"จุรินทร์" เผยไม่ได้พูดเรื่องเรือดำน้ำกับนายกฯ  เพราะต่างฝ่ายต่างพูดชัด ให้ กมธ.ทำหน้าที่ ยันไม่ลืมสถานะว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ แต่อีกหน้า! "อันวาร์" ลั่นมติพรรคให้ชะลอไว้ก่อนถูกต้องแล้ว รัฐบาลต้องลำดับความสำคัญแก้วิกฤติประเทศก่อน

    เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ประเด็นการจัดซื้อเรือดำน้ำว่า เราให้คณะกรรมาธิการของพรรคทั้ง 7 คนไปหารือในคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ต้องรอผลว่าเป็นอย่างไร จากนั้นเขาคงแจ้งให้พรรคทราบต่อไป
    ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวคณะกรรมาธิการของพรรคประชาธิปัตย์จะวอล์กเอาต์ไม่ร่วมลงมติเรื่องนี้ รองนายกฯ ตอบว่า แจ้งไปแล้วว่าให้ไปหารือกันก่อน บางครั้งพูดอะไรไปก่อนอาจจะเป็นปัญหามากกว่าไปช่วยหาทางออก คิดว่าที่ประชุมกรรมาธิการชุดใหญ่จะหาทางออกได้
    เมื่อถามว่า การตัดสินใจอย่างไรต้องคำนึงถึงการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายจุรินทร์ยืนยันว่า ต้องพิจารณาประกอบกันทั้งหมด เราต้องไม่ลืมสถานภาพของเราว่าขณะนี้เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ และต้องมาคิดว่าเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องความมั่นคงต่างมีความสำคัญ ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่าอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมาธิการฯ ก็ขอให้เขาได้ทำหน้าที่ หาทางออกที่ดีที่สุดควรเป็นอย่างไร
    "ให้เขาไปคุยกันก่อน เพราะกรรมาธิการประกอบด้วยพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน เรื่องนี้ผมไม่ได้คุยกับนายกฯ เพราะท่านก็พูดชัด ผมก็พูดชัดว่าอยู่ในขั้นตอนกรรมาธิการ ก็ให้เขาได้ทำหน้าที่"
    ถามว่าจะไม่โหวตสวนกับพรรคร่วมใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไปไม่ถึงการลงมติ ให้เขาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกันว่าผลเป็นอย่างไร
    นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆ ที่เป็นการผูกมัด อันอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายรัฐบาลไทยในกรณีที่จำเป็นต้องยกเลิก หรือชะลอการซื้อในช่วงที่ประเทศยังอยู่ภายใต้วิกฤติขณะนี้ พรรคประชาธิปัตย์จึงมีมติไม่เห็นชอบในการจัดซื้อเรือดำน้ำ
         "ส่วนตัวเห็นด้วยกับมติพรรค แม้เหตุผลที่กองทัพเรืออ้างภารกิจเรื่องความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรับฟัง แต่ความมั่นคงของประเทศมีหลายด้าน ควรต้องลำดับความสำคัญก่อนและ หลัง รัฐบาลจึงควรเห็นแก่วิกฤติประเทศก่อน" นายอันวาร์กล่าว
    ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช ตัวแทนคณะก้าวหน้า กล่าวที่ภูเก็ตว่า การซื้อเรือดำน้ำเพื่อไว้คานอำนาจกับประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ให้ชะลอซื้อเรือดำน้ำ หากยังเดินหน้าจะมีการโหวตค้านการซื้อเรือดำน้ำ ทำให้รัฐบาลเลื่อนเป็น 31 สิงหาคมนี้
    "เราได้แต่หวังว่าสุดท้ายจะถอย ขอให้เลื่อนการซื้อปีหน้า เศรษฐกิจวิกฤติขนาดนี้ ซึ่งงบประมาณซื้อเรือดำน้ำเป็นเงินกว่า 20,000 ล้านบาท หากรวมส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องของเรือดำน้ำ รวมเบ็ดเสร็จทั้งหมด 34,000 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นภาษีของประชาชนที่ถูกนำไปใช้ จึงเป็นสิทธิของประชาชนที่ต้องแสดงสิทธิแสดงเสียงในการลุกขึ้นมาต่อสู้" น.ส.พรรณิการ์กล่าว.