27 ส.ค.63 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ถ้าในหลวงไม่ได้สั่งให้ปฎิวัติ แล้วทำไมในหลวงพระนามรับรองคณะปฎิวัติ? การลงพระนามของในหลวงคือ พิธีการ พิธีการที่ในภาวะปกติ นายกรัฐมนตรีหรือประธานรัฐสภา มีหนังสือหรือกฎหมายมาถวาย ก็ต้องลงพระนาม หรือในภาวะไม่ปกติ เช่น การปฏิวัติรัฐประหาร หัวหน้าคณะรัฐประหารก็มาถวายหนังสือมาถวายให้ลงพระนาม ถึงในหลวงไม่ลงพระนาม กฎหมายนั้นก็มีผลบังคับใช้อยู่ดี
ในหลวงอยู่เหนือการเมือง แต่ทรงอยู่ในฐานะที่เคารพสักการะ เพราะฉะนั้นการส่งหนังสือให้ลงพระนามคือการถวายพระเกียรติ และเป็นพิธีการ พระองค์ก็ต้องทำตามพิธีการ ซึ่งเป็นพิธีการในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือที่เรียกกันในระดับสากลว่า ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
ยกตัวอย่างง่ายๆ ใกล้ๆตัว ถ้าลูกๆ วัยรุ่นเฮี้ยวๆ อยากออกไปเที่ยงคืน แต่พ่อแม่ไม่อยากให้ไป สุดท้ายยังไงมันก็ไม่ฟังหรอก ยังไงมันก็ไปอยู่ดี แต่ก่อนจะไป ต้องบอกกันหน่อยว่าจะไป เป็นพิธี เพื่อให้เกียรติกัน
กรณีแบบนี้คล้ายกัน ลงพระนาม เป็นไปตามพิธีการ คนที่เอาไปให้ลงพระนามก็ทำเป็นพิธีการเหมือนกัน เป็นการถวายพระเกียรติ เป็นสิ่งที่เรียกว่า พระราชอำนาจโดยพระบารมี เพราะอะไร เพราะประเทศมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เหมือนเราจะออกจากบ้าน ต้องไหว้พ่อแม่มั้ย หรือไปบ้านเพื่อนต้องไหว้พ่อแม่เพื่อนมั้ย ความจริงใจไม่ไหว้ ก็ไม่มีใครทำอะไรเราได้ แต่เราก็ไหว้เพื่อแสดงความเคารพ ว่าบ้านมีพ่อแม่เป็นผู้ใหญ่
อย่าลืมว่า ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ หรือประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นระบอบการปกครองที่ไทยรับมาจากฝรั่ง เราไม่ได้คิดเองทำเอง แต่เราทำตามฝรั่ง คือฝรั่งก็ทำ เพียงแต่ฝรั่งมันไม่มีนักการเมืองคอรัปชั่นแบบหน้าด้านๆ นักการเมืองไทยมันกินกันมาทุกยุคทุกสมัย แต่เมื่อมันกินกันจนน่าเกลียด จนบ้านเมืองจะพัง ทหารออกมาปฏิวัติ
อย่าโทษแต่ที่ผลรับ ผลรับที่เห็นกันจะๆ ว่าทหารปฏิวัติ เพราะมันมีสาเหตุจริงๆ มาจากนักการเมืองเลวๆ กินบ้านกินเมือง จริงอยู่ว่า ที่ผ่านๆ มา พอทหารปฏิวัติเสร็จ ก็พบว่ามีการโกงกิน เพราะอะไร? ก็เพราะสุดท้าย ทหารก็กลายเป็นนักการเมือง พอเป็นนักการเมือง มันมีอำนาจ มันก็กิน ทหารก็คือข้าราชการ ข้าราชการคือคนส่งส่วย ส่งไปไหน? ก็ส่งไปที่หัวหน้าใหญ่ หัวหน้าใหญ่คือใคร? คือนักการเมือง นักการเมืองดีๆ มีเยอะกว่า นักการเมืองเลวๆ แต่ปลาเน่าตัวเดียว มันก็เหม็นทั้งตะกร้า เผลอๆ พาตัวอื่นเน่าไปด้วยฃ
อ่านตรงนี้ช้าๆขัดๆ...ในยุคคณะราษฏร์ ทหารปฏิวัติ เพื่อแย่งชิงอำนาจ แต่หลังจากหมดยุคคณะราษฏร์ ทหารปฏิวัติเพื่อหยุดนักการเมืองที่กินมูมมาม
ไม่ใช่เพื่อแย่งชิงอำนาจ ต้นตอขอการปฏิวัติ คือนักการเมืองคอรัปชั่น ทหารปฏิวัติคือปฏิกิริยารีแอคชั่น ทหารถูกฝึกมาเพื่อปกป้องประเทศชาติและประชาชน เหมือนเวลาร่างกายเรามีเชื้อโรค ภูมิคุ้มกันในร่างกายก็จะทำงานโดยอัตโนมัติ ทหารก็คือภูมิคุ้มกันของร่างกาย แต่ที่ผ่านมา ที่จับได้ภายหลังว่าทหารก็คอรัปชั่น เพราะตอนนั้นทหารไม่ได้เป็นทหารแล้ว แต่กลายเป็นนักการเมือง นึกออกมั้ย
ส่วนในหลวง พระองค์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ แต่ทรงอยู่เหนือการเมือง พระองค์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่นของนักการเมือง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ ในหลวงแค่ลงพระนาม เพราะการลงพระนามคือพิธีการ ซึ่งเป็นพิธีการในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือที่เรียกกันในระดับสากลว่า ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ อย่าเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นแพะรับบาป บาปที่นักการเมืองเป็นคนก่อ
ถ้าไม่อยากให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร ผมมีวิธี 1 ต้องหาทางป้องกันไม่ให้คนเลวเข้าสู่การเมือง 2 ต้องหาทางกำจัดนักการเมืองเลวๆ ออกจากการเมือง
แค่ร่วมมือกันทำ 2 ข้อนี้ได้ เมืองไทยจะปลอดการปฏิวัติ และปลอดนักการเมืองเลว สุดท้ายบ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรือง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |