ล้อมจับ "เอ วังโหล" พ่อค้ายาเสพติดตัวเอ้ในลานสกา คนร้ายฮึดสู้กราดยิงด้วยเอ็ม 16 และปืนพก ดวลกันสนั่น ก่อนที่ตัวเองจะถูกวิสามัญ ขณะที่ พ.ต.ต.และ ด.ต.บาดเจ็บ พ่อผู้ตายแค้น ย่องฟัน อส.ตร.สาหัสก่อนวิ่งหนีไปได้
    เช้าวันที่ 31 สิงหาคมนี้ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบก.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒกุลเทพ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เดินทางเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 134 หมู่ 12 ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช สถานที่ที่เกิดเหตุ หลังจากตำรวจ นปพ.ชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.นครศรีธรรมราช ติดตามตัวนายอุดม รัตนมณี หรือ “เอ วังโหล หรือ เอ กำโลน” เข้าจับกุมนายอุดม และ น.ส.อารียา พันธ์ทิพย์ ภรรยา ซึ่งทั้งสองมีหมายจับจากภูเก็ต แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ปิดล้อมและตะโกนเรียกชื่อนายอุดม กลับถูกนายอุดมใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงใส่ชุดจับกุม จากนั้นยิงใส่เจ้าหน้าที่ด้วยปืนพกขนาด 11 มม.อีกชุด จนมีการยิงตอบโต้กันเสียงสนั่น ซึ่งในที่สุดนายอุดมถูกยิงเสียชีวิตใกล้ลานบ้าน ในขณะที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย คือ พ.ต.ต.พระมูล ชูคง ถูกยิงกระสุนถากศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ นิ้วชี้ขวาขาด สะเก็ดกระสุนถูกที่หน้าแข้งขวา และ ด.ต.วัฒนา กาญจนะ ถูกยิงที่ขาซ้าย ทั้งสองถูกนำส่ง รพ.ลานสกา 
    นอกจากนี้ เมื่อตำรวจเข้าเคลียร์ที่เกิดเหตุ ได้มีนายปรีชา รัตนมณี พ่อนายอุดม ย่องเข้ามาใช้มีดพร้าฟันที่ท้ายทอยนายถนอมศักดิ์ วิสุทธิสรรพ อส.ตร. เป็นแผลฉกรรจ์ บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบนำนายถนอมศักดิ์ส่ง รพ.ลานสกา อีกราย ส่วนนายปรีชาพ่อนายอุดมวิ่งหลบหนีเข้าป่าหายไป 
    จากการตรวจค้นภายในห้องนอนบ้านเกิดเหตุ พบยาบ้า ยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง และซองกระสุนปืนเอ็ม 16 รวมทั้งกระสุนปืนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.อารียา ภรรยานายอุดม ไปสอบสวนดำเนินคดี และจะติดตามจับกุมตัวนายปรีชามาดำเนินคดีต่อไป อีกทั้งจะสอบสวนขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติดและอาวุธสงครามของนายอุดมด้วย 
    สำหรับนายอุดม หรือเอ วังโหล พ้นโทษคดียาเสพติดมาได้ราว 1 ปีเศษ มักเดินทางไปมาระหว่างจังหวัดภูเก็ตและบ้านที่อำเภอลานสกา โดยมีรถใช้หลายคัน เวลากลับบ้านจะนำรถไปจอดที่อื่นก่อนเข้ามาในบ้านแบบเงียบๆ เป็นประจำ
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก ภ.จว.นครศรีธรรมราช ถึงคดีนี้แล้ว ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาช่วยเหลือดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด ทั้งได้สั่งการให้เร่งไล่ล่าติดตาม กดดัน จับกุมผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว.