เอ่ยชื่อ “ภูเก็ต” ผู้คนจากทั่วโลกย่อมรู้จัก เพราะเป็นเมืองเป้าหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทางที่ชื่นชอบแสงแดด หาดทราย ชายทะเล พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน มีภาพลักษณ์ความเป็นเมืองนานาชาติ หรูหรา จนทำให้คนคิดว่า ถ้าเดินทางมาภูเก็ตทุกอย่างจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่ “แพง” ไปหมด โดยเฉพาะคนไทยเอง แทบจะไม่กล้าเดินทางไปเข้าไปท่องเที่ยว
อันที่จริง “ภูเก็ต” เมืองไข่มุกแห่งอันดามันแห่งนี้ ยังมีของดีอื่นๆ อีกมากมาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัส ทั้งทางด้านวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวบ้านอย่างลึกซึ้ง ในราคาไม่แพงและสามารถเข้าถึงได้ง่าย 
นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต  กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตมีแหล่งท่องเที่ยวทรัพยากรทางธรรมชาติทางบกและทางทะเล พร้อมประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตชุมชนต่างๆ และถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดอันดามัน สร้างรายได้ให้แก่ประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่กระจายสู่ชุมชนอย่างทั่วถึง 
ดังนั้น ททท.และภาคีที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ต จึงดำเนินการเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมการท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยการนำเสนอการท่องเที่ยวชุมชน 7 แห่ง ภายใต้ชื่อว่า “เหวนภูเก็ต 7 ชุมชนท่องเที่ยว” โดยคำว่า “เหวน” เป็นภาษาถิ่นภูเก็ตที่แปลว่า “เที่ยวแบบเรื่อยๆ ค่อยๆ ไป ไม่เร่งรีบ” ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าถึงแหล่งชุมชนต่างๆ ในมุมมองที่ลึกซึ้ง และท่องเที่ยวได้บ่อยๆ ในราคาไม่แพงและไม่รู้จักคำว่าเบื่อ
    เริ่มต้นที่ชุมชนแรกคือ “บ้านท่าฉัตรไชย” เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ที่ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นประตูเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตเลยก็ว่าได้ อยู่ใกล้กับสะพานสารสิน ที่มีตำนานความรักอมตะเลื่องชื่อ และที่นี่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติของป่าชายเลนที่สวยงาม มีวิถีชีวิตที่น่าสนใจของชาวมอแกนให้ได้เรียนรู้ รวมถึงได้ชมการเลี้ยงกุ้งมังกร 7 สีในกระชังที่ชาวบ้านเพาะเลี้ยงโดยวิธีธรรมชาติอีกด้วย
      “ชุมชนตำบลป่าคลอก” เป็นที่ตั้งของป่าชายเลนผืนใหญ่และแหล่งหญ้าทะเลที่อุดมสมบูรณ์ของจังหวัดภูเก็ต ได้มีการจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์บ้านป่าคลอก และกลุ่มท่องเที่ยวเชิงนิเวศบ้านป่าคลอกขึ้น เพื่อฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้มีความสมบูรณ์ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านแหล่งอาหาร และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชุมชนประมงพื้นบ้าน รวมทั้งร่วมกันรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศชายฝั่งทะเล และพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่ประชาชนรุ่นลูกหลานต่อไป โดยมีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่น่าสนใจ เช่น กิจกรรมปล่อยเต่า รักษาป่าชุมชน และอุดหนุนผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกที่ทำจากยาง
      “ชุมชนบ้านแขนน” สถานที่เรียนรู้และศึกษาวัฒนธรรม สมัยท้าวเทพกษัตรี-ท้าวศรีสุนทร จัดเป็นรูปแบบของฐานการเรียนรู้ที่เหมาะแก่การมาเที่ยวมาศึกษาเป็นหมู่คณะ ทั้งเรื่องอาชีพ หัตถกรรม การแสดง อาหารพื้นเมือง ของว่างพื้นเมือง ขนมโบราณ รวมทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาดูงานเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์ เก็บผักป่า พืชสมุนไพรไว้กิน เหลือไว้ขาย ปลูกทุกอย่างที่กินได้ ไว้แบ่งปันใช้ในครอบครัวเหลือจำหน่ายเสริมรายได้ นำผักพื้นบ้านพืชสมุนไพรพื้นเมืองมาปรุงเป็นอาหาร กินเป็นอาหาร กินเป็นยา กินเป็นภูมิคุ้มกัน รวมทั้งเป็นแหล่งดูการจัดการกิจกรรมการลงแขกโบราณ จิตอาสา อยู่ร่วมกันเป็นเครือญาติ ร่วมกันทำงานแบ่งปันผลประโยชน์ แบ่งรายได้ สร้างงาน สร้างกิจกรรมให้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน
“ชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต” ตั้งบนถนนถลาง เป็นถนนที่มีความเก่าแก่ที่สุดสายหนึ่งในเมืองภูเก็ต ซึ่งในอดีตจะมีผู้คนหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา เช่น คนจีน คนอินเดีย คนยุโรป มุสลิม เข้ามาอาศัยอยู่และประกอบอาชีพค้าขาย และสร้างบ้านเป็นลักษณะตึกแถวในรูปแบบที่เรียกว่าชิโนโปรตุกีส ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากปีนังและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นย่านการค้าที่มีความเจริญรุ่งเรืองสายประวัติศาสตร์ คงไว้ในเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ต จึงเกิดการรวมตัวของประชาชนที่อาศัยอยู่ในถนนถลางมุ่งมั่นที่จะพัฒนาชุมชนของตนเองให้มีความยั่งยืนตลอดไป และจัดตั้งเป็นชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ตขึ้น  
โดยมีการจัดให้มีเส้นทางเดินชมเมืองเก่าภูเก็ต เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความสวยงามของบ้านเรือนเก่าแก่ และสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่สวยงาม พร้อมๆ กับชมวัฒนธรรมและวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนภูเก็ตอีกด้วย และห้ามพลาด ของอร่อยพื้นเมือง อาทิ มี่สั้ว หมี่หุ้น หมี่ฮกเกี้ยน ขนมจีน โอต๊าว ฮูแช้ ข้าวยำ และน้ำพริก เป็นต้น 
“ชุมชนบ้านเชิงทะเล-บางเทา เป็นชุมชนที่เรียบง่าย ชาวบ้านนับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 90 ประกอบอาชีพทำสวน เลี้ยงสัตว์ และทำประมงพื้นบ้าน ปัจจุบันธุรกิจท่องเที่ยวขยายตัวมาก เพราะมีชายหาดที่สวยงาม แต่ชุมชนยังคงรักษาวิถีดั้งเดิมได้อย่างลงตัว และเปิดให้ผู้มาเยือนได้เข้ามาในพื้นที่ อาทิ เยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงแพะ กรีดยาง ชมแปลงเกษตรอินทรีย์เกษตรผสมผสาน ชมไร่สับปะรดภูเก็ต ไปมัสยิดมุการ์ร่ม ศูนย์รวมทางศาสนาของชุมชน และไม่พลาดอาหารถิ่นขึ้นชื่อ อาทิ ข้าวยำใบพาโหม ชิมสับปะรดภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อาทิ จุดชมวิวบางเทาภูผาวิว น้ำตกเหนือโตน และลงทะเลที่เกาะแวว ซึ่งสามารถดำน้ำดูปะการัง และว่ายน้ำเล่นได้
“ชุมชนกมลา” ด้วยทำเลที่มีภูเขาโอบหลังด้านหน้าเป็นทะเล ชาวต่างชาติจึงมักมาพักผ่อนระยะยาวที่ภูเก็ต ปัจจุบันมีการขยายตัวของการท่องเที่ยวเข้ามา จึงได้มีการนำเสนอวิถีชีวิตชุมชนไทยมุสลิมเก่าแก่ในจังหวัดภูเก็ต การทำสวนผลไม้ รวมทั้งมีการรวมกลุ่มแม่บ้าน ทำเครื่องแกง น้ำพริก ขนมโบราณ เช่น ขนมข้าวเหนียวตะกร้อ ขนมอาโป๊ง ให้บริการผู้มาเยือน 
ปิดท้ายด้วย “ชุมชนเกาะโหลน” นั่งเรือจากอ่าวฉลองไป 15 นาที สัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้านเกาะโหลน เกาะเล็กๆ ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้เกาะภูเก็ต ที่จัดกิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน โดยนำเสนอวิถีชีวิตดั้งเดิมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส อาทิ การตกปลาแบบดั้งเดิม ทำขนมพื้นเมือง การทำผ้าบาติกมัดย้อม โดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติรอบๆ ตัว พร้อมอิ่มอร่อยจากอาหารทะเลสด พืชผักปลอดสารพิษ พร้อมชมธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ อาทิ ชมนกเงือก และยามน้ำลดยังมีสัตว์ทะเลนานาชนิดให้เห็น อาทิ กุ้ง ปู ปลาดาว ปลิงทะเล และปลาหมึก เป็นต้น
ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานภูเก็ต กล่าวต่อว่า  ขณะเดียวกันตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 15 กันยายน ททท.สำนักงานภูเก็ตได้จัดแพ็กเกจใหม่ล่าสุด “เที่ยวภูเก็ต ไม่แพงอย่างที่คิด” โดยจับมือกับสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส และผู้ประกอบการโรงแรม เสนอขายแพ็กเกจให้เลือกได้สบายกระเป๋า 3 ราคาต่อคนต่อแพ็กเกจ คือ 1,699 บาท, 6,999 บาท และ 8,999 บาท ขึ้นอยู่กับการเลือกโรงแรม มีที่พัก 2 คืน พร้อมตั๋วเดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต 
     “ราคาห้องพักโรงแรมภูเก็ต โดยภาพรวมตามปกติความเข้าใจของคนไทยจะคิดว่าราคาห้องพักจับต้องไม่ได้หรือแพงเกินไป เมื่อเปรียบเทียบห้องพักระดับหรูอย่าง “วิลล่าหรูส่วนตัวเป็นหลัง” ห้องพิเศษจริงๆ ราคาประมาณ 30,000 บาทต่อห้องต่อคืน แต่ถ้าเป็นห้องพักทั่วไป ก็เริ่มตั้งแต่ 500 บาทต่อห้องต่อคืน หรือ 1,000 บาทต่อห้องต่อคืน และหากอยู่ติดทะเล จะประมาณ 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน จึงต้องการแนะนำวิธีการจ่ายโดยซื้อแพ็กเกจดังกล่าว และไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งชุมชนทั้ง 7 แห่งนี้  ซึ่งถือว่าคุ้มค่าแบบสุดๆ และทุกคนจะเข้าใจว่าเที่ยวภูเก็ตไม่แพงอย่างที่คิด” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานภูเก็ต กล่าวเชิญชวนปิดท้าย  
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต โทรศัพท์ 0-7621-1036 หรือ โทร. 1672 เพื่อนร่วมทาง.
สรณะ รายงาน