30 ส.ค.63-ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพระอำพล ซึ่งเป็นพระนิสิต ที่ศึกษาอยู่ที่ มจร.ลำปาง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยการส่งข้อความ คลิปอานาจาร ทางไลน์ อินบล็อก facebook จีบอาจารย์สาว แม้อาจารย์จะว่ากล่าวตักเตือนแต่ก็ไม่ยอมหยุด ยังคงมีการส่งคลิปไม่เหมาะสมและใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสมกับอาจารย์เรื่อยมา และยังมีการนำข้อความไม่เหมาะสมและรูปภาพของอาจารย์นำไปลงในยูทูปของตัวเอง ทำให้อาจารย์ได้รับความเสียหาย เนื่องจากข้อความดังกล่าวทำให้ผู้อ่าน อาจเข้าใจว่า อาจารย์สาวเคยมีใจให้พระและกลัวภัยที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองเนื่องจากพระมีการรีวิวอาวุธปืนชนิดต่างๆลงในช่องยูทูปด้วย จนอาจารย์ ตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดี 2 คดีนั้น 

ดร.จีรศักดิ์ ปันลำ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง  กล่าวว่า ก่อนหน้านนี้ทาง พระนิสิต กับ อาจารย์ก็ไม่ได้รู้จักกัน แต่หลังจากที่อาจารย์ผู้เสียหายซึ่ปกติจะสอนพระพุทธศาสนาปละจิตวิทยาแนะแนว และมารับตำแหน่งหัวหน้างานกิจการนิสิต ซึ่งต้องดูแล ประสานงานกับนิสิตที่ใกล้จะจบ เรื่องการฝึกงาน การปฎิบัติศาสนกิจ การบริการสังคม  ซึ่งพระนิสิตได้ขอเบอร์อาจารย์เพื่อจะติดต่อเรื่องการจบดังกล่าว แต่เมื่อได้เบอร์ไปแล้วก็มีการโทรศัพท์หาทั้งกลางวัน กลางคืน ดึกดื่น จนอาจารย์ทนไม่ได้ ก็ได้มารายงานผู้บริหาร ก็คิดว่าเรื่องจะจบ แต่พระนิสิตก็ยังไม่จบยังเขียนข้อความส่งให้ให้อาจารย์ในทางจีบชู้สาว อาจารย์เตือนดีดีก็ไม่หยุด สุดท้ายก็ต้องด่าให้เจ็บบ้างก็ยังไม่หยุด ซึ่งในช่วงแรกทาง ผู้บริหารก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรรุนแรง แต่หลังเป็นข่าวจึงพบว่าพระมีการนำเรื่องต่างๆไปลงเผยแพร่สาธารณะช่องยูทูปและมีการรีวิวอาวุธและอื่นๆอีกจำนวนมาก 

"จึงได้มีการพูดคุยกันว่าในวันพรุ่งนี้(31 ส.ค.)จะได้เชิญคณะกรรมการมาประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาถึงความเป็นนิสิตของพระรูปดังกล่าวตามระเบียบของ มจร.โดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านมาพระยังไม่จบ เพราะติด I หรือ F และมีการหยุดยาวไปเกือบ 1 ปีแล้ว และเพิ่งกลับมาขอซ่อม ซึ่งหากมีพฤติกรรมดังกล่าวก็อาจจะต้องให้พ้นสภาพความเป็นนิสิตไป ส่วนตัวอาจารย์ทาง มจร.ก็ได้มีการพูดคุยให้กำลังใจกันไป เพราะในสถานที่แห่งนี้เราไม่รู้ว่าใครมีความคิดอย่างไร แต่ด้านความปลอดภัยก็ได้ให้ตำรวจมาคอยตรวจตราแล้ว"

ด้านพ.ต.อ.กฤษฎา พงษ์สุวรรณ ผกก.สภ.เกาะคา กล่าวว่า หลังจากที่ผู้เสียหายมาแจ้งความรวมแล้ว 2 ครั้ง 2 คดี คดีแรกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสำนวนให้อัยการฟ้องแล้วรวม 5 ข้อหาคือ 1.หมิ่นประมาท โดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพ หรือตัวอักษรที่ทำให้ปรกไม่ว่ด้วยวิธีใด ๆ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น
2”นำเข้าสู่ระบดอมพิวเตอร์ซึ่งข้อลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้น
ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ 3.เผยพร่หรือสต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่เป็นข้อมูลคอมพิวเตอที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประขาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ 4.นำข้สู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอจเข้ถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปล ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการ อื่นใด โดยประการที่น่จะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย 5.กระทำด้วยประกรใด ๆ ต่อผู้อื่ อันป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ

คดีที่2 พนักงาานสอบสวนได้ตั้งข้อหาแล้ว 5 ข้อหาเช่นเดียวกัน แต่ได้แจ้งข้อหาแล้ว1 ข้อหาคือ1. หมิ่นประมาท โดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพ หรือตัวอักษรที่ทำให้ปรกไม่ว่ด้วยวิธีใด ๆ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ส่วน ข้อหาที่ 2-5 นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยขั้นตอนคือส่งข้อมูลไปทางจราจรทางอิเล็คทรอนิกไปยัง ปอท.ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณๅเดือน เมื่อได้รับข้อมูลแล้วทางพนักงาานสอบสวนก็จะแจ้งข้อกล่าวหาและส่งอัยการฟ้องต่อไป

ส่วนพระอำพล ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา เมื่อ 26 พฤษภาคม 2563 ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาหลังทางพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกไปรอบที่2 โดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น และจากการตรวจสอบช่องยูทูปในซื่อ Thebiggeorge ซึ่งเป็นของพระอำพล ยังพบว่า คงยังมีการไลฟ์สด ต่อว่าหลายคนไม่หยุด โดยเมื่อเช้าวันนี้ยังคงไลฟ์ ในหัวข้อ ขออนุญาตชี้แจงอธิบายด้วยเหตุด้วยผล ที่กลายเป็นข่าว! ก็ยังคงพูดจาวกวนไปมากว่า2ชั่วโมง และพาดพิงไปหลายฝ่าย โดยอ้างว่าการเสนอข่าวเป็นเพียงมุมมองฝ่ายเดียว และยังโทษครูว่ามีส่วนทำให้เกิดเรื่องนี้และถามว่าครูเสียหายอะไรมากมาย และการที่สื่อนำข่าวนี้ไปนำเสนอเพราะต้องการเรทติ้งอีกด้วย