นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการจัดงาน "OTOP To The Town :โอทอป ภูมิปัญญาไทย ใจกลางเมือง ช่วยคนไทยหลังฝ่าภัยโควิด" งานแสดงสินค้าและจำหน่ายสินค้าโอทอปจากทั่วประเทศ  เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจท้องถิ่น รวมทั้งยกระดับสินค้าโอทอป ทั้งกระบวนการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาผู้ประกอบการ การพัฒนาสินค้าและการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย โดยในปีนี้ได้ร่วมกับห้างเซ็นทรัล เปิดพื้นที่ให้จำหน่ายสินค้าโอทอปในห้างดังกลางเมืองกว่า 11 แห่ง เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs จากผลกระทบโควิด 19 ขณะเดียวกันเพื่อยกระดับสินค้าโอทอปพร้อมเจาะกลุ่มผู้บริโภคระดับบนหรือระดับพรีเมียมมากขึ้น

สำหรับการจัดงาน otop to the town ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการจัดไปแล้ว 6 จุด ได้แก่  ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ,ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ณ ลานอเนกประสงค์ ,ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ,ห้างสรรพสินค้า เซนทรัลบางนา โดยได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ มียอดจำหน่ายสินค้าภายในงานกว่า 40,ล้านบาทเกิดการ เชื่อมโยงและต่อยอดเจรจาการค้า คิดเป็นมูลค่า กว่า 30 ล้านบาท ที่จะหมุนเวียนกลับไปสู่ชุมชนซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสินค้าโอทอปมีกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ร่วมกันผลิตและพัฒนาสินค้าโอทอปที่มีคุณภาพมาสู่ผู้บริโภคต่อไป รวมทั้งช่วยให้ชุมชนฐานรากมีความเข้มแข็งทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมมากขึ้น

ทั้งนี้ สินค้าที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากกลุ่มสตรีสหกรณ์บ้านหัวฝายจังหวัดขอนแก่น ผ้าไหมไทยจังหวัดลำพูน ผ้าไหมจังหวัดบุรีรัมย์ ไข่มุกจังหวัดพังงา ผ้าชาวเขาประยุกต์จังหวัดเชียงใหม่ ผ้าทอพื้นเมืองบ้านผาทั่งจังหวัดอุทัยธานี และกะหรี่ปั๊บจังหวัดสุโขทัย เป็นต้น โดยกิจกรรมภายในงานนอกจากการคัดสรรสินค้า OTOP คุณภาพ มาจัดจำหน่ายแล้ว ยังมีการแสดงทางศิลปะและวัฒนธรรม 

ทั้งนี้ ในการจัดงาน otop to the town ยังมีการจัดงานอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนกันยายน อีก 5 จุดใหญ่  ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม9 ระหว่างวันที่ 26-30 ส.ค , เดอะมาร์เก็ต ระหว่างวันที่ 8-13 ก.ย. 2563 , เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ ระหว่างวันที่ 8-14 ก.ย. 2563 เซ็นทรัลพระราม 3  ระหว่างวันที่10-16 ก.ย. 2563 ,สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 10-16 ก.ย.2563  โอกาสนี้ จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง มาช่วยกันอุดหนุนให้กำลังใจกับพี่น้อง OTOP เพราะกำลังใจของท่านก็จะเป็นแรงผลักดันขับเคลื่อนที่สำคัญที่จะทำให้พี่น้อง OTOP หลายพันครอบครัวได้มีโอกาสดีของชีวิต มีอาชีพมีรายได้ดูแลครอบครัวให้มีความเข้มแข็งต่อไป นอกจากจะได้สินค้าชุมชนคุณภาพดี ที่สร้างสรรค์และสืบทอดภูมิปัญญาแล้ว ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นอีกด้วย” อธิบดี พช. กล่าวเชิญชวน