ชวน-อภิสิทธิ์ 'ทาง ๒ แพร่งพรรค'


เพิ่มเพื่อน    

            ก็เห็นใจ "อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์"!

              ที่ดิ้นสู้............

            ถึงขั้นเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าการออกคำสั่ง คสช.ที่ ๕๓/๒๕๖๐ ของนายกฯ เข้าเงื่อนไขการใช้มาตรา ๔๔ หรือไม่?

            ในความเห็นผมนะ.......

            แพ้-ชนะ เป็นอีกเรื่อง แต่เมื่อจะสู้ ก็ต้องสู้ชนิด "ชาติเสือต้องอำมหิต-ชาติอภิสิทธิ์ต้องห้าว"

            ฉะนั้น คุณอภิสิทธิ์ "ลาออก" ซะ!

            ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าประชาธิปัตย์ แล้วยกคณะพรรคไปพบ "อดีตนายกฯ ชวน"

            บอกกับท่าน.......

            "เพื่อผดุงหลักการ" เพื่อรักษา "ฐานศรัทธาพรรค" ให้ดำรงอยู่ ก็โขกศีรษะขอร้องให้ท่าน........

            รับเป็น "หัวหน้า" อีกสักครั้ง!

            ให้ท่านชูธงนำสมาชิกพรรค ลงสู้สนามเลือกตั้ง ตามกติการัฐธรรมนูญ ว่าด้วย "บทเฉพาะกาล ๕  ปี" นี้

            ก็คงไล่เลี่ยกับมาเลเซีย.......

            ที่ตอนนี้ "อดีตนายกฯ มหาเธร์" ได้รับการหนุนเป็นตัวแทนฝ่ายค้าน ลงชิงเก้าอี้นายกฯ ราวๆ เดือนสิงหา

            มหาเธร์ อีก ๘ ปีครบ ๑๐๐ แต่เมื่อได้รับการวางตัวลงชนกับนายกฯ นาจิบ ราซัค ในสนามเลือกตั้ง

            "จับเสือใส่ถังพลังสูง" เป็นอย่างไร มหาเธร์ก็อย่างนั้น

            แต่ "อดีตนายกฯ ชวน" ของไทย เทียบแล้ว วัยแค่ ๗๙-๘๐ ถือว่า "ยังหนุ่มทั้งแท่ง"

            สมองยังไบรต์ ร่างกายฟิตเปรี๊ยะ ตัดประเด็น "สังขารไม่อำนวย" ทิ้งไปได้เลย

            ขึ้นอยู่กับว่า "ใจ.........

            ยังสู้อยู่หรือเปล่า" เท่านั้น?!

            ขอเพียงท่านเห็นแก่พรรคและแก่สถานการณ์บ้านเมืองช่วงหัวเลี้ยว-หัวต่อศตวรรษใหม่

            รับภาระ "นำพาพรรค" ส่วนจะได้มาก-ได้น้อย เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ที่สำคัญ

            ประชาธิปัตย์ "ไม่เสียพรรค"

            อภิสิทธิ์ "ไม่เสียมวย" แน่นอน!

            คุณอภิสิทธิ์นั้น ถือว่า เป็นทรัพยากรคุณภาพของสังคมชาติคนหนึ่ง ที่นำความรู้-ความสามารถมาอุทิศเพื่อสังคมชาติผ่านดงการเมือง

            "ความจริงใจต่อบ้านเมือง" มันสู้ "ความกลอกกลิ้งในการเมือง" ไม่ได้หรอก

            คุณอภิสิทธิ์ ดูตามอาวุโสการเมือง ถือว่า "โตเร็ว"

            ในความโตเร็ว..........

            ประสบการณ์ด้านความกลอกกลิ้งจึงยังน้อย เพราะอย่างนั้น ถึงยืนหยัดบนเวทีได้

            แต่มันทำให้ "ช้ำ-โชกเลือด" ตั้งแต่ยกแรก!

            รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ นั้น

            ด้วยเชิงนักเลงการเมือง มองปร๊าดผ่านมาตราว่าด้วยเลือกตั้งและเฉพาะกาล ก็เหมือนใส่แว่นดำมองคนแก้ผ้า ยังไงก็เห็น

            เห็นว่า...เขาออกแบบมา ๕ ปีแรก

            ..........."คสช.เขาขอก่อน"!

            ก็แหม...ขนาด "โนอาห์" เป็นตัวแทนพระเจ้าชี้ทางดีต่อเพื่อนมนุษย์แท้ๆ

            ยังต้อง "ต่อเรือลำใหญ่" ล่วงหน้า เป็น "ทางรอด" รองรับอนาคตเลย

            นับประสาอะไรกับ "คณะ คสช." จะไม่สร้างบันไดพาดตลิ่งไว้ก่อน

            เห็นๆ กันอยู่..........

            ไอ้เข้-ไอ้โขง "ดงการเมือง" มันอ้าปากรองาบ หล่นต๋อมลงไปละก็ เป็นได้หมับเดียว "ทั้งพวง" กระจุย!

            เหตุดังเห็น คุณอภิสิทธิ์ยังจะใช้ใจวิญญูชน ไปชนกับใจ คสช.เพื่ออะไร?

            หลักการ "สู้" มันมีอยู่ ไม่ใช่เอะอะ "ผิดหลักการ" กูชนดะ!

            ชนน่ะ "ชนได้".........

            แต่ "ชนแล้ว" ได้อะไร และที่ได้ "ใคร" เป็นฝ่ายได้?

            มีคำว่า "ฟ้าดินแปรเปลี่ยน แต่ปณิธานนักสู้ย่อมไม่เปลี่ยน ในเมื่อเหลือแมกไม้ไว้ ไยต้องกลัวไร้ไฟฟืน"

            ปณิธานคนก็เยี่ยงนั้น ไม่จำเป็นต้องเดี๋ยวนี้ สมัยนี้ เลือกตั้งเทอมนี้หรอก

            คุณอภิสิทธิ์นั้น มากสัญญา มากสัจจะ มากเงื่อนไข และสะสมความแค้นทั้งเขา-ทั้งเรา มากเกินไป

            ถอยออกมา "สักพัก" ก่อนเถอะ!

            ตัดสัญญา ตัดเงื่อนไข สลายความแค้น ด้วยการ "เว้นวรรค" ตำแหน่งเจ้าสำนักไว้สักครา

            ไปฟื้นฟูร่างกาย ไปปรับพลังลมปราณอยู่ในแถว ๒ แล้วน้อมเชิญ "ซือแป๋" ของท่าน คืออดีตนายกฯ ชวน

            ให้มานำพาพรรคยามนี้ ถือว่า "ประเสริฐสุด"!

            รัฐบาล คสช.พูดกันตรงๆ พลเอกประยุทธ์ นั้น คุณอภิสิทธิ์จะถือเป็นมิตรหรือศัตรู เป็นสิทธิ์เฉพาะตัวท่าน ผมไม่รู้

            แต่รู้ว่า ครั้งหนึ่ง ในสถานการณ์ "เผาบ้าน-เผาเมือง" ปี ๕๓ ทั้งประชาธิปัตย์ โดยคุณอภิสิทธิ์-สุเทพ เป็นตัวนำ

            ทั้งทหาร โดยพลเอกอนุพงษ์-พลเอกประยุทธ์-พลเอกดาว์พงษ์ เป็นตัวนำ

            ร่วมกันทำให้ "บ้านเมืองรอด"........

            จากใฝ่สูงของคนระบอบทักษิณ ที่จะเปลี่ยนประเทศไทยเป็น "แดงทั้งแผ่นดิน"!

            เรื่องใหญ่ "ระดับชาติ" เป็นมิตร "ร่วมมือ" กันได้

            แล้วทำไมล่ะ........

            เรื่องขี้หมา แค่ให้แต่ละพรรค "ยืนยันความมีอยู่จริง" ของจำนวนสมาชิกพรรคปัจจุบัน

            กับพรรคมีทุนประเดิม ๑ ล้าน ให้สมาชิกจ่ายค่าบำรุงพรรค ให้จัดประชุมใหญ่พรรค ให้จัดตั้งสาขาพรรค และ ฯลฯ

            แค่เนี้ย........

            ต้องยึดเป็นศัตรูทางการเมืองชนิด "เดินร่วมถนน" กันไม่ได้เลยเชียวหรือ?

            คำสั่ง ม.๔๔ ของนายกฯ ประยุทธ์ ใช่ "ศิลาจารึก" ที่จะอยู่ไปหมื่นปี-ล้านปีซะที่ไหน

            แค่ "ปราสาททราย" ยามน้ำลด เดี๋ยวน้ำขึ้น คลื่นมันก็เกลี่ยกลืนเหลือแต่ผืนทรายเรียบให้เหยียบและวาดปราสาทหลังใหม่กันไปเรื่อยๆ

            จะมาทึกทัก-จริงจังตายตัวอะไรกับ "อำนาจ-วาสนา" อยู่อีกล่ะ เดี๋ยวมันก็มา เดี๋ยวมันก็ไป ขืนไปบ้ายึด-ขึงตึงไว้

            ก็ต้องไป "ยิงปืนขึ้นฟ้า" แบบนั้นแหละ!

            คุณอภิสิทธิ์ "เอาเยี่ยง" การเมืองจากอดีตนายกฯ ชวนแล้ว ก็ควร "เอาอย่าง" ด้วย

            เอาเยี่ยง จนได้เป็นนายกฯ เหมือนซือแป๋ชวนไปแล้ว

            แต่ตอนไม่ได้เป็นนายกฯ ทำไมไม่ "เอาอย่างท่าน" บ้างล่ะ?  

            ไม่เป็น "ให้เป็น" แล้ว "เป็นสุข" เห็นมั้ย.......

            ไปวาดรูป ไปเป่าแซกโซโฟน ไปขึ้นคอนเสิร์ตสุนทรียโสต ไปเป็นตัวแทนชาวบ้านเขียนจดหมายถึงนายกฯ ปรารภความจนของชาวบ้าน

            วันคืนล่วงไป อดีตนายกฯ ชวนไม่เคยทำให้เวลาทั้งของตัวเองและผู้อื่นว่างเปล่า

            คุณอภิสิทธิ์ยังเคยขึ้นเวที ทั้งร้อง-ทั้งดิ้น ด้วยมิใช่หรือ?

            "มรรค" ยังมีตั้ง ๘ เส้นทาง ที่นำไปสู่ความเป็นอริยะ

            แล้วกะ "การเมือง" นำไปสู่อำนาจครองเมือง........

            คุณอภิสิทธิ์จะมาทึกทักตายตัวกะอีแค่ "เลือกตั้ง" ครั้งนี้ "ครั้งเดียว" อย่างนั้นน่ะหรือ?

            คุณอภิสิทธิ์ "อิน" เข้าไปในการเมืองจน "จมทั้งตัว" มากไปแล้ว

            เพราะอย่างนั้น..........

            ผมถึงอยากให้ "ถอยออกมา" สักก้าว-สองก้าว แล้วใช้ระยะห่างนั้น

            "มองนอก-มองใน" ด้วยสติและใช้สัมปชัญญะรับสิ่งที่สติรู้

            พูดกันแฟร์ๆ คำสั่ง คสช.๕๓/๒๕๖๐ ที่แก้กฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น

            ถ้าพิจารณาตามเนื้อหา ผมว่า "ควรเป็นอย่างที่เขาแก้"

            ที่ผมไม่เห็นด้วย และตำหนิ คสช.โดยเฉพาะตัวนายกฯ ประยุทธ์ คือ.........

            "ไม่เข้าท่าเลย ประกาศใช้กฎหมายไปแล้ว ก็ถือดีในอำนาจ ใช้มาตรา ๔๔ แก้ไขใหม่ตามอำเภอใจ"

            จะเอาอย่างไร ก็ควรให้สะเด็ดน้ำ "ก่อนประกาศใช้"

            ไม่ใช่ประกาศไปแล้ว พวกกูต้องการอย่างนี้ ก็ใช้ ม.๔๔ ลบเก่า-เขียนใหม่ อย่างนั้น

            ถึงทำได้ "ความโอ่อ่า-สง่างาม" มันอยู่ตรงไหน?

            คนเราน่ะ ถึงชนะ ก็สบตาคนไม่สนิท ถ้าชนะนั้น ได้มาแบบขาด "มโนธรรมสำนึก"

            นี่ก็เป็นตัวอย่างสำหรับใครที่จะ "ปฏิวัติ-รัฐประหาร" อย่างหนึ่ง ว่าทุกอย่าง มันมีขั้นตอนปฏิบัติของมัน

            โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก็มี "ขั้นตอนปฏิบัติ" ๑-๒-๓-๔-๕ ห้ามผู้ปฏิบัติ "ลัดขั้นตอน" เด็ดขาด

            ไม่อย่างนั้น จะเป็นอย่าง "เชอร์โนบิล" ที่รัสเซีย

            การปฏิวัติ-รัฐประหารก็เหมือนกัน มีสูตรต้องปฏิบัติตายตัว ห้ามลัดขั้นตอน ๑-๒-๓-๔-๕ ไม่งั้น จะเกิดปัญหา "หมางับน่อง"

            แต่เมื่อ ๒๒ พฤษภา ๕๗ พลเอกประยุทธ์ "ลัดขั้นตอน"!

            คือ สูตรมันมี........

            "ปฏิวัติ-รัฐประหาร" ปุ๊บ ก็ต้อง ฉีกรัฐธรรมนูญปั๊บ ยึดอำนาจรัฐบาลแล้ว

            ต้อง "ยุบพรรคการเมือง" ทั้งหมด!

            แต่พลเอกประยุทธ์ไม่ยุบ ผ่าฝีหัวช้าง รีดเอาหนองออก แต่ดันไม่ขุดเอาหัวฝีที่ฝังอยู่ในเนื้อออก

            ๓ ปี เข้าปีที่ ๔........

            ไข่ดัน คสช. "บวมมาก-บวมน้อย" เดินกะเผลก เพราะหัวฝีฝังในเริ่มสลายพิษ อย่างที่เห็น-ที่เป็นทุกวันนี้แหละ

            ที่ใช้คำสั่ง คสช.รีเซตพรรคใหม่นั้น ความจริง ควรเป็นเช่นนี้ ประเทศชาติ ๑๐ ปี ยังต้องสำรวจ "สำมโนประชากร" ครั้ง

            แล้วนี่พรรคการเมือง "กี่ปี-กี่ชาติ" อ้างตัวเลขสมาชิกเป็นล้านๆ อยู่อย่างนั้น ไม่เคยสำรวจว่า "มีอยู่จริง" ซักเท่าไหร่?

            ต้องไม่ลืม "จำนวนสมาชิก" สัมพันธ์กับการ "จัดสรรเงินสนับสนุน" จาก "กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง" ให้แต่ละพรรคด้วย!

            ถ้าไม่รีเซต...........

            เผลอๆ ระบบ "เงินทอนวัด" อาจระบาดสู่ระบบ "เงินทอนพรรค" ได้!


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"