อัยการโวยลั่น‘ปส.’เรียกสอบ!


เพิ่มเพื่อน    

  แบบนี้ก็มีด้วย กลุ่มอัยการโวย ปส.ส่งหนังสือเรียกอัยการคดียาเสพติดสอบปากคำหลังสั่งไม่ฟ้อง "อดีต สว.ทางหลวง" คดียาเสพติด ชี้ตำรวจไม่มีอำนาจเรียกสอบสวนการใช้ดุลพินิจอัยการ ด้านเจ้าตัวเตรียมยื่นหนังสือขอหารือ อสส.ปมถูกตำรวจเรียกสอบ


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือราชการ (หนังสือเรียกมาสอบสวนปากคำ) ของกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ที่ลงนามโดย พ.ต.อ.กฤษ มีนุชนารถ ผู้กำกับการ (สอบสวน) หัวหน้ากลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด  (บช.ปส.) แจ้งถึงอัยการกองคดียาเสพติด 9 เพื่อขอนัดหมายสอบสวนปากคำอัยการกองคดียาเสพติด 9  รายหนึ่ง
    หนังสือมีเนื้อหาว่า "ตามหนังสือกลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ที่ ตช 0027.52/535 ลง 9 มีนาคม 2561 ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่  105/2560 ระหว่าง พันตำรวจโททิวาพงษ์ พลูโต ผู้กล่าวหา กับ นายสมคิด เสนพิแสง กับพวกรวม 5  คน ข้อหา 'ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน' โดยมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายสมคิดฯ กับพวกไปให้พิจารณาฟ้อง ความโดยละเอียดแจ้งแล้วนั้น
    คดีดังกล่าว กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ได้มีคำสั่งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน กรณีพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง พันตำรวจโทธนกฤต  นิตสพันธ์ ผู้ต้องหา จึงมีความจำเป็นต้องนัดหมายสอบสวนนางสาวสุเมธิณีฯ พนักงานอัยการโจทก์ ในประเด็นข้อบกพร่องในการทำสำนวน และการประสานคดี จึงขอนัดหมายสอบสวนปากคำ 'น.ส.....อัยการคนดังกล่าว' เพื่อดำเนินการให้เสร็จสิ้น ภายในกำหนดเดือน เมษายน 2561
ไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง
    จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอท่านแจ้งให้นางสาว.......พนักงานอัยการฯ ทราบ พร้อมหนังสือนี้ได้แนบเอกสารเกี่ยวข้องจำนวน 5 แผ่น มาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ ผลเป็นประการใดขอท่านแจ้งให้ทราบโดยด่วนด้วย หวังคงได้รับความร่วมมือจากท่านเป็นอย่างดี และใคร่ขอขอบคุณท่านล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้"
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรื่องนี้ในหมู่อัยการได้มีการแสดงความคิดเห็นกันว่า เป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่งที่ฝ่ายตำรวจจะเรียกอัยการไปสอบสวนให้ปากคำในเรื่องการสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นการเข้ามาตรวจสอบดุลพินิจในการสั่งคดีของอัยการ นอกเหนือไปจากที่กฎหมายให้อำนาจไว้ ซึ่งหากฝ่ายตำรวจไม่เห็นด้วยก็มีอำนาจทำความเห็นแย้งได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่มาสอบสวนอัยการหรืออ้างว่าเป็นเพียงแค่เชิญมาชี้แจงข้อเท็จจริงก็ตาม  เพราะเป็นการกระทำนอกเหนือจากกระบวนการตรวจสอบการสั่งคดีของอัยการตามกฎหมาย
    นอกจากนี้ การสั่งคดีของอัยการเป็นการใช้อำนาจดุลพินิจที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญปี  2560 มาตรา 248 วรรคสอง และพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา  21 และ 22 ซึ่งบัญญัติให้อัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดี และดุลพินิจในการพิจารณาสั่งคดีของอัยการซึ่งแสดงเหตุผลสมควรประกอบแล้วย่อมได้รับความคุ้มครอง 
    การพิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีที่มีพันตำรวจโทธนกฤต นิตสพันธ์ เป็นผู้ต้องหานั้น เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน สำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้แต่งตั้งอัยการชั้นผู้ใหญ่ระดับรองอธิบดีและอัยการพิเศษฝ่ายเป็นหัวหน้าและรองหัวหน้าคณะทำงาน และมีอัยการอีกท่านหนึ่งร่วมเป็นคณะทำงานในการพิจารณาสั่งคดี การพิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีนี้จึงผ่านการกลั่นกรองจากอัยการหลายท่านแล้วว่า สำนวนสอบสวนที่พนักงานสอบสวนทำมาไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้
    และหากเห็นว่าพนักงานสอบสวนทำสำนวนบกพร่อง ฝ่ายตำรวจก็สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อบกพร่องในการทำสำนวนสอบสวนของพนักงานสอบสวนของตนได้อยู่แล้ว โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในสำนวนว่ามีความบกพร่องไม่สมบูรณ์อย่างไร โดยไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมาขอสอบสวนอัยการหรือที่อ้างว่าใช้ถ้อยคำในหนังสือผิดพลาด โดยเพียงแค่ให้อัยการไปชี้แจงข้อเท็จจริง  ก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควรอย่างยิ่งและไม่มีอำนาจทำได้ตามกฎหมาย 
ทำหนังสือชี้แจง
    อีกทั้งคดีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องด้วยเหตุที่สำนวนสอบสวนของพนักงานสอบสวนมีข้อบกพร่อง เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้มีเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เช่นนั้นแล้วอัยการไม่ต้องไปให้ปากคำ หรือไปชี้แจงข้อเท็จจริงต่อพนักงานสอบสวนทุกเรื่องหรือ 
    และหากกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 สามารถมีหนังสือเรียกอัยการไปสอบสวนให้ปากคำในคดีนี้ได้ ต่อไปก็จะเป็นแบบอย่างให้พนักงานสอบสวนเรียกอัยการไปสอบสวนในคดีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องรวมทั้งสั่งฟ้อง ซึ่งขัดแย้งกับความเห็นของพนักงานสอบสวนได้ในคดีอื่นๆ ต่อไปได้ ซึ่งเป็นการกระทบกระเทือนและเข้ามาแทรกแซงดุลพินิจในการสั่งคดีของอัยการและกระทบต่อการอำนวยความยุติธรรมในคดีของอัยการ ซึ่งมีบทบาทหน้าที่สำคัญที่จะต้องดำรงความยุติธรรมในคดีด้วยความเที่ยงธรรมและปราศจากอคติทั้งปวงด้วย
    มีรายงานว่า แม้จะมีข่าวว่าทั้งทางฝั่งผู้ใหญ่ บช.ปส.กับผู้ใหญ่ของทางฝั่งอัยการได้ทำความเข้าใจกันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีหนังสือยกเลิกหนังสือเรียกดังกล่าวหรือหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรมาจาก บช.ปส.แต่อย่างใด
    ล่าสุด มีรายงานว่าอัยการเจ้าของสำนวนคนดังกล่าวได้เตรียมทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง และขอหารือกรณีพนักงานสอบสวนขอสอบปากคำอัยการเสนอต่อนายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุดต่อไป
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดียาเสพติดที่มีการสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ธนกฤต นิตสพันธ์ อายุ 48 ปี อดีต สว.สส. กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวงนั้น พนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ได้ควบคุมตัว พ.ต.ท.ธนกฤตยื่นคำร้องฝากขังเมื่อวันที่ 19 มกราคม ตามหมายจับศาลอาญาที่ 25/2561 ลงวันที่ 17 มกราคม 2561 ข้อหาร่วมกันมีกัญชา ยาเสพติดประเภท 5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ และสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 
    โดยคำร้องฝากขังบรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560 เวลาประมาณ 03.00 น. ต่อเนื่องจนถึง 23.00 น. ปส.ได้จับกุมตัวนายสมคิด เสนพิแสง, นายสถาพร ก่ำแก้ว และนายสุชาติ แสงตะวัน พร้อมด้วยของกลาง 10 รายการ คือ กัญชาอัดแท่งหุ้มด้วยพลาสติกใส รวม 520 แท่ง  น้ำหนักรวม 520 กก. ราคา 3,120,000 บาท, รถยนต์บรรทุก 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หัวลาก และรถพ่วง ทะเบียนสระบุรี, โทรศัพท์มือถือไอโฟนและยี่ห้ออื่นรวม 6 เครื่อง, กระเป๋าหนังสะพาย สีน้ำตาล และเอกสารประกอบคดี 18 แผ่น
    ส่วน พ.ต.ท.ธนกฤต ผู้ต้องหาคดีนี้ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานพบว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิด ด้วยการช่วยเหลือ มีส่วนร่วมลำเลียงกัญชาของกลางไปให้ลูกค้า และสมคบกันตั้งแต่ 2  คนขึ้นฯ ทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ กับรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อให้ความสะดวกในการกระทำผิดด้วย ตามความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ม.4, 7(5), 26  วรรคสอง, 76/1 วรรคสอง, 102 และ พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ม.6 (4), 8 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา ม.83 ในชั้นสอบสวน พ.ต.ท.ธนกฤต ผู้ต้องหาคดีนี้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"