ไทยภักดีนัดมวลชนโชว์พลัง


เพิ่มเพื่อน    

 

"หมอวรงค์" นัดกลุ่มไทยภักดีเจอกัน 30 ส.ค. ที่หอศิลปฯ กรุงเทพฯ ขณะที่ ตร.รวบแล้ว 11 แกนนำม็อบชุมนุม จ่อยื่นถอนประกันโผล่ลานคนเมือง ผบช.น.เผยออกหมายเรียกกลุ่มม็อบ 18 ก.ค. เพิ่มอีก 15 ราย เข้าพบพนักงานสอบสวนสิ้นเดือนนี้   
         เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กโดยมีเนื้อหาดังนี้ "ได้เวลาออกจากบ้าน ช่วงนี้ผมเห็นทั้งสื่อ ดารา ศิลปิน ถูกคุกคามกันจำนวนมาก ยังไม่นับรวมคนที่มีความเห็นต่างในโลกโซเชียลที่โดนกระหน่ำกันตลอด
         การคุกคามลุกลามไปถึงสถาบันครอบครัว ความสัมพันธ์ครูกับศิษย์ในโรงเรียน หรือแม้แต่สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้เยาวชนปลดแอก ที่ถูกปลุกระดมล้างสมองผ่านโซเชียล พฤติกรรมดังกล่าวนับว่าอันตรายมาก เพราะเลียนแบบมาจากกลุ่มยุวชนเรดการ์ด ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมของจีน หรือยุวชนเขมรแดงช่วงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในเขมร
         วิธีการที่พวกเขาใช้คือ ปลุกระดมเด็กเพื่อสิ่งใหม่ที่ดีกว่า คุกคามเพื่อทำให้ทุกคนกลัวและไม่อยากยุ่ง และนำไปสู่การทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองตามมาแต่ที่เขาลืมไปคือ วันนี้พ่อแม่มีความรู้มากกว่าลูก ครูมีความรู้มากกว่าศิษย์ ประชาชนผู้ภักดีมีมากกว่าพวกจ้องล้มล้าง เพียงแต่ว่า ประชาชนเหล่านี้ยังไม่ได้แสดงออก
        บัดนี้ได้เวลาที่พวกเรา ผู้ภักดีทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ต้องไม่ยอม ต้องไม่ทน ที่จะปล่อยให้คนเหล่านี้ มาคุกคามประชาชน ได้เวลาที่พวกเราต้องมาแสดงออกพร้อมๆ กัน เพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เอาหัวใจติดตัวมา เจอกันวันที่ 30 สิงหาคมนี้ เวลา 14.00-18.00 น. ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ติดตามการ live ผ่านเพจ ไทยภักดีประเทศไทย"
    นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตำหนิว่า เป็นเพียงละครหุ่นเชิดของนักแสดงทางการเมืองชุดหนึ่งเท่านั้น หรือ นพ.วรงค์รับงานใครมาก็ควรตอบให้สังคมได้ทราบอย่างกระจ่างแจ้ง อย่าทำผลุบๆ โผล่ๆ แล้วใช้วิธีการปลุกม็อบชนม็อบ ถือเป็นบทบาทที่นักการเมืองพึงกระทำแล้วหรือ แล้วสังคมจะได้ประโยชน์อะไรในการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะได้แสดงบทฮีโร่กำมะลอดังกล่าวเท่านั้น ยิ่งในสถานการณ์บ้านเมืองวิกฤติเช่นนี้ อาจจะนำไปสู่การรัฐประหารในอนาคตอันใกล้หรือไม่ แล้วนพ.วรงค์จะหวังส้มหล่นจากการรัฐประหารครั้งใหม่หรือไม่ หรือจะแปรสภาพกลุ่มไทยภักดีเป็นพรรคการเมืองในอนาคตก็ควรบอกแม่ยกและประชาชนตรงไปตรงมา จะดีกว่าที่จะสร้างโวหารปลุกคนในไทยให้เกลียดชังกัน
    "การที่หมอวรงค์เน้นย้ำคำว่าชังชาติกับศัตรูของแผ่นดินนั้น หมอวรงค์เป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาเพื่อนร่วมชาติเช่นนี้ ขนาดศาลยุติธรรมยังไม่มีสิทธิ์พิพากษาใครแบบนี้ จึงรู้สึกสงสารประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่จะเดินบนท้องถนนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และเห็นว่าชาวพิษณุโลกตัดสินใจถูกต้องแล้วที่ไม่เลือกคนอย่างหมอวรงค์เป็น ส.ส.พิษณุโลก จึงต้องขอบคุณชาวพิษณุโลกทุกท่านในโอกาสนี้ด้วย" นายวัชระกล่าว
รวบแล้ว 11 แกนนำ
     ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีเอาผิดกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า กรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการออกหมายจับ 15 ราย จับกุมดำเนินคดี 11 ราย เหลืออีก 4 ราย อยู่ระหว่างติดตามจับกุมต่อไป ส่วนอีก 15 รายที่เหลือเป็นการออกหมายเรียก จะเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ในวันที่ 28 ส.ค.นี้
         สำหรับการชุมนุมเมื่อวันที่ 3 ส.ค. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้ดำเนินคดีกับนายอานนท์ นำภา อายุ 35 ปี ออกหมายจับและจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว ก่อนนำตัวไปยื่นคำร้องขอฝากขังศาลอาญาได้อนุญาตประกันตัว ส่วนการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ส.ค. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ยังไม่มีการออกหมายจับ ถ้ามีอะไรก็คงออกหมายเรียกก่อน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
         "มีการแจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ได้พิจารณาว่าผู้แจ้งหรือผู้จัดได้มีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามคำสั่งของเจ้าพนักงานผู้ชุมนุมสาธารณะหรือไม่ หรือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร หรือ พ.ร.บ.ความสะอาด หรือไม่ขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง ก็เป็นคดีของการชุมนุมล่าสุด" ผบช.น.กล่าว
        พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวต่อว่า การชุมนุมเมื่อวันที่ 20 ก.ค. บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) วานนี้ (25 ส.ค.) พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้ออกหมายเรียก 5 ราย เข้าพบพนักงานสอบสวน 4 ราย หลังจากแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำได้ปล่อยตัวไป เหลืออีก 1 รายขอผัด เนื่องจากอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีในท้องที่อื่น จะเข้าพบพนักงานสอบสวนในครั้งต่อไป และการชุมนุมเมื่อวันที่ 24 ส.ค. บริเวณลานคนเมือง ปรากฏตัวแกนนำบางคนที่ศาลอนุญาตให้ประกัน โดยมีเงื่อนไขห้ามมีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหาอีกนั้น ถ้ามีพยานหลักฐานก็เสนอศาลพิจารณาเพิกถอนประกัน    
    วันเดียวกันนี้ นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือ "ฟอร์ด" และ นายภาณุมาศ สิงห์พรม หรือ "เจมส์" หนึ่งในแกนนำม็อบ "ปลดแอก" และเป็น 1 ใน 15 แกนนำที่ถูกหมายจับ 7 ข้อหา ของสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ จากการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวแล้ว โดยขณะนี้กำลังนำตัวไปแจ้งข้อกล่าวหาที่ สน.สำราญราษฎร์ ก่อนดำเนินการส่งศาลอาญาตามขั้นตอน
    ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.หญิงจิตติมา ธงไชย พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ควบคุมตัวนายทัตเทพ หรือฟอร์ด เรืองประไพกิจเสรี อายุ 23 ปี, นายภาณุมาศ หรือเจมส์ สิงห์พรม อายุ 24 ปี สองผู้ต้องหากลุ่มเยาวชนปลดแอก ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นตาม ป.อาญา มาตรา 116 และข้อหาอื่น มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน นับแต่วันที่ 26 ส.ค.-5 ก.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 5 ปาก, รอผลการตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร และผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา โดยหากผู้ต้องหาที่ 1-2 ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว พนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหา
ศาลปล่อยตัวชั่วคราว
    ต่อมาเวลา 17.23 น. ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยมีสัญญาประกันวงเงินคนละ 100,000 บาท ไม่มีหลักประกัน พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน
    ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดถึงกรณีครูอาจารย์ข่มขู่คุกคาม ทารุณกรรมใช้ความรุนแรงต่อนักเรียนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ว่าคนที่ผูกผ้าลายธงชาติ เป่านกหวีด ได้ดีมาแล้ว คนหนึ่งเป็นรัฐมนตรี อีกคนเป็นรัฐมนตรีช่วย
    นายวิโรจน์กล่าวอีกว่า นักเรียนพูดถึงอนาคตของพวกเขา อยากถามว่าเหตุใดครูถึงคุกคามนักเรียนไปแตะ ไปกระชากผม ในทางปฏิบัติครูยังคุกคามต่อเนื่อง การแสดงออกของนักเรียนทั้งหมดที่ชอบด้วยกฎหมาย ครูไม่มีสิทธิ์ลงโทษได้ ซึ่งถ้าทำครูมีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 391 การทำร้ายร่างกาย มาตรา 392 ขู่ให้เกิคความกลัว มาตรา 397 คุกคามจนเกิดความรำคาญแก่เด็ก และที่ร้ายแรงที่สุดคือการกระทำทารุณกรรมเด็ก มาตรา 26 ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก จนองค์กรยูนิเซฟออกมาเรียกร้องให้ปกป้องเด็ก ถามว่าปล่อยให้ครูซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของรัฐมนตรีคุกคามเด็กได้อย่างไร
    ด้านนายณัฏฐพลชี้แจงว่า การแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิเสรีภาพของนักเรียน เพียงแต่ครูและผู้ใหญ่พูดถึงว่าการแสดงออกต้องไม่ก้าวร้าว หยาบคาย ทั้งนี้ ทางกระทรวงออกหนังสือ 3 ฉบับ ให้ทางผู้บริหารสถานศึกษารับทราบถึงแนวทางว่าเด็กและเยาวชนสามารถมีเวทีแสดงออกได้
    “ส่วนการที่ผมชุมนุมปี 56 ปี 57 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเป็นรัฐมนตรี ขอเรียนว่า หากเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พวกเราลงสมัครรับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย หากพรรคพลังประชารัฐได้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ผมก็คิดว่าตัวเองต้องเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับการพิจารณาเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากในบัญชีของผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีชื่ออยู่ในลำดับที่หนึ่ง การที่ได้เป็นรัฐมนตรี คิดว่านายกรัฐมนตรีได้มองถึงประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา ดังนั้น การเป็นรัฐมนตรีของผมจึงน่าจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกตั้งและความเหมาะสม ปี 56 ปี 57 ออกมาเคลื่อนไหวในฐานะประชาชนที่ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน วันนี้อยากบอกกับน้องๆ ว่าผมก็อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ถูกดำเนินคดีขึ้นศาล เพราะถูกกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมาย ก็ให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไป ผู้ร่วมอุดมการณ์หลายคนถูกดำเนินคดี จำคุก หรือรอลงอาญา พวกเราที่ออกมาเคลื่อนไหวเรายอมรับ แต่ไม่อยากให้เกิดกับเยาวชนไทย” รมว.ศธ.กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถ่ายภาพร่วมกับกลุ่มเยาวชนที่จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มเด็กๆ หลังเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง) ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2563 ที่ห้องประชุมสุนทรภู่ ชั้น 2 โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น อ.เมืองฯ จ.ระยอง ทั้งนี้ เหตุที่มีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวในสังคมโซเชียลต่อๆ กันนั้น เนื่องจากในภาพดังกล่าวมีเด็กบางคนได้ชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว เรื่องการต่อต้านเผด็จการอยู่หลัง พล.อ.ประยุทธ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าจะรู้ตัว
    ทั้งนี้ เยาวชนกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ? (สศช.)? จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่? จ.ระยอง ตามดำริของ? พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อ 4 วันที่ผ่านมา และเป็นผู้เชิญเยาวชนกลุ่มดังกล่าวมาเข้าร่วมประชุมและเกิดภาพดังกล่าวขึ้น
    ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ชี้แจงกรณีที่เฟซบุ๊กเตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับรัฐบาลไทย หลังถูกขอให้เฟซบุ๊กบล็อกหรือปิดกั้นการเข้าถึงเพจ Royalist Marketplace (รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส) ว่าการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย โดยขณะนี้ศาลมีคำสั่งให้ปิดกลุ่มและบัญชีที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายทั้ง Facebook YouTube และแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่มีเนื้อหาที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีเฟซบุ๊กจำนวน 661 รายการ, ยูทูบ 289 รายการ,  ทวิตเตอร์ 69 รายการ และเว็บไซต์อื่นๆ 5 รายการ รวม 1,024 รายการ
    "ส่วนตัวยังไม่เห็นหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการจากเฟซบุ๊ก แต่มั่นใจว่าเฟซบุ๊กจะไม่ดำเนินการทางกฎหมายดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาเฟซบุ๊กให้ความร่วมมือและปิดกลุ่มดังกล่าวตามคำสั่งศาลทั้งหมด แต่จะเป็นการปิดออกจากระบบหรือปิดเฉพาะในประเทศไทยนั้น ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ของเฟซบุ๊ก แต่หากจะมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นจริง กระทรวงดิจิทัลฯ จะมีทีมกฎหมายศึกษาข้อมูลและพร้อมต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม" รมว.ดีอีเอสกล่าว.
         

 

 

   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"