พ่อเลี้ยงก่อเหตุสยอง คว้าลูกซองยาวบุกยิงลูกเลี้ยงพร้อมเมียและลูกสาววัย 5 ขวบขณะล้อมวงกินข้าวภายในบ้าน เสียชีวิต 3 ศพ เพื่อนบ้านถูกลูกหลงบาดเจ็บ ส่วนมือปืนหนีไปยิงตัวตายที่ลานกางเต็นท์ของหมู่บ้าน สาเหตุขัดแย้งธุรกิจกาแฟ
    เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำ รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านหนองห้า บริเวณโครงการพระราชดำริบ้านเล็กในป่าใหญ่ ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมนายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอเชียงคำ, พ.ต.ต.เสถียร ธรรมสอน ผบ.ร้อย.ตชด.326 ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวของชาวเขา เลขที่ 155 หมู่ 16 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ ภายในบ้านพบศพนายพงศ์เทพ เรี่ยวสกุลชาติ อายุ 37 ปี, นางสุภาพร แซ่จ่าว อายุ 34 ปี ภรรยา และ ด.ญ.กัลยาพร เรี่ยวสกุลชาติ อายุ 5 ขวบ ลูกสาว สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองนอนจมกองเลือดอยู่ภายในบริเวณบ้าน นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน คือนายทรงพล กิจกรัณย์ผิด อายุ 40 ปี เพื่อนบ้าน ญาติได้นำตัวส่ง รพ.เชียงคำ   
    จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายยุทธนา เรี่ยวสกุลชาติ อายุ 51 ปี เป็นพ่อเลี้ยงของนายพงศ์เทพผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกัน เนื่องจากนายยุทธนากลัวว่านายพงศ์เทพจะมาแย่งกิจการกาแฟของตัวเองที่ทำร่วมกับนางเหมย เรี่ยวสกุลชาติ ภรรยาและแม่แท้ๆ ของนายพงศ์เทพ ที่กำลังติดตลาด สร้างรายได้เป็นอย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของโครงการได้เรียกทั้ง 2 มาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันแล้ว แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ และมีเรื่องทะเลาะกันมาตลอด
    เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลด้วยว่า ขณะที่นายพงศ์เทพกับภรรยาและลูกสาวนั่งกินข้าวอยู่ภายในบ้าน นายยุทธนาถือปืนลูกซองบุกเข้าไปยิงใส่นายพงศ์เทพ กระสุนถูกที่ใบหน้าหงายหลังเสียชีวิต จากนั้นได้หันไปยิงนางสุภาพร และ ด.ญ.กัลยาพร ส่วนนายทรงพล เพื่อนบ้าน ที่มานั่งกินข้าวอยู่ด้วย ก็ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายยุทธนาได้หลบหนีขึ้นไปยังลานกางเต็นท์ของหมู่บ้าน 
    ต่อมาตำรวจ สภ.เชียงคำ ร่วมกับชุด ตชด.326 ได้กระจายกำลังขึ้นไปบริเวณลานกางเต็นท์ พร้อมทั้งพาญาติของนายยุทธนาขึ้นไปด้วยเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ยอมมอบตัวโดยดี แต่เมื่อไปถึงก็พบนายยุทธนานอนเสียชีวิตใต้ต้นไม้ของลานกางเต็นท์ พบอาวุธปืนลูกซองยาวตกอยู่ข้างตัว สภาพศพถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก ญาติที่มาด้วยยืนยันว่าเป็นนายยุทธนาที่เพิ่งก่อเหตุยิง 3 ศพ จึงให้แพทย์ชันสูตรศพเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.