ย้ายผู้บัญชาการเรือนจำปากน้ำ หลังนักโทษคดียาเสพติดอาการหนักไปตายที่โรงพยาบาล แพทย์ชันสูตรพบอาหารติดหลอดลมแต่มีแผลเต็มตัว อธิบดีกรมราชทัณฑ์ตั้งกรรมการสอบ  โยกผู้บัญชาการเรือนจำนครสวรรค์เสียบ
    หลัง น.ช.พัฒนชิรพงฐ์ บูญญะเสมา อายุ 34 ปี ต้องโทษในความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ  กำหนดโทษ 3 ปี 9 เดือน เหลือโทษจำต่อ 1 ปี 8 เดือน ซึ่งเป็นโทษครั้งที่ 2 เสียชีวิตขณะถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ แพทย์ได้ดำเนินการชันสูตรพลิกศพ พบว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอาหารติดหลอดลม แต่เนื่องจากมีบาดแผลตามร่างกาย จึงทำให้ญาติของผู้เสียชีวิตเกิดความไม่เข้าใจ และได้ลงข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อแหม่มโพธิ์ดำ เรียกร้องความยุติธรรมว่าการเสียชีวิตของ น.ช.พัฒนชิรพงฐ์อาจมีสาเหตุจากการลงโทษของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
    พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากเรือนจำได้สืบทราบว่าผู้ต้องขังที่เสียชีวิตรายนี้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับยาเสพติดเข้ามาภายในเรือนจำ จึงได้เรียกตัวมาทำการสอบสวน จากนั้นได้มีการลงโทษทางวินัย แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเรือนจำมีการกระทำที่เกินกว่าเหตุจนทำให้ผู้ต้องขังรายนี้เสียชีวิตหรือไม่ 
    เขากล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เบื้องต้นได้ออกคำสั่งย้ายนายกฤษณ์ วงษ์เวช ผบ.เรือนจำกลางสมุทรปราการ ให้มารักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกรม สังกัดสำนักผู้ตรวจราชการกรม และให้นายวิชัย โชติปฏิเวชกุล ผบ.เรือนจำกลางนครสวรรค์ ไปรักษาการในตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ
      พ.ต.อ.ณรัชต์บอกว่า กรมราชทัณฑ์ได้ประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนที่จะยกเลิกการลงโทษที่โหดร้ายทารุณ รวมทั้งได้เน้นย้ำกำชับให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทุกระดับ กำกับดูแลและเลิกการกระทำดังกล่าวโดยเด็ดขาด 
    อธิบดีกรมราชทัณฑ์เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรมราชทัณฑ์มิได้นิ่งนอนใจ และได้เดินทางไปร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมเพื่อแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต พร้อมที่จะเยียวยาให้ญาติผู้เสียหาย หากการตรวจสอบพบว่าผู้เกี่ยวข้องมีความผิดจริงก็จะดำเนินการตามวินัยและทางคดีอาญาต่อไป
      อนึ่ง น.ช.พัฒนชิรพงฐ์เป็นผู้ต้องขังในคดียาเสพติด ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี 9 เดือน  ขณะเสียชีวิตถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ เหลือโทษจำต่อ 1 ปี 8 เดือน ซึ่งเป็นโทษจำคุกครั้งที่ 2
    โดยสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์ได้ดำเนินการชันสูตรพลิกศพ พบว่าเสียชีวิตจากอาหารติดหลอดลม  แต่เนื่องจากมีบาดแผลตามร่างกาย จึงทำให้ญาติของผู้เสียชีวิตเกิดความไม่เข้าใจและเรียกร้องความยุติธรรมว่า การเสียชีวิตของ น.ช.พัฒนชิรพงฐ์อาจมีสาเหตุมาจากการลงโทษของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
    พ.ต.อ.พีรศักดิ์ รอดบน ผกก.สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า ในส่วนของการดำเนินคดี หลังญาติของผู้ต้องขังที่เสียชีวิตระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำกลางสมุทรปราการ (เรือนจำคลองด่าน) ติดใจการเสียชีวิตและร้องเรียนผ่านเพจแหม่มโพธิ์ดำนั้น เบื้องต้นเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา สภ.คลองด่านได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากเรือนจำว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย.61 ผู้ต้องขังที่อยู่ในความควบคุมของเรือนจำได้เสียชีวิตที่ รพ.บางบ่อ จึงได้ทำการตรวจสอบทราบว่า สภ.บางบ่อได้นำศพส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างรอผลจากแพทย์ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดตามกฎหมายต่อไป 
    อย่างไรก็ตามในส่วน สภ.คลองด่านซึ่งมีเรือนจำกลางสมุทรปราการอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ จะได้ประสานญาติและเจ้าหน้าที่เรือนจำมาเพื่อทำการสอบสวนถึงประเด็นที่ญาติติดใจ และรอผลการชันสูตรจากแพทย์สถาบันนิติเวชมาประกอบการสอบสวนต่อไป หากพบว่ามีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้นก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
     ด้าน พ.ต.อ.สรวิศ สุขแพทย์ ผกก.สภ.บางบ่อ กล่าวว่า สภ.บางบ่อได้รับแจ้งจาก รพ.บางบ่อ เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 18 เม.ย.ว่ามีผู้ต้องขังชายจากเรือนจำสมุทรปราการ ทราบชื่อคือนายพัฒนชิรพงฐ์ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล พนักงานสอบสวนเวรจึงประสานไปยังพนักงานอัยการ ฝ่ายปกครอง  ญาติของผู้เสียชีวิตและแพทย์เพื่อเข้าตรวจสอบร่วมกัน 
    แต่เนื่องจากเป็นคดีชันสูตร เสียชีวิตขณะถูกเจ้าหน้าที่ควบคุม ทางพนักงานสอบสวนจึงต้องส่งศพให้แพทย์สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจผ่าศพเพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง ซึ่งระหว่างที่รอผลการชันสูตรนั้น สภ.บางบ่อก็จะเชิญญาติและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อสรุปเป็นสำนวนส่งต่อให้อัยการทำการยื่นคำร้องต่อศาลให้มีการไต่สวนการตายอีกครั้ง
    ส่วนกรณีมีหญิงสาวโพสต์ร้องขอความเป็นธรรมที่แฟนหนุ่มถูกซ้อมเสียชีวิตในเรือนจำกลางสมุทรปราการนั้น หญิงสาวคนดังกล่าวได้โพสต์คลิปที่มีภาพถ่ายคู่กับแฟนหนุ่มผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมระบุข้อความว่า "หนูยังอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆ พี่เสมอนะ เหตุการณ์มันอาจจะพรากร่างกายพี่ไปจากหนู แต่มันพรากความรักที่เรา 2 คนมีให้กันไม่ได้ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา ขอบคุณรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ กำลังใจ ขอบคุณที่เข้ามาเติมเต็มในชีวิตของหนู... 
    หนูเชื่อพี่ ที่พี่บอกหนูอยู่เสมอว่า นอกจากครอบครัวหนูแล้วไม่มีใครรักหนูเท่าพี่ หนูเชื่อแล้ว เพราะตลอดเวลา 5 ปี 5 เดือน 24 วัน พี่พิสูจน์ให้หนูเห็นมาตลอดว่าพี่รักหนูมากแค่ไหน พี่บอกเสมอว่าพี่ห่วงหนู หนูสัญญาหนูจะเข้มแข็ง หนูจะดูแลตัวเอง พี่เชื่อหนูนะ พี่ไม่ต้องห่วง หลับให้สบาย ไม่ต้องกังวลอะไรอีก จากกันโลกดุนยาเพื่ออยู่ด้วยกันตลอดไปในโลกอาคีเราะห์... 
    ขอบคุณที่เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในหนทางของศาสนา หนูขอโทษที่หนูไม่สามารถเอาร่างของพี่มาเข้าพิธีศาสนาเราได้ แต่พี่เชื่อเหอะว่าอัลเลาะห์รับรู้ แค่นี้ก็พอแล้ว หนูจะเอาตัวคนที่ทำผิดมาลงโทษ หนูจะสู้ให้ถึงที่สุดนะพี่เจ็บไหม ทำไมเขาต้องทำกับพี่ขนาดนี้ หนูขอโทษที่ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยรักสุดหัวใจ".