“หากเรายื่นญัตติตาม ม.151 เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาล ถามว่ามือในสภาเราจะชนะเขาหรือไม่ เพราะมือในสภาเราน้อยลงมากหลังจากอดีต ส.ส.บางพรรคย้ายพรรคไปเป็นสิบๆ คน ทำให้กำลังของส่วนรวมอ่อนแอไปมาก เพราะนักการเมืองที่ไร้อุดมการณ์บางพรรคขอร้องว่า จากนี้ไปอย่าหาเสียงแบบทำลายมิตร อย่าใช้วิธีเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น พรรคเพื่อไทยเคารพและให้เกียรติทุกพรรคการเมือง แต่พรรคการเมืองบางพรรคทำลายจิตใจพวกเรามามาก อย่าทำให้เราต้องลุกขึ้นมาสู้กับมิตรเลย เพราะศัตรูที่แท้จริงของเราไม่ใช่คุณ ศัตรูของเราคือเผด็จการ และความเดือดร้อนของประชาชน อย่าใช้วาทกรรมทำลายกัน ดังนั้นโปรดรักษาน้ำใจกันบ้าง มิเช่นนั้นน้ำใจของเราที่มีต่อคุณอาจเหือดแห้งและหมดไปในเร็วๆ นี้ก็ได้”

            ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย

                “ที่หลายคนประณามว่าพรรคเพื่อไทยไม่สู้ ผมอยากให้คนที่พูดลองถามตัวเองว่าหากพรรคยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบที่หลายคนต้องการจะมี ส.ส. พรรครัฐบาลและ ส.ว. มาโหวตสนับสนุนหรือไม่ นั่นคือเราจะไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้และความเสียหายจะตกกับประชาชน การเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงไม่ใช่เรื่องสู้หรือไม่สู้ แต่จะต้องหวังผลให้เกิดความสำเร็จเพื่อเอาอำนาจคืนให้กับประชาชนให้มากที่สุด เลิกพูดเอาหล่อเหยียบหัวเพื่อนสร้างกระแสตีกินไปวันๆ น่ารำคาญและน่ารังเกียจครับ”

            วัฒนา เมืองสุข หนึ่งในกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย

                “พรรคเพื่อไทยเราไม่เคยเห็นพี่น้องในฝ่ายเราเป็นอื่นเลยนอกจากมิตรที่จะต้องร่วมกันสู้เพื่อความหวังอันสูงสุดของพี่น้องประชาชน คือ ประชาธิปไตย ไม่มีหรอกครับ ใครเหนือใคร ใครเป็นผู้นำ ใครเป็นผู้ตาม ใครได้ซีนมากกว่ากัน ใครสู้มากกว่าใคร ทุกคนที่สู้มาก็เจ็บกันมาทั้งนั้น พี่น้องผมก็อยู่ในเรือนจำหลายคน ผมเองก็ยังมีคดีก่อการร้ายติดตัวอยู่”

            การุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย

            ชักแถว เรียงหน้ากันออกมาตอบโต้อย่างทันควัน หลังจาก เดอะโรม-รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาให้ความเห็น ไม่เห็นด้วย พรรคเพื่อไทยเข้าชื่อยื่นต่อประธานสภาฯ ขอใช้เงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล-ครม. โดยไม่ลงมติ 

            รังสิมันต์ โรม ฟันธงมองเพื่อไทยเสียเหลี่ยม เพราะจะเป็นการเปิดเวทีให้รัฐบาลมีโอกาสฟอกตัว 

            งานนี้กลายเป็นหนังเรื่องยาว เพื่อไทย-อนาคตใหม่ ที่แปรเปลี่ยนมาเป็นก้าวไกล ในอดีตเป็นมหามิตรฝ่ายประชาธิปไตย จับมือเหนียวแน่น ต่อต้านรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ในวันนี้กลายเป็นต่างคนต่างคิด ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

            ว่ากันว่า ปัญหาค้างคาใจถูกสมาชิกเพื่อไทยเก็บไว้ในใจมาหลายเรื่อง นับแต่การส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมเขต 5 สมุทรปราการ ที่ในการหาเสียงของคณะก้าวไกล เต็มไปด้วยวาทกรรมเสียดสี กระแทกแดกดันมาถึงมวลหมู่สมาชิกเพื่อไทย กลายเป็นเวทีชำแหละกันเองมากกว่าจับมือกันโค่นผู้สมัครจากฝ่ายตรงข้าม 

            โดยเฉพาะประโยคที่คนก้าวไกลมักเน้นย้ำ ‘ขอให้เลือกพรรคเรา เพราะเป็นฝ่ายค้านตัวจริง’ สร้างความขุ่นเคืองให้กับมิตรที่มีพรรคอยู่ติดกันเป็นอย่างยิ่ง   

            นอกจากนี้ ช่วงเริ่มต้น การชุมนุมกลุ่มนิสิตนักศึกษา มีสมาชิกก้าวไกลบางคนไปให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนต่อเยาวชน นิสิตนักศึกษา ที่กำลังจะขึ้นเวทีไฮปาร์ก  

                -เพื่อไทยเปิดซูเปอร์ดีลกับบิ๊กในรัฐบาล เอาตัวรอด เตรียมตั้งรัฐบาลแห่งชาติ

                -เพื่อไทยไม่สู้ ไม่สนับสนุนขบวนการนักศึกษา

            กลายเป็นประเด็นแทนที่จะจับมือทวงคืนอำนาจผ่านการต่อสู้ที่มาจากพลังบริสุทธิ์ แต่กลับมีวาทกรรม แฉลบมา ซักฟอกพวกกันเองที่เคยร่วมรบ จับมือกันมาเสียอย่างนั้น 

            ว่ากันอีกว่า ปมการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีการไปปลุกปั่นในโลกโซเชียล หลังจากจุดยืนแนวทาง 2 ขั้ว ประชาธิปไตยแตกต่างอย่างชัดเจน เพื่อไทยยึดมั่น 3 ข้อเรียกร้องนักศึกษา หยุดคุกคามประชาชน แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ และเน้นย้ำมาตลอด การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้เปิดให้มีการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เข้ามา แต่ห้ามแตะต้องหมวด 1-2 แต่ขอให้มุ่งไปแก้เกี่ยวกับระบบเลือกตั้ง 

            เพื่อไทยขอมุ่งเน้นแต่เรื่องการเมือง ขีดเส้นเอาไว้ชัด ไม่ขอข้องแวะสถาบันหลักอย่างเด็ดขาด 

            ทว่า ธงแนวความคิดก้าวไกล-ก้าวหน้า ที่ผนึกกำลังทั้งในสภา นอกสภา ต่างชูประเด็นตามที่ ส.ส.แกนนำพรรคก้าวไกลให้ความเห็นเอาไว้หลายคน เช่น ณัฐวุฒิ บัวประทุม, วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ปิยบุตร แสงกนกกุล, ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปักธงเอาไว้ชัด ทุกหมวดหมู่ไม่ควรมีข้อยกเว้น 

            ก้าวไกลเดินเลยธง เป็นเหตุทำให้เพื่อไทยถอยฉากคนละแนวความคิด

            ไม่เท่านี้ ในการหารือของพรรคร่วมฝ่ายค้านระดับแกนนำพรรคตัวจริงเข้าร่วม ยังเคยตั้งคำถามกลางวงที่ประชุม ‘ตกลงก้าวไกลต้องการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญจริงๆ ใช่หรือไม่’

            อันเนื่องจากการเคลื่อนไหว ส.ส.ในสภา ก้าวไกล การจัดเสวนา การให้ข้อมูลผ่านโลกโซเชียล คณะก้าวหน้า เพียงเพื่อเอาใจม็อบในกลุ่มที่มีชุดความคิด 10 ข้อเรียกร้อง เอาใจมวลชน เอามันส์ มากกว่ามองมิติแห่งความเป็นจริง

            ยังไม่นับรวมปมประเด็นส่อเค้าจะคุยไม่รู้เรื่องทั้งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ผู้สมัคร ส.ก. ผู้สมัครนายก อบจ. ที่ในวันนี้ชุดความคิดก้าวไกลไปคนละทิศทางเพื่อไทยอย่างชัดเจน

            รัฐธรรมนูญ ขบวนการนักศึกษา ข้อเรียกร้อง การเลือกตั้งท้องถิ่น การทำงานในสภา รอยปริ รอยแยก ที่มีทั้งปะทุขึ้นแล้วและรอวันปะทุ ทำท่าศึกของ 2 มิตรข้างบ้านนับวันจะยิ่งดุเดือด   

            ความสัมพันธ์สองพรรคเพื่อนบ้าน เส้นกั้นบางๆ มิตรร่วมรบ หรือหอกข้างแคร่ ช่างใกล้กัน....เหลือเกิน.