'พุทธิพงษ์' เชื่อเฟซบุ๊กไม่ฟ้องไทย ลั่นรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส เปิดใหม่แล้วทำผิดก็ปิดอีก


เพิ่มเพื่อน    

26 ส.ค.63 - นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ชี้แจงกรณีที่เฟซบุ๊กเตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับรัฐบาลไทยหลังถูกขอให้เฟซบุ๊กบล็อกหรือปิดกั้นการเข้าถึงเพจ Royalist Marketplace (รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส)  โดยนายพุทธิพงษ์ เปิดเผยว่าการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยโดยขณะนี้ศาลมีคำสั่งให้ปิด กลุ่มและบัญชีที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายทั้ง Facebook YouTube และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่มีเนื้อหาที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีเฟซบุ๊กจำนวน 661 รายการ ยูทูป 289 รายการ ทวิตเตอร์ 69 รายการ และเว็บไซต์อื่นๆ 5 รายการ รวม 1,024 รายการ ซึ่งมีกำหนด 15 วัน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 27 จะต้องดำเนินการปิดเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ก็ได้ปิดกั้นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมทั้งหมดแล้ว ซึ่งกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ถูกปิดไปแล้วก่อนหน้านี้ 

ทั้งนี้ยืนยันว่าทั้งหมดทำตามกระบวนการยุติธรรมของไทย และไม่ใช่การกลั่นแกล้งบุคคลใด หากประชาชนแสดงความคิดเห็นเรื่องการเมืองหรือเรื่องอื่นที่ไม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินคดีเฉพาะการหมิ่นสถาบันเท่านั้น แต่หากมีการหมิ่นประมาทผู้อื่น การหลอกลวง ฉ้อโกง แชร์ลูกโซ่ การพนันออนไลน์ หรือความผิดอื่น เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการทั้งหมดไม่มีละเว้น
          
ส่วนกรณีที่เฟซบุ๊กจะดำเนินการทางกฎหมายกับรัฐบาลไทยเนื่องจากมองว่าการบล็อกดังกล่าว เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนสากล และปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นนั้น นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่เห็นหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการจากเฟซบุ๊ก แต่มั่นใจว่าเฟซบุ๊กจะไม่ดำเนินการทางกฎหมายดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาเฟซบุ๊กให้ความร่วมมือ และปิดกลุ่มดังกล่าวตามคำสั่งศาลทั้งหมด แต่จะเป็นการปิดออกจากระบบหรือปิดเฉพาะในประเทศไทยนั้น ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ของเฟซบุ๊ก แต่หากจะมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นจริง กระทรวงดิจิทัลฯ จะมีทีมกฎหมายศึกษาข้อมูลและพร้อมต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม
         
 อย่างไรก็ตาม รมว.ดีอีเอส ระบุว่า สำหรับกลุ่ม”รอยัลลิสต์มาเก็ตเพลส-ตลาดหลวง”ซึ่งถูกตั้งขึ้นมาใหม่นั้น เป็นสิทธิ์ของแอดมินที่สามารถตั้งขึ้นได้ แต่หากกระทำผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการเหมือนเดิม ส่วนประชาชนทั่วไปหากโพสต์หรือแชร์ข้อมูลที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ก็ต้องถูกดำเนินคดี แต่หากเป็นเพียงสมาชิกในกลุ่มดังกล่าว ยังไม่ถือว่ามีความผิดแต่อย่างใด

ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างประเทศเทศ ถ้าทำผิดก็ละเว้นไม่ได้ เนื่องจากต้องใช้มาตรฐานเดียวกันในการบังคับใช้กฏหมายกระนั้นหากทางเฟซบุ๊กเตรียมจะถอนการลุงทุน ส่วนตัวคิดว่าบริษัทข้ามชาติล้วนตัดสินใจอย่างรอบคอบก่อนที่จะลงทุนในประเทศไทย ดังนั้นก่อนจะเข้ามาเปิดสำนักงานในประเทศไทยควรต้องศึกษาบริบท-ระเบียบทางสังคมมาก่อนแล้ว ซึ่งต้องแยกให้ได้อย่ามาปนกัน ตนก็ห้ามไม่ได้ถ้าทางเฟซบุ๊กจะตัดสินใจเช่นนั้น ตนเชื่อว่าถ้ากฏหมายไทยไม่ศักดิ์สิทธิ์คงไม่มีบริษัทข้ามชาติอื่นๆมาลงทุน เหตุการณ์นี้จะทำให้โลกรู้ว่าประเทศไทยอยู่ภายใต้กระบวนการกฏหมายไมได้ละเมิดสิทธิใคร


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"