มากระชากหน้ากากกันหน่อย...
    สืบเนื่องจากโพสต์ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เรื่องข้อพิพาทเหมืองทองอัครา ที่เขียนเอาไว้ดังนี้
    ....บาทเดียวของภาษีประชาชน ก็ไม่ควรต้องเสียให้กับความผิดพลาดที่เผด็จการก่อไว้
    เพื่อไทย เสนอแปรญัตติตัดงบค่าใช้จ่ายเรื่องข้อพิพาทเหมืองทองอัคราภาษีประชาชนต้องไม่เสียไปกับความลุอำนาจของเผด็จการ
    ๑ ม.ค.๖๐ ปิด #เหมืองทองอัครา ด้วยอำนาจเผด็จการ โดยคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ ๗๒/๒๕๕๙
    ๑๘ ก.ย.๖๒ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าหัวหน้า คสช. ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ
    เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ จึงไม่สามารถนำเงินของรัฐที่เก็บจากภาษีอากรของประชาชนมาจ่ายได้
    ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศชัดเจน จะรับผิดชอบคดีปิดเหมืองทองอัคราด้วยตัวเอง ก็อย่าพูดเอาหล่ออย่างเดียว โดยหลอกลวงประชาชนไปวันๆ
    ค่าสู้คดี รัฐจ่ายไปให้แล้ว ๓๘๙ ล้าน
    ค่าเสียหายที่จะต้องจ่ายตามมา หากแพ้คดีอีกเกือบ ๔๐,๐๐๐ ล้าน
    ประกาศจะรับผิดชอบเอง
    ก็ช่วยควักเงินจ่ายเองด้วยค่ะ
    โดยกรรมาธิการงบประมาณของพรรคเพื่อไทยจะเสนอตัดงบประมาณส่วนนี้ออกทั้งหมดค่ะ
    #บาทเดียวของคนไทย ก็ไม่ขอจ่ายเป็นค่าโง่ให้เผด็จการ....
    ครับ...เห็นด้วย เมื่อนักการเมืองประกาศ "ข้าพเจ้ารับผิดชอบเอง" ก็ต้องรับผิดชอบห้ามบิดพลิ้วใดๆ 
    หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศจะใช้เงินตัวเองรับผิดชอบ วันนี้ก็ต้องควัก ๑๑๑ ล้านบาท  จะใช้งบหลวงไม่ได้ 
    แต่...เดี๋ยวก่อน เรากำลังคุยกันเรื่อง ข้อพิพาทระหว่างรัฐกับเอกชน 
    ที่สำคัญเป็นผลพวงจากนโยบายของรัฐบาลในอดีต หากจะตัดตอนเอาเฉพาะวันที่ ๑ ม.ค.๖๐ ก็จะไม่เป็นธรรม
    ปี ๒๕๔๓ บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด จำกัด จากประเทศออสเตรเลีย ได้สัมปทานทำเหมืองทองบริเวณรอยต่อของ จ.พิจิตร, จ.พิษณุโลก และ จ.เพชรบูรณ์ เป็นจำนวน ๕ แปลง มีพื้นที่รวม  ๑,๒๕๙ ไร่ ดำเนินการขุดเหมืองโดย บริษัท อัครา ไมนิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของคิงส์เกต
    ทักษิณ ชินวัตร ให้เกียรติเป็นประธาน ในพิธีเปิดเหมืองทองคำอัครา วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๔
    ปี ๒๕๕๐ ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการขุดเหมืองทอง ร้องเรียนกับรัฐบาลว่าไม่สามารถใช้น้ำจากธรรมชาติได้ เพราะมีการปนเปื้อนจากโลหะหนัก 
    และชาวบ้านในชุมชนล้มป่วยกันเป็นจำนวนมาก
    ปี ๒๕๕๑ รัฐได้ลงไปตรวจสอบ
    ปี ๒๕๕๗ มีการรายงานผลตรวจเลือดของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เหมือง ว่าพบสารแมงกานีสและไซยาไนด์อยู่ในร่างกายเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด
    ปี ๒๕๕๘ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ลงพื้นที่สุ่มตรวจร่างกายของชาวบ้าน  พบว่าหลายคนมีโลหะหนักภายในร่างกาย 
    ต่อมาเกิดความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านในพื้นที่ เพราะมีทั้งกลุ่มต่อต้านและสนับสนุน
    วันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๙ มีคำสั่งของ คสช. ที่ ๗๒/๒๕๕๙ ให้ผู้ประกอบการเหมืองแร่ทองคำต้องระงับการประกอบกิจการตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป
    กลุ่มต่อต้านรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ฉวยโอกาสระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ๒๕๖๔  ที่มีการตั้งงบประมาณ ๑๑๑ ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทย กับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด มาโจมตีว่าเป็นความเสียหายที่ก่อไว้โดยเผด็จการ ฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องควักเงินจ่ายเอง
    ขอโทษนะ "เจ๊หน่อย" ชีวิตชาวบ้านมีค่าแค่เศษผักเศษปลาอย่างนั้นหรือ?
    น่าเสียดายที่เอ็นจีโอทำงานด้านสิ่งแวดล้อมพากันเงียบกริบ ทั้งที่เรื่องนี้ รัฐบาลเผด็จการ ทำเพื่อช่วยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทอง
    ชาวบ้านมีสารแมงกานีสและไซยาไนด์อยู่ในร่างกายเกินเกณฑ์มาตรฐาน
    หวนคิดถึงโครงการรับจำนำข้าว ที่รัฐบาลเพื่อไทยสร้างความฉิบหายเอาไว้กว่า ๕ แสนล้าน ต้องตั้งงบประมาณชดใช้เป็นเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยปีละ ๕ หมื่นล้านบาท เป็นเวลา ๑๖ ปี 
    บาทเดียวของคนไทย ไม่ควรจะจ่ายให้ใครมากกว่ากัน 
    รัฐบาลระบอบทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ นั่งอยู่บนความทุกข์ระทมของชาวบ้านรอบๆ เหมือง ปากก็อ้างตัวเองมาจากประชาชน 
    แต่จะเอาอะไรกับนักการเมืองพรรค์นี้ 
    "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ประกาศเผาเลยครับพี่น้องผมรับผิดชอบเอง นายใหญ่ส่งไปเป็นรัฐมนตรีเพื่อแสดงความรับผิดชอบทะเลเพลิงในกรุงเทพฯ
    หลอกลวงประชาชนไปวันๆ.