เรือดำน้ำจำเป็นหรือไม่?
    คำถามก็คงคล้ายๆ ประกันอัคคีภัยบ้าน มีความจำเป็นหรือเปล่า 
    หรือจะเอาเงินไปซื้อข้าวมากินก่อน เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ชักหน้าไม่ถึงหลัง 
    ไฟไหม้บ้านไม่ต้องกลัว เพราะคงไม่ไหม้ช่วงนี้ 
     ถ้าดันไหม้ขึ้นมาถือว่าโคตรซวย
    ฉะนั้น ถ้าคิดว่าไม่จำเป็นมันก็ไม่จำเป็น
    แต่หากเห็นว่าจำเป็น มันก็จำเป็น 
    เรื่องเรือดำน้ำมองได้หลายมิติ ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง 
    กองทัพเรือต้องการเรือดำน้ำมาปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ 
    พรรคฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่าประชาชนอดอยาก ยังไม่ควรซื้อเรือดำน้ำ เพราะงบประมาณมูลค่า ๒๒,๕๐๐ ล้านบาท สามารถนำไปช่วยเหลือประชาชนได้มหาศาล
    นักเคลื่อนไหว ต่อต้านรัฐบาลขู่ว่า หากรัฐบาลดื้อดึง ประชาชนจะลงถนน
    พลเรือโทประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการกองทัพเรือ พ่วงตำแหน่งโฆษกกองทัพเรือ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวฟังแล้วนักการเมืองสะดุ้งกันพอควร 
    “การบอกว่ากองทัพเรือใช้เงินฟุ่มเฟือยเป็นข่าวเท็จที่มุ่งหวังประโยชน์ทางการเมือง เป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัวที่สุด ถามว่าจะยอมให้นักการเมืองสร้างเรื่องที่ไม่เป็นจริงให้บ้านเมืองเดือดร้อนหรือ ถ้านักการเมืองหมดมุกแล้ว ก็หามุกอื่นเถอะ อย่าสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กองทัพเรือเลย 
    อย่าให้สังคมตกเป็นเครื่องมือการเมืองในวิถีเก่าๆ และสกปรกแบบนี้อีกเลย อย่าดึงประชาชนมาเกลียดชังกองทัพเรือ ตอนนี้ปัญหาต่างๆ ถาโถมมาหลายเรื่อง การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน จะทำให้ประเทศชาติหยุดชะงัก 
    กองทัพเรือไม่ใช่จำเลย จึงวิงวอนว่าให้ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เพื่อเห็นแก่ความสุขสงบของประเทศเป็นหลักด้วย
    จากผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล มูลค่า ๒๔ ล้านล้านบาท เงินค่าเรือดำน้ำที่จ่ายในปี ๖๔ นั้น เป็นมูลค่า ๓,๙๒๕ ล้านบาท หรือเป็น ๐.๐๙๔% เท่านั้น"
    ไม่บ่อยที่ทหารจะแถลงข่าวดุเดือดแบบนี้...แต่ก็ชัดเจนว่าส่งสัญญาณไปถึงนักการเมืองโดยตรง  
    ทีนี้มาดูข้อเท็จจริงในการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินกัน
    ๒๒.๕ หมื่นล้านบาท ไม่ได้จ่ายงวดเดียว แต่แบ่งจ่ายตามงบฯ ผูกพันปี ๒๕๖๔-๒๕๗๐ ดังนี้
    ปี ๒๕๖๔ จำนวน ๓,๙๒๕ ล้านบาท
    ปี ๒๕๖๕ จำนวน ๒,๖๔๐ ล้านบาท
    ปี ๒๕๖๖ จำนวน ๒,๕๐๐ ล้านบาท
    ปี ๒๕๖๗ จำนวน ๓,๐๖๐ ล้านบาท
    ปี ๒๕๖๘ จำนวน ๓,๕๐๐ ล้านบาท
    ปี ๒๕๖๙ จำนวน ๓,๕๐๐ ล้านบาท
    ปี ๒๕๗๐ จำนวน ๓,๓๗๕ ล้านบาท
     ฉะนั้นหากเอาตามเสียงเรียกร้องให้เอางบฯ ซื้อเรือดำน้ำไปช่วยคนจน ก็ต้องดูเป็นรายปีงบประมาณ 
    ปี ๒๕๖๔ เอาไปช่วยคนจนได้ ๓,๙๒๕ ล้านบาท ไม่ใช่รวดเดียว ๒๒.๕ หมื่นล้านบาท อย่างที่นักการเมืองประโคมกัน 
    น้อยกว่างบฯ ที่ตั้งไว้ชดใช้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยปีละ ๕ หมื่นล้านบาท ติดต่อกัน ๑๖ ปี จากความฉิบหายในโครงการรับจำนำข้าวของพรรคเพื่อไทยชนิดเทียบกันไม่ติด 
    ควักเงินผ่อนจ่ายประกันอัคคีภัยบ้านไป แถมยังมีเงินพอใช้จ่ายได้กิน กับเอาเงินไปใช้ไปกินหมด เกิดไฟไหม้บ้านขึ้นมา หมดตูดเหลือแต่ที่ดิน     
    คิดดูจะเอาแบบไหน.