นายกฯ เปิดรับฟังความเห็นนักเรียน-นศ. พร้อมให้ครม.ลุกขึ้นปรบมือให้ ระบุหลายข้อเสนอตรงกับสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการ มองการชุมนุมเป็นวิถี ปชต. แต่อย่าบิดเบือนให้แตกแยก ไม่ตอบโต้ ส.ส.ก้าวไกลไล่ล่าลูกสาว ให้ ปชช.ตัดสินใจ "เอนก" เผยยังไม่ถึงคิวคุยเยาวชนปลดแอก 27 ส.ค.นี้ ถ้ามาให้แยกคุย "ณัฏฐพล” เปิดไฟเขียวเวทีนักเรียนแสดงความเห็นถึง 15 ก.ย. ยันไม่มีคุกคามตัดคะแนน-ทุน ตร.แจ้ง 5 ข้อหาแกนนำม็อบมุ้งมิ้งหน้า ทบ. โว 19 ก.ย. มาชุมนุมกันล้นหลามแน่

     ที่โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น จ.ระยอง วันที่ 25 สิงหาคม ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ในช่วงหนึ่งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้นำตัวแทนนักเรียน นิสิต นักศึกษา มานำเสนอความเห็น โดยตัวแทนดังกล่าวได้เสนอความเห็น อาทิ อยากให้ลดเวลาเรียนและนำไปในเพิ่มกิจกรรมแทนให้ผู้ใหญ่รับฟังความเห็น โดยเยาวชนยินดีที่จะแสดงความเห็น แต่ขอให้เคารพความเห็นและสิทธิเสรีภาพของเยาวชนด้วย     
    ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์นั่งฟังอย่างอารมณ์ดี ได้เอ่ยชื่นชมตัวแทนนักเรียน นิสิต นักศึกษา ว่าได้ให้ข้อเสนอที่ดี ถือว่าเป็นการช่วยกัน "ลุงก็ทำเพื่อพวกหนู พวกหนูก็ทำเพื่อรุ่นพวกหนู อยากให้ช่วยกัน" ทั้งนี้ ภายหลังการรับฟังความเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษาเสร็จสิ้น นายกฯ ยังให้ ครม.ลุกขึ้นยืนและปรบมือให้กับตัวแทนนักเรียน นิสิต นักศึกษาด้วย
    ภายหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์แถลงว่า วันนี้ได้มีตัวแทนนักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมเสนอความเห็นด้วย เขาเสนอแนวทางอันเป็นประโยชน์ในทางที่สร้างสรรค์กับรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องของอาชีพ รายได้ สิ่งแวดล้อมต่างๆ เหล่านี้ ด้านการศึกษา อยากให้มีการปรับแก้อะไรบ้าง ตนก็ได้รับข้อสังเกต ข้อเสนอแนะของนักศึกษาทั้งหมดมาหลายอย่าง อยู่ในขั้นตอนที่รัฐบาลดำเนินการอยู่แล้ว เราต้องรับฟังความคิดเห็นของเขาอยู่แล้วในสิ่งที่เป็นประโยชน์และเกิดผลดีกับเขา ได้บอกกับน้องๆ เด็กๆ ลูกหลานว่าเราไม่ได้มองแค่เขา โดยจะเห็นได้ว่าการที่รัฐบาลวางยุทธศาสตร์ชาติไว้ 20 ปี คืออายุคนที่เกิดมาวันนี้ อีก 20 ปีเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป เขาต้องนึกว่าเมื่อมีลูกหลาน ต้องคิดต่อเนื่อง เป็นยุทธศาสตร์ที่ต้องคิดร่วมกันและการปรับแผนให้เหมาะสม
    "ผมถือว่าเป็นวิถีปกติตามระบอบประชาธิปไตย ทุกคนต้องช่วยกันทำงาน สร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ สิ่งที่ทำมาแล้วที่มีผลสัมฤทธิ์มากมายหลายประการ ขอความกรุณาดูทั้งสองทางด้วย ผมไม่ได้ห้ามว่าอย่าไปฟังเขา แต่ผมถูกเขาห้ามว่าอย่ามาฟัง อันนี้ไม่ใช่วิถีทาง แต่ต้องฟังทั้งสองฝ่ายด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่คำบิดเบือน อย่าให้มีการแตกความสามัคคีในประชาชนเด็ดขาด วันนี้ต้องช่วยกันลดผลกระทบเหล่านี้ด้วย เพราะถูกจับตามองหลายอย่างหลายส่วน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาที่ยังเกิดขึ้นอยู่ จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่
ให้ปชช.ตัดสินสส.ก้าวไกลล่าลูกสาว
     เมื่อถามถึงกรณี ส.ส.พรรคก้าวไกลปลุกกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ตามบุตรสาวของนายกฯ เป็นการคุกคามหรือไม่ รวมถึงมีการเชื่อมโยงอ้างว่านายกฯ กำลังถ่ายโอนเงินไปให้บุตรสาว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สังคมคิดเอาเอง ตนไม่ตอบประเด็นเหล่านี้ และเชื่อมั่นในตัวเองว่าไม่ได้ทำอะไรตามที่เขากล่าวอ้าง ประชาชนจะตัดสินใจเองว่าจะทำอย่างไร มันเกิดจากใคร แล้วจะทำอย่างไร ความรู้สึกจะเป็นอย่างไรท่านก็รู้อยู่แล้ว ตนไม่ตอบโต้ เพราะถือว่าไม่ใช่เรื่องที่เป็นข้อเท็จจริง ตนรู้ว่าทำอะไรถูกทำอะไรผิดอยู่  
      พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ดีใจที่ได้มีโอกาสพบปะนักศึกษาที่มาแสดงความคิดเห็น ได้เปิดเวทีพูดคุยกับเขามา ซึ่งตนรับได้ทุกอัน และได้บอกไปว่าทั้งหมดตรงกับสิ่งที่รัฐบาลคิดอยู่ อะไรที่รัฐบาลจะดำเนินการให้ได้ก็มีอยู่แล้ว ทั้งการปรับระบบการศึกษา โรงเรียนใดที่มีความพร้อม วันนี้ได้ให้กระทรวงศึกษาธิการสามารถปลดล็อกได้ในการจัดทำหลักสูตร เวลาเรียนให้ลดลง การบ้านเด็กๆ ก็ต้องลดลง เพื่อให้มีเวลาพูดคุยหารือกัน แสดงความคิดเห็นระหว่างกัน อาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้างในระบบเดิมๆ เก่าๆ แต่ระบบการศึกษาเราไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ยังมีโอกาสที่จะพัฒนา คนไทยทุกคนเป็นคนเก่ง แต่ทำอย่างไรให้เก่งถูกวิธีทาง เราต้องเตรียมรับความพร้อม สร้างอนาคตให้กับพวกเขา ทำในลักษณะสืบสาน รักษา ต่อยอด ระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่
    “เป็นเรื่องของพวกเราทุกคน ไม่ใช่เฉพาะแต่นายกฯ เป็นเรื่องของทุกคนที่จะช่วยทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย กฎหมายก็คือกฎหมาย วันนี้รัฐบาลพยายามฟัง สื่อสารทั้ง 2 ทาง เราบังคับใช้กฎหมายอย่างระมัดระวังที่สุด ไม่ได้ใช้อำนาจแบบไม่ถูกต้อง ดังนั้นฝากทุกคนช่วยกันด้วย โดยเฉพาะสื่อที่มีบทบาทสูงในสังคมปัจจุบัน ทั้งสื่อโซเชียลด้วย ต้องย้อนกลับมาดูว่าจะทำให้บ้านเมืองสงบอย่างไร" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะออกจากโรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น เพื่อไปปฏิบัติภารกิจต่อที่ จ.จันทบุรี ได้มีตัวแทนกำนันผู้ใหญ่บ้านกว่า 20 คน เข้ามอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ในการทำงาน พร้อมแจ้งข้อเรียกร้องเพิ่มเงินเดือน ซึ่งนายกฯ รับปากว่าจะไปดูให้ โดยมอบให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รับเรื่องไปพิจารณา นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวกับกำนันผู้ใหญ่บ้านว่า ขอมอบดอกกุหลาบนี้ให้กับพวกเราด้วย นี่คือประเทศไทย ต้องรวมใจไทยสร้างชาติ ขอให้จำไว้ นายกฯ จะไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น ถ้ามีคงอยู่มาไม่ได้หรอก ยืนยันจะทำงานให้ดีที่สุด ทุกอย่างจะต้องดำเนินการ เราต้องแก้ปัญหาโดยใช้วิธีนิวนอร์มอล จะทำอะไรต้องร่วมมือกัน จะขุดบ่อน้ำตรงไหนก็ต้องร่วมมือกัน จากนั้นนายกฯ ยังได้ร่วมร้องเพลง “รักกันไว้เถิด” กับกำนันผู้ใหญ่บ้าน      
    นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้สัมภาษณ์กรณีการเปิดเวทีเชิญแกนนำนักศึกษาแสดงความคิดเห็นในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ว่าเป็นการให้ตัวแทนนักศึกษามาเยี่ยมกระทรวง มาดูความก้าวหน้า และโอกาสที่กระทรวงมีให้กับเยาวชน โดยจะมีนักศึกษามาประมาณ 100 คน
ศธ.เปิดรับฟังถึง 15 ก.ย.
    เมื่อถามว่าจะมีในส่วนของเยาวชนปลดแอกหรือไม่ นายเอนก กล่าวว่า ไม่น่าจะมี ส่วนนั้นเขายังไม่ได้ติดต่ออะไรมา และเท่าที่ฟังเสียงดูยังไม่เห็นเวลาที่เขาจะมาพูดคุย ตอนนี้เราสนใจเยาวชนหลากหลายกลุ่ม แต่ถ้ามาก็จะแยกพูดคุย ซึ่งเรายินดีที่จะพูดคุยกับเขา ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่ยังไม่ทราบ
    นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสข่าวการเคลื่อนไหวของนักเรียนประเด็นหมิ่นเหม่สถาบันฯ ว่าการแสดงออกถือเป็นสิทธิของบุคคล อะไรที่สร้างความแตกแยกที่ไม่เหมาะสมก็อยากให้คำนึงถึงจุดนี้ ถ้าหากเป็นการก้าวร้าวหรือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดความแตกแยก ผู้อำนวยการโรงเรียนสามารถเข้าไปพูดคุยและตักเตือนได้ ไม่ใช่ว่ามีสิทธิเสรีภาพแล้วจะทำทุกอย่างได้ตามใจชอบ เพราะเราก็เปิดสถานที่ให้มีการพูดคุยกันแล้ว และมีการรับฟังความคิดเห็นผ่านทางสภานักเรียนมีกรอบเวลาที่ชัดเจนให้พูดคุยตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 ก.ย. ในช่วงเวลานี้เป็นโอกาสที่ทุกคนจะได้แสดงความคิดเห็น
    "จากนั้นจะรวบรวมมาเป็นภาพรวมของทั้งประเทศ นำประเด็นที่หลักที่เป็นไฮไลต์ของนักเรียนมาจัดลำดับ โดยดูความต้องการของนักเรียนส่วนใหญ่ให้อยู่ในลำดับต้น แล้วมาพิจารณาดูว่าเรื่องใดสามารถแก้ไขได้ โดยต้องดูความเหมาะสมประกอบกันด้วย แต่เรื่องใดยังไม่ถึงเวลา ถ้าทำไปแล้วเกิดผลกระทบในวงกว้างก็ต้องชี้แจงให้เข้าใจ เพื่อให้เกิดการสื่อสารสองทาง เมื่อรับฟังแล้วนำไปแก้ไขแล้วสื่อสารกลับ ผมจึงเห็นว่าควรพูดคุยกันโดยสันติวิธี โดยที่ไม่ให้ฝ่ายที่เห็นต่างเกิดความรู้สึกอึดอัด ซึ่งเป็นแนวทางที่น่าจะปฏิบัติกันทั่วโลก"
    เมื่อถามว่า จะให้อำนาจ ผอ.โรงเรียนเป็นผู้จัดระเบียบโดยที่กระทรวงจะยังไม่เข้าไปสั่งการอะไรใช่หรือไม่ นายณัฏฐพลกล่าวว่า ในประกาศกระทรวงที่ออกไปเปิดโอกาสให้ ผอ.โรงเรียนบริหารจัดการผ่านคณะกรรมการสถานศึกษา สภานักเรียน ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการแสดงความคิดเห็นภายในช่วงเวลาที่วางไว้
    เมื่อถามว่า มีข้อร้องเรียนว่ามีการใช้เรื่องการตัดคะแนนและทุนการศึกษามาเป็นเงื่อนไขต่อการแสดงความคิดเห็นของนักเรียน รมว.ศึกษาธิการกล่าวยืนยันว่า ไม่มี เท่าที่ได้รับฟังมา ทุกโรงเรียนก็เปิดรับฟังความคิดเห็นโดยไม่เกี่ยวข้องกับการตักเตือน ยืนยันว่าจะไม่มีการคุกคามเรื่องคะแนนหรือความรู้สึกที่ทำให้นักเรียนอึดอัด หากใครมีข้อมูลว่าสถานศึกษาใดไปดำเนินการในลักษณะไม่เหมาะสม ให้แจ้งมาที่กระทรวงได้
แจ้ง 5 ข้อหาม็อบมุ้งมิ้ง
    ที่ สน.นางเลิ้ง นายอานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน, น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย และนายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคอนาคตใหม่ เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากรณีจัดการชุมนุมปราศรัยหน้ากองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาด้วยเครื่องขยายเสียง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง จัดจุดคัดกรองผู้ที่จะเข้ามายังบริเวณโรงพักอย่างเข้มงวด พร้อมกันไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมถึงสื่อมวลชนขึ้นไปบนโรงพัก
    น.ส.สุวรรณากล่าวว่า ตลอดสมัยของรัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ตนถูกหมายเรียกและหมายจับในคดีชุมนุมทางการเมืองทั้งหมด 7 หมาย มีคดีคนอยากเลือกตั้ง 4 คดี ชุมนุมม็อบนักศึกษา 2 หมายเรียก และมีอีก 1 หมายจับของ สน.สำราญราษฎร์ แต่ยืนยันว่าไม่มีความกังวล อีกทั้งในการชุมนุมปราศรัยทุกครั้งก็เป็นสิทธิเสรีภาพในการพูด สิ่งใดที่สะท้อนได้ก็จะสะท้อนออกไป
    ด้านนายอานนท์กล่าวว่า การเข้าพบตำรวจนางเลิ้งวันนี้สืบเนื่องจากการชุมนุมที่หน้ากองทัพบก ภายหลัง พ.อ.หญิงนุสรา วรภัทราทร นายทหารประจำกรมยุทธการ กองบัญชาการกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นการชุมนุมทางการเมืองของนักศึกษาว่าเป็นม็อบมุ้งมิ้ง แต่หลังจากนี้คาดว่าตนอาจจะถูกตำรวจ สภ.คลองหลวงมาอายัดตัวไปดำเนินคดีตามหมายจับกรณีการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนคุมตัวฝากขังศาลธัญบุรี ซึ่งจะมีทีมทนายความไปดำเนินการขอประกันตัวอีกครั้ง
    ทั้งนี้ ตามกำหนดการ มีนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ อีก 1 คน เตรียมเข้ารับทราบข้อกล่าวหา แต่เนื่องจากถูกตำรวจสืบสวนภูธรภาค 2 นำหมายศาลเข้าจับกุมที่ จ.ระยอง ก่อนถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.คลองหลวง และอยู่ระหว่างเตรียมนำตัวไปฝากขังที่ศาลธัญบุรีในช่วงบ่ายวันนี้ จึงไม่ได้มาตามหมายเรียก
    ภายหลังเข้ารับทราบข้อหา นายพริษฐ์กล่าวว่า คดีความต่างๆ ที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นการพยายามสกัดขาพวกตนให้เสียขวัญและเหนื่อยล้า แต่รัฐบาลคิดผิด เพราะสิ่งที่ทำเหมือนกำลังประจานตัวเอง โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือกดขี่ประชาชนที่เห็นต่าง ยืนยันว่ากิจกรรมการชุมนุมต่างๆ จะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งการชุมนุมใหญ่ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ วันที่ 19 กันยายนนี้ เชื่อว่าจะมีผู้เข้ามาร่วมชุมนุมจำนวนมาก สังเกตจากกระแสการชุมนุมที่เกิดขึ้นในต่างจังหวัด จะมีการจัดแถลงข่าวถึงประเด็นนี้อีกครั้งในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ ที่สมาคมฝรั่งเศส ถนนวิทยุ ยืนยันว่าข้อเรียกร้องปฏิรูป 10 ประการยังเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นหลักการขั้นพื้นฐานของประเทศที่มีสถาบันอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับประเทศอังกฤษ ประเทศสเปน
    นายปิยรัฐกล่าวว่า สำหรับคดีชุมนุมที่หน้ากองทัพบก ตำรวจนางเลิ้งได้แจ้งความ 5 ข้อหา ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร และ พ.ร.บ.ความสะอาด เบื้องต้นพวกตนให้การภาคเสธ และจะไปให้การในชั้นศาล โดยพนักงานสอบสวนได้นัดส่งสำนวนในวันที่ 21 กันยายนนี้.