ถือเป็นนักการเมืองที่คร่ำหวอดในวงการมาเนิ่นนาน แต่เพิ่งมาสมหวังเป็นรัฐมนตรีด้วยตัวเองก็ปาเข้าไป 37 ปีเลยทีเดียว สำหรับ เสี่ยแฮงค์-อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
พูดถึง เสี่ยแฮงค์ กว่าจะมาเป็นเบอร์ต้นๆ ทางการเมืองได้ ต้องผ่านความลำบาก ความเจ็บช้ำ และอดทนยอมกลืนเลือดมาทุกรูปแบบ
ในขณะเดียวกันก็ผ่านการเรียนรู้จากโคตรเซียนการเมืองมาเกือบทุกยุคทุกสมัย ทำให้เขารู้จังหวะจะโคนและการก้าวย่างที่สำคัญ ที่จะเป็นลมใต้ปีกหนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้า พปชร. แก้ปัญหาทุกมิติ โดยเฉพาะเศรษฐกิจปากท้องหลังยุคโควิด-19 ทั้งยังทำหน้าที่ประสานสิบทิศทางการเมือง และประนีประนอมม็อบนักเรียน นิสิต นักศึกษา ส่วนจะทำสำเร็จหรือไม่คงต้องติดตามกันต่อไป
ก่อนจะเครียดไปกว่านี้ ฟังมุมเบาๆ กันบ้าง หลายคนสงสัยว่าแม่บ้านพรรคพลังประชารัฐทำไมถึงชื่อ "แฮงค์" ยังกับฝรั่ง เพราะทราบมาว่าพื้นเพเป็นเด็กต่างจังหวัด คุณพ่อคุณแม่เปิดร้านขายยาและขายของชำอยู่ในตลาดโพนางดำตก ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
กระจอกข่าวปะหน้าที่ทำเนียบฯ จึงถามไถ่ รมต.อนุชา เจ้าตัวย้อนอดีตให้ฟังว่า ในวัยเด็กเป็นคนตัวเล็กเหมือนกุ้งแห้ง จึงถูกเพื่อนๆ เรียกว่า แห้ง แต่พอโตขึ้นได้เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ผู้ใหญ่ก็เรียกกันไปเรียกกันมาจนเพี้ยนกลายเป็นแฮงค์
“พี่เห็นว่าเท่ดีกว่าเรียกว่าแห้ง” ก็ยอมให้เรียกว่า "แฮงค์" จนติดปากมาถึงทุกวันนี้ ทั้งที่เบียร์ไม่ดื่ม เหล้าไม่กิน ไวน์ก็ไม่แตะ... “รมต.แห้ง" คลายความสงสัยปิดท้าย.
เด็กคลองเตย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |