือเดินทางหมดอายุ อยู่เกินกำหนดอนุญาตจำนวน 84 วัน จึงจับกุมในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” อีกคดีหนึ่ง
    รองโฆษก ตร.กล่าวว่า คดีนี้ผู้ต้องหามีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกระทำผิดซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งดูดาย หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วได้มีการสืบสวนสอบสวนหาข่าวในทันทีจนสามารถจับกุมตัวได้ทั้งหมด นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เน้นย้ำนโยบายการป้องกันอาชญากรรมอย่างสม่ำเสมอ เน้นหนักด้านอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับบุคคลต่างด้าว กวาดล้างคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยเฉพาะผู้หลบหนีเข้าเมือง, บุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต หรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (โอเวอร์สเตย์) ที่เข้ามากระทำความผิดในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด 
    ด้าน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากการจับกุมเสร็จสิ้นได้คัดแยกบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเป็นบุคคลที่ร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้ง จำนวน 28 ราย เป็นชาย 14 ราย หญิง 14 ราย มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อาทิ ไทย จีน มาเลเซีย อเมริกา ยูเครน ปากีสถาน สิงคโปร์ แคนาดา กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ซึ่งคนไทยเป็นหญิง 5 คน ชาย 3 คน โดยนายเซิ่งไฉหยาง อายุ 53 ปี สัญชาติจีน เจ้าของโรงแรม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว เช่นเดียวกับพนักงานโรงแรมอีก 3 ราย คือ น.ส.รัตนา จันคำจร อายุ 32 ปี, น.ส.เดือนเพ็ญ มาตรรักษ์ อายุ 30 ปี และ น.ส.ปรารถนา หล่อนเผือก อายุ 28 ปี
    ในส่วนผู้ร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้งทั้งหมด 28 ราย เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบปัสสาวะ พบว่ามีเกี่ยวข้องกับสารเสพติด 1 ราย เป็นหญิงชาวฟิลิปปินส์ อายุ 52 ปี ถือหนังสือเดินทางเลขที่ P0193315A อยู่เกินกำหนดอนุญาต จำนวน 84 วัน จึงจับกุมในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนบุคคลที่ไม่มีความผิดได้ทำประวัติไว้ก่อนปล่อยตัวกลับไป
    สำหรับโรงแรมบ้านทิวลิป ซึ่งพบว่ามีการประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 ตามที่กล่าวหาไปข้างต้นนั้น มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท แต่ทั้งนี้ยังมีโทษปรับตั้งแต่วันที่ฝ่าฝืนวันละ 10,000 บาท เท่าที่ตรวจสอบพบว่าลักลอบฝ่าฝืนมาประมาณ 5 ปี คิดเป็นค่าปรับประมาณ 18 ล้านบาท นอกจากนี้ได้ทำเรื่องเสนอไปยังอำเภอบางละมุงเพื่อทำการปิดกิจการต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"