21 เม.ย.61 - นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิยะบุตร แสงกนกกุล ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกันเฟซบุ๊กไลฟ์หลังลงพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน โดยนายธนาธร กล่าวว่า ในช่วงจังหวะที่ผมได้ลงอีสานในช่วงที่ผ่านมา ผมได้เจอกับคนหลายกลุ่มในหลายจังหวัด เจอกับชาวบ้าน เจอเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตร ผมเจอนักการเมืองท้องถิ่น อบต. อบจ. ในหลายพื้นที่ เจอกับนักธุรกิจด้วย นักธุรกิจรุ่นๆเรา หรือไม่ก็อาจจะเด็กกว่าเราบวกลบกว่าเรานิดหน่อยก็เจอ
นายปิยบุตร -มีเรื่องอะไรที่น่าสนใจไหม เห็นโพสต์ว่าไปเจอสภาพปัญหาที่แสดงให้เห็นถึงความอยุติธรรม ความเหลื่อมล้ำ
นายธนาธร - ใช่ เราเห็นได้ชัดว่าชาวบ้านที่ไม่มีปากไม่มีเสียง ไม่มีอำนาจทางการเมือง มักถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ เราเห็นกรณีของชาวบ้านหนองบัวลำภูที่ผมลงไปในพื้นที่ เราเห็นการเอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน ในเรื่องการกู้จากธนาคารออมสินอย่างนี้เป็นต้น
"เรารู้สึกว่า ผมไปดูแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกว่าอยากจะมีส่วนร่วม อยากจะมีอำนาจเพื่อเข้าไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงเรื่องต่างๆเหล่านี้"นายธนาธร กล่าว
นายปิยบุตร ถามว่านอกจากไปเจอสภาพปัญหาของชาวบ้านที่เกิดจากการใช้ระบบโครงสร้างอำนาจรัฐในพื้นที่ที่ถูกรังแกไม่เป็นธรรม ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม เช่นเรื่องปัญหาคนรุ่นใหม่เยาวชน
นายธนาธร ว่าก่อนที่จะไปถึงคนรุ่นใหม่เอาปัญหาชาวบ้านก่อน แทบจะทุกพื้นที่ที่ผมไปคุย ชาวบ้านพูดเป็นสียงเดียวกันหมด ว่าเศรษฐกิจแย่มาก อัตคัดขัดสนทุกพื้นที่ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจกลับดูไม่ค่อยแย่เท่าไหร่ เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอาจจะแย่ แต่ดูตัวมันเองไม่ติดลบ การเติบโตของจีดีพีไม่ติดลบ
นายปิยบุตร -ประเทศที่กำลังพัฒนาตัวเลขแบบนี้ถือว่าไม่น้อยนะ ทรงๆแบบนี้ก็ถือว่าไม่น้อย
นายธนาธร - ก็อาจจะน้อยกว่าเพื่อนบ้านเรานิดหน่อย แต่ว่าปีอย่างเนี้ยเรากำลังคาดการณ์ การเติบโตของเศรษฐกิจประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ แต่พอไปคุยกับชาวบ้านรู้สึกว่าตังในกระเป๋าไม่มี ผมจึงมีข้อสันนิษฐานว่าตอนนี้การเจริญเติบโตในเศรษฐกิจในบ้านเรามันไม่เป็นธรรม มันหมายความว่าส่วนเพิ่มของการเติบโตน่าจะกลับไปอยู่ในกลุ่มทุนเพียงไม่กี่กลุ่ม
นายปิยบุตร -มันไปกระจุกเพียงไม่กี่กลุ่ม
นายธนาธร - ผมคิดว่าอย่างนั้น ไม่อย่างนั้นการเจริญเติบโตในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาชาวบ้านต้องรู้สึกเงินกระเป๋ามันตุงขึ้นบ้าน แต่นี่ไม่มีเลย ทุกพื้นที่ น่าตกใจ พูดเหมือนกันนะทุกสาขาอาชีพด้วย พ่อค้าแม่ขาย
นายปิยบุตร -นี่แสดงให้เห็นว่าที่นักเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์กันว่า สุดท้ายวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้จะไม่เหมือนตอน 40 จะเป็นในลักษณะแบบซึมๆยาว ๆ
นายธนาธร - ผมคิดว่าซึมยาว เราอย่าลืมว่าเราอยู่ในลักษณะเศรษฐกิจที่เงินเฟ้อเป็น 1 เปอร์เซ็นต์ มันนานมากแล้วนะ 1 เปอร์เซ็นต์ ๆกว่าหลายปีแล้วนะ แล้วเราก็เห็นเรื่องของการการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อยู่ 2 เปอร์เซ็นต์ 3 เปอร์เซ็นต์นานมากแล้ว
นายปิยบุตร -สรุปคุณธนาธรไปอีสานหลายจังหวัด ถ้าจะให้ไล่นี่กี่จังหวัด
นายธนาธร - หนองบัวลำภู อุดร ขอนแก่น ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ โคราช และมหาสารคาม 7 จังหวัด
นายปิยบุตร -นั่นหมายความว่าหลังจากเปลี่ยนมาเป็นนักการเมืองเต็มตัวเนี่ย พูดกันตรงไปตรงมาในชีวิตไม่ได้ออกภาคอีสานนานแค่ไหนแล้ว
นายธนาธร - เป็น 10 ปีอาจารย์
นายปิยบุตร -เปลี่ยนไปเยอะไหม
นายธนาธร - จะว่าเปลี่ยนก็เปลี่ยน แต่จะว่าไม่เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน เรายังมีความเหลื่อมล้ำอย่างมหาศาลระหว่างเมือง กับชนบท เราอาจจะเห็น เราอาจจะไม่เห็นควายล่ะ จะเห็นแต่เครื่องจักรกลมาทำงานแทน แต่สิ่งที่ยังชัดก็คือ ความเหลื่อมล้ำยังมีอยู่มหาศาล ไม่หายไปเลย
นายปิยบุตร -ซึ่งเรื่องนี้ตามที่เราได้คุยกันอยู่บ่อยๆ คุณธนาธรได้พูดหลายๆครั้งวิธีการแก้ปัญหาทางโครงสร้างที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมาได้ สุดท้ายโจทย์หนึ่งต้องไปอยู่ที่เรื่องการกระจายอำนาจ
นายธนาธร - ใช่ครับอาจารย์ ผมคิดว่าคนอีสานไม่ได้โง่ และผมก็เชื่อว่าคนอีสานมีศักยภาพในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจที่ดี เพียงแต่โอกาส อำนาจ การเข้าถึงแหล่งทุนทั้งหมดมันถูกรัดรวมกัน และโยงกลับไปที่การตัดสินใจผ่านโครงสร้างอำนาจศูนย์กลางที่กรุงเทพฯ ทำให้โอกาสในการเจริญเติบโตที่นี่มันไม่มี โอกาสในการกำหนดอนาคตมันไม่มี ดังนั้นพวกเราจึงต้องต่อสู้ไปด้วยกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งโอกาสในการกำหนดอนาคตของตัวเอง ของท้องถิ่นทั่วประเทศ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |