“จุรินทร์” ท้าชนวิกฤติเศรษฐกิจโควิด-19 ลุยต่อยอด "เกษตรผลิต   พาณิชย์ตลาด”  ปลุกพาณิชย์ทั่วประเทศ ทำหน้าที่ “เซลล์แมนจังหวัด” พร้อมดันไทยศูนย์กลางสินค้าเกษตรและอาหารคุณภาพของโลก

นับเป็นการขับเคลื่อนครั้งสำคัญท่ามกลางวิกฤติโควิด-19   ของกระทรวงพาณิชย์ภายใต้การนำของ“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในการสานต่อภารกิจของรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่น  ทั้งการสร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร สร้างรายได้ที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อเกษตรกร ประชาชน ดูแลภาระค่าครองชีพ และเสริมสร้างเศรษฐกิจของภูมิภาคให้เข้มแข็ง ด้วยเล็งเห็นว่าเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นเป็นกลจักรสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมให้บรรลุตามเป้าหมายได้

โดยวันที่ 28 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เป็นประธานเปิดงาน “เซลส์แมนจังหวัด จัดซื้อขายแลกเปลี่ยน Counter Trade” และร่วมเป็นสักขีพยานในการทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าเกษตรระหว่างจังหวัด โดยมี นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนางอุมาพร พิมลบุตร รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงทั้งจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พาณิชย์จังหวัด ผู้ประกอบการ สหกรณ์การเกษตร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ทั้งจากส่วนกลางและภูมิภาค จำนวนกว่า 400 คน เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ รร.รามาการ์เด้นส์

งาน “เซลส์แมนจังหวัด จัดซื้อขายแลกเปลี่ยน Counter Trade” นี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยการส่งเสริมตลาดสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ให้เศรษฐกิจการค้าหมุนเวียนสร้างรายได้ให้ชุมชน และการสร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร สร้างรายได้ที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อเกษตรกร นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เพื่อให้ภาคการผลิตและภาคการตลาดเดินไปในทิศทางเดียวกัน และสร้างการบริหารที่เชื่อมโยงร่วมกันของทั้งสองกระทรวงฯ โดยให้พาณิชย์จังหวัดทำหน้าที่เป็นพนักงานขายหรือเซลส์แมนจังหวัด นำผลผลิตทางการเกษตรและผลไม้ในจังหวัดตนเอง จับคู่ทำสัญญาซื้อขายระหว่างกันในรูปแบบ Business Matching หรือ การค้าแบบแลกเปลี่ยนกับจังหวัดอื่น ๆ ทั้งในรูปแบบของการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือการชำระเป็นตัวเงิน ซึ่งหากสินค้าที่แลกเปลี่ยนมีส่วนเหลื่อมของราคาก็ให้ชำระส่วนต่างเป็นเงินสดได้ ซึ่งที่ผ่านมาทีมเซลส์แมนจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด สามารถแลกเปลี่ยนสินค้า และซื้อขายสินค้า ใน 5 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วย ผลไม้ ข้าวสาร ปศุสัตว์ ประมง และอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 778 ล้านบาท

สำหรับงาน “เซลส์แมนจังหวัด จัดซื้อขายแลกเปลี่ยน Counter Trade” ถือการต่อยอดจากงานเปิดตัววิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” และการจัดงาน “อาหารไทย อาหารโลก” ภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ซึ่งขณะนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทั้งจากการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา และ

“การจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะเกิดยอดสั่งซื้อทันทีมากกว่า 1,500 ล้านบาท  ซึ่งสามารถช่วยกระจายผลผลิตของเกษตรกรที่ประสบปัญหาในช่วงที่ผ่านมา เร่งกระจายผลผลิตที่ออกมากในฤดูกาลออกนอกพื้นที่ เช่น สามารถกระจายมะม่วงกว่า 5,000 ตัน มีมูลค่าประมาณ 31 ล้านบาท จากจังหวัดต้นทาง 23 จังหวัด ออกสู่ปลายทางทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ  ลิ้นจี่ จากพื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือสู่ปลายทาง 35 จังหวัด จำนวน 1,300 ตัน มีมูลค่า 160 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีผลไม้ชนิดต่าง ๆ ที่ส่งมอบแล้วกว่า 7,000 ตัน มีมูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งก้าวต่อไป ปีหน้ากระทรวงพาณิชย์ได้วางเป้าหมายให้พาณิชย์จังหวัดในฐานะเซลส์แมนจังหวัด ต่อยอดการเชื่อมโยงซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าให้มีมูลค่ามากกว่า 2,500 ล้านบาท”   ”  นายจุรินทร์  กล่าว

โดยการจัดงานครั้งนี้ ถือได้ว่ามีส่วนช่วยสร้างรายได้ให้กับภาคการผลิตสินค้าเกษตร จากการเพิ่มโอกาสทางการตลาดและช่องทางการจำหน่ายใหม่ และยังพัฒนาทักษะความสามารถทางการค้า และการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับตลาด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน  ตรงตามวิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต อันจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจภูมิภาคให้เข้มแข็ง และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคงและเข้มแข็งได้ต่อไป.