26 ส.ค.63 - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดงานกิจกรรม “ติดปีกให้ SE วิสาหกิจเพื่อสังคม” ณ ตึกมูลนิธิเสนีย์ ปราโมช ชั้น 3 ที่ทําการพรรค ประชาธิปัตย์ โดยมีบริษัทและภาคเอกชนที่เป็นตัวอย่างวิสาหกิจเพื่อสังคมกว่า 100 รายเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองต่อสังคมและรัฐ โดยมีนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และคณะร่วมดำเนินการ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นทิศทางใหม่ อีกก้าวของประเทศเพราะประเทศเราเพิ่งจะมีวิสาหกิจเพื่อสังคมเกิดขึ้นที่เป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ กฎหมายส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมเกิดขึ้นเมื่อปี 2562 ปีที่แล้ว ผมได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ทำหน้าที่เป็นประธานวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise (SE))ของประเทศ เป็นหน่วยกำหนดนโยบายกฎเกณฑ์กติกาทั้งหมดที่ให้เดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงแข็งแรงต่อไปสำหรับประเทศไทยต้องถือว่าใหม่ วันนี้เรามี SE (Social Enterprise) ที่จดทะเบียนแล้วมีตัวเลขประมาณ 130 บริษัทและมีกฎหมายระดับรองจากพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม 10 ฉบับเป็นประกาศ ระเบียบและยังจะต้องเพิ่มเติมอีก 16 ฉบับ ถัดจากนี้ไปกฎระเบียบบางครั้งก็ช่วยส่งเสริมบางครั้งก็ต้องยอมรับความจริงว่าเป็นตัวสกัดกั้นความก้าวหน้าการเจริญเติบโตของ SE ในฐานะประธานผมจะช่วยดูว่าทำอย่างไรให้กฎระเบียบทั้งหลายที่ออกตามพระราชบัญญัติมาไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการพัฒนาของ SE ให้เดินไปให้ได้
" ในวันที่ผมมารับหน้าที่ใหม่ๆได้เคยพูดเป็นหลักไว้ 3 ข้อที่บอกว่าอยากเห็น SE ประเทศไทยเป็นอย่างไร ประการที่หนึ่ง เราอยากเห็นว่าทำอย่างไรที่จะให้ SE นั้นนำผลกำไรจากการทำธุรกิจ นำผลกำไรมาแบ่งปันให้สังคมมากกว่าธุรกิจปกติที่เอามาทำ CSR ต้องทำมากกว่า CSR ถึงจะเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมมีกติกากำหนดไว้แล้วว่าผลกำไรต้องไม่น้อยกว่าร้อยละเท่าไร ประการที่สอง ทำอย่างไรไม่ให้ธุรกิจที่มุ่งหวังผลกำไรอย่างเดียว มาใช้ประโยชน์จากการเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม ด้วยกฎระเบียบต่างๆ ประการที่สาม ทำอย่างไรที่จะเอื้ออำนวยให้เกิดวิสาหกิจเพื่อสังคมมากขึ้น เพื่อให้วิสาหกิจเพื่อสังคมสร้างประโยชน์ให้สังคมในเชิงปริมาณและคุณภาพมากขึ้นและทำอย่างไร ให้วิสาหกิจเพื่อสังคมยั่งยืนเพื่อทำประโยชน์ให้สังคมได้ต่อไป" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า วันนี้โลกเปลี่ยนไม่เหมือนเดิมแล้วอย่างน้อย 2-3 ปีจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกลายเป็นหดตัวและกระทบกับประเทศทั้งโลก ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศนั้นเศรษฐกิจจากชะลอตัวก็ถดถอยหรือติดลบเป็นสิ่งที่เราต้องตระหนักวิสาหกิจเพื่อสังคมจะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับโลกที่กำลังเปลี่ยนไป อย่างน้อยที่สุดกระทรวงพาณิชย์พยายามเข้ามามีบทบาทในการที่จะช่วยแก้ปัญหาร่วมกับภาคเอกชน สำนักงานต้องทำงานจับมือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อช่วยเอาศักยภาพด้านการตลาดที่กระทรวงพาณิชย์มีอยู่ทุกจังหวัด มีพาณิชย์จังหวัดที่ต้องสลับบทบาทเป็นเซลล์แมนจังหวัด ทูตพาณิชย์ทั่วโลกต้องเปลี่ยนบทบาทจากคำว่าทูตเป็นเซลล์แมนประเทศ ทั้งเซลล์แมนจังหวัด และเซลล์แมนประเทศต้องช่วยมาทำหน้าที่เป็นฝ่ายการตลาดให้กับ SE ของเราด้วยแบบการตลาดเปลี่ยนต่อไปนี้อีคอมเมิร์ซจะต้องเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การค้าออนไลน์เราต้องปรับรูปแบบการค้าไม่ว่าในประเทศหรือระหว่างประเทศจากระบบออฟไลน์ต้องปรับไปเป็นการค้าออนไลน์
" กระทรวงพาณิชย์ มีหลักสูตรเข้ามาช่วยเติมเต็มความรู้ให้ แม้หลายคนจะมีประสบการณ์ด้านการค้าออนไลน์อยู่แล้วตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการอบรมออนไลน์เพื่อการส่งออกและให้ปฏิบัติได้จริง เพื่อให้ทุกท่านได้เห็นภาพและอุ่นใจมากขึ้นต่อไปนี้ระบบ SE ต้องทำระบบฐานข้อมูลที่มีความชัดเจนทันสมัยรอบด้านครบถ้วน ต้องนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้มากขึ้นเพื่อให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืนต่อไป" นายจุรินทร์ กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |