26 ส.ค.63 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไลฟ์สดผ่านเฟชบุ๊ค peace talk โดยประเมินแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกลว่า เห็นด้วยกับแนวทางของพรรคเพื่อไทย สถานการณ์การเมืองขณะนี้ การปิดสวิตซ์ ส.ว.ไม่มีความหมายใดเลย เมื่อไม่มีเลือกตั้งใหม่ แนวทางตั้ง สสร. ให้อำนาจร่างรัฐธรรมนูญมาเป็นของประชาชนก่อน แล้วจึงรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญ ยึดคืนที่มาและอำนาจส.ว.อีกขั้นตอนหนึ่ง การแก้รัฐธรรมนูญ ของพรรคร่วมฝ่ายค้านได้แยกเสนอญัตติแตกต่างกัน เพื่อไทยเสนอแก้ ม.256 ตั้ง สสร.ไม่แตะหมวด 1-2
ส่วนพรรคก้าวไกล ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ ในหมวดบทเฉพาะกาลตั้งแต่มาตรา 269-272 ว่าด้วย ยกเลิกการรับรองคำสั่ง ประกาศของคสช. และยกเลิกอำนาจ ส.ว.ตามบทเฉพาะการว่าด้วยการเลือกนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งเสนอตั้ง สสร.ตาม ม.256 การจะเสนอแก้แนวทางไหนก็ตาม ต้องผ่านกระบวนการให้ได้เสียงเกินครึ่งของสองสภาร่วมกัน คือสภาผู้แทนและวุฒิสภา และมติผ่านต้องมีเสียงเกินครึ่งนั้น ต้องประกอบด้วย ส.ว. จำนวนอย่างน้อย 84 เสียงลงมติด้วย เรากำลังทำการใหญ่ในการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยให้ประชาชนเป็นผู้แก้ไข ผ่านอำนาจการร่างจากสสร. แต่การอ้าง2เรื่องในคราวเดียวกัน ทั้งการตั้งสสร.และแก้รายมาตรานั้นได้อะไรขึ้นมา ถ้ายังไม่มีการยุบสภาฯจะทำอย่างไร เชื่อหรือว่าจะยุบสภาเร็วๆนี้ แต่ต้องคิดว่า ถ้ามีการถอดปลั๊กเสียก่อนจะเป็นอย่างไร
นายจตุพรกล่าวว่า อย่าเอาแค่ความรู้สึกมาแก้รัฐธรรมนูญ เพราะการดำเนินการในอดีตไม่ใช่เรื่องง่ายดาย ตนเห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยที่มาถูกทางในการแก้มาตรา256 ตั้ง สสร. สำหรับพรรคก้าวไกลประเมินถึงพลังมวลชนจะเกิดการกดดันนั้น ในอดีตมีมวลชนชุมนุมกดดันเรือนหมื่น เฉียดแสนจนได้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง แต่มาถูกกลไกศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยคนเพียง 9 คนมาล้มกระดาน ซึ่งเกิดขึ้นมาแล้ว
“วันนี้ ต้องการผลลัพธ์ เชื่อว่าไม่มีอะไรเป็นภูมิต้านทานดีกว่าประชาชนที่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญ เราต้องให้สสร.มาจากเลือกตั้งจากประชาชน แล้วจึงรณรงค์ผ่าน สสร.ในการแก้รัฐธรรมนูญอีกขั้นตอนหนึ่ง สิ่งสำคัญด่านแรกคือ เปิดประตูให้เกิด สสร. แต่ถ้า สว.ไม่ร่วมมือเปิดประตูก็เข้าสภาไม่ได้ เราต้องทุบหน้าต่างเป็นช่องเข้าไปนอกจากนี้ ถ้ามีการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเปลี่ยนวิธีเลือกตั้งเป็นแบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ บัตรเลือก ส.ส.และรายชื่อบัญชีพรรคแล้ว พรรคเพื่อไทยจะได้ประโยชน์กับแนวทางนี้มากที่สุด ส่วนพรรคอื่นนั้น มั่นใจว่าคงต้องการบัตรใบเดียว”นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรกล่าวว่า แนวทางแก้รัฐธรรมนูญตาม ม.256 ตั้ง สสร.โดยประชาชนมาร่างใหม่จะเกิดประโยชน์มากที่สุด ส่วนแนวทางของพรรคก้าวไกลก็มีประโยชน์เช่นกัน แต่ติดขัดในขั้นปลายทางเท่านั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดถึงผลสำเร็จการแก้รัฐธรรมนูญ จนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญประกาศใช้จึงจะเชื่อว่า สำเร็จแล้ว ดังนั้น เส้นทางแรกต้องให้การแก้ มาอยู่ในมือประชาชนเท่านั้น จึงจะปลอดภัยที่สุด
นายจตุพรกล่าวถึงการเลื่อนวาระลงมติงบประมาณซื้อเรือดำน้ำว่า เนื่องจาก กมธ.วิสามัญงบประมาณปี 2564 รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการจมเรือดำน้ำ ส่วนพรรคอื่นๆ อยู่ในอาการลังเล เนื่องจากประเทศ ประชาชนมีความยากลำบาก บอบช้ำกับวิกฤตเศรษฐกิจช่วงโควิดระบาดอย่างหนักหน่วงมา ดังนั้น รัฐบาลไทยจึงต้องคุยกับจีนขอพักการซื้อเรือดำน้ำไว้ก่อน เชื่อว่า จีนคงไม่ว่าอะไร เรือดำน้ำจะเป็นชนวน และเชื่อขนมกินได้ว่า ไม่สามารถทัดทานกระแสประชาชนได้ แล้วที่สุดก็ยกเลิก ส่วนปัญหาการเมืองประเดประดังมาในช่วงนี้ เป็นเพียงสถานการณ์การเมืองปกติเท่านั้น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |