'ยุทธพงศ์'ดักคอ'กมธ.ฯ'ดึงเกมพิจารณางบยื้อปมร้อนซื้อเรือดำน้ำ


เพิ่มเพื่อน    

30 ส.ค.63-ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 แถลงเรื่องเรือดำน้ำว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำของกองทัพเรือ ส่อขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ตนยืนยันจะต่อสู้ต่อไปเพื่อยับยั้งไม่ให้ซื้อ 

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ในวันที่ 31 ส.ค. เวลา 09.00น. ต้องติดตามดูการประชุมกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯว่าจะมีการดึงเกมเรื่องนี้อออกไปอีกหรือไม่ อีกทั้งในรายงานของคณะอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯมีสาระสำคัญที่เขาไม่กล้าให้ชี้แจง โดยเฉพาะหน้า 17 ที่ระบุว่าสัญญาการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และบันทึกการเจรจาไม่มีข้อผูกมัดในการเลื่อนการจัดซื้อเรือดำน้ำ หมายความว่าสามารถเลื่อนได้ แต่มีความพยายามบอกว่าเลื่อนไม่ได้ เพราะจะโดนค่าปรับ แต่ผลสรุปของคณะอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯมีความชัดเจนว่าไม่เกิดความเสียหาย 

นอกจากนี้ ทางสภาฯนัดประชุมวาระ 2-3 แล้วในวันที่ 21-22 ก.ย. และสำนักงบประมาณได้แปรญัตติรอไว้แล้วแต่แปรญัตติไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าต้องตัดงบประมาณอีกจำนวนเท่าไหร่ ถ้าเรื่องนี้ยังไม่สรุปก็ต้องรอกันไป ไหนจะต้องทำข้อสังเกตของกมธ.งบประมาณ เพื่อจัดพิมพ์ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 1,550 เล่ม และจะต้องจัดส่งให้ถึงมือส.ส.ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ตนเกรงว่าสุดท้ายถ้าพิจารณากันไม่ทันภายใน 105 วันจะต้องประกาศใช้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณเดิมของรัฐบาลไปเลยหากดูไทม์ไลน์แล้วกลัวว่าจะไม่ทัน

"ผมจะนำรัฐธรรมนูญมาต่อสู้ ถ้ารัฐบาลที่ดึงดันจะผ่านเรือดำน้ำให้ได้ เพราะมาตรา 55 บอกว่ารัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพทั่วถึง ถามว่าขณะนี้รัฐบาลดูแลสาธารณสุขและโรคโควิด-19ได้แล้วหรือ ทำไมไม่เอาเงินไปซื้อเรือดำน้ำมาให้ประชาชนตรวจโควิด-19 มาตรา 62 บอกว่ารัฐต้องรักษาวินัยการเงินการคลังอย่าเคร่งครัดนั้น ถามว่าจะจัดระบบภาษีให้ความเป็นธรรมต่อสังคมอย่างไรเพราะเงินซื้อเรือดำน้ำมาจากภาษีประชาชน ทำไมไม่นำเงินมาช่วยประชาชนก่อน มาตร 75 ระบุว่ารัฐต้องจัดระบบเศรษฐกิจให้ประชาชนพึ่งพาตนเองได้และต้องอยู่เย็นเป็นสุข ถามว่าการซื้อเรือดำน้ำนั้นทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขหรือไม่"

นายยุทธพงศ์ระบุว่า ขอเรียกร้องพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่บอกว่ามีเอกสารครบถ้วน ถ้าเรื่องนี้เป็นจีทูจีต้องมีหนังสือรับมอบอำนาจฉบับเต็มจากรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนไปลงนาม การมอบอำนาจให้พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. ในฐานะเสนาธิการทหารเรือไปลงนามแทน นั้นขอให้พล.อ.ประวิตรนำมาแสดง แต่ตนคิดว่าไม่มีหนังสือดังกล่าว อีกทั้งถ้าเป็นจีทูจริงจะเข้าข่ายรัฐธรรมนูญมาตรา 178 ที่ระบุว่าสัญญาที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม และความมั่นคงของรัฐ ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาภายใน 60 วันนั้น ตนตรวจสอบแล้วยังไม่เคยมีเรื่องดังกล่าวทั้งจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และรัฐสภาที่มาจากากรเลือกตั้งจึงส่อขัดมาตรา 178 

"สงสัยว่าไม่ใช่การซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐจริงๆ และไม่เคยเห็นรัฐบาลจีนส่งใบเสนอขายเรือดำน้ำมาให้รัฐบาลไทย และเมื่อไปดูสัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรก มีการจ่ายเงินให้ไปบริษัท China Shipbuilding & Offshore International (choc) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ทำไมไม่มีการโอนเงินไปให้กระทรวงการคลังหรือกระทรวงกลาโหมของจีน และบริษัทดังกล่าวก็ไม่มีใบมอบอำนาจจากรัฐบาลจีน จึงมีความผิดปกติที่ผ่านมากองทัพเรือชี้แจงไม่ละเอียดเรื่องการลงนามจีทูจี ถ้าพยายามดึงดันให้ผ่านกมธ.งบประมาณ ตนจะเสนอพรรคเพื่อไทยยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ โดยเปรียบเทียบกับพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความตกไป ที่สำคัญ โครงการใหญ่ขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตี แบประธานนาธิบดี สี จิ้น ผิง เซ็นร่วมมือกันเรื่องเรือดำน้ำเลย"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"