เป็นคนไม่ตกเทรนด์ในยุคดิจิทัล ที่ผู้บริโภคสื่อเลือกที่จะเชื่อข่าวแชร์ ข่าวโพสต์ และทวิตเตอร์ มากกว่า "สื่อกระแสหลัก" อย่างหนังสือพิมพ์ วิทยุและโทรทัศน์ ก็จำเป็นอย่างยิ่งต้องรู้จักจริตของเยาวชนเจน X Y Z มิเช่นนั้น อาจจะถูกตั้งข้อกล่าวหาเป็นพวกไดโนเสาร์เต่าล้านปี
อิทธิพลของข่าวที่มาจากทวิตเตอร์มากมายก่ายกองขนาดไหน ก็พิสูจน์ทราบได้จากจำนวนเด็กนุ่งขาสั้น ผูกคอซอง ติดโบสีขาว และชูสามนิ้วระหว่างเข้าแถวที่โรงเรียนนั่นแหละ
เป็นปรากฏการณ์ที่มนุษย์ป้ารู้สึกระทึกใจจริงๆ เพราะจำได้ว่า ตอนป้านุ่งกระโปรงนักเรียนจีบรอบตัวเสื้อคอปกเชิ้ตนั้น เรียนรู้การเข้ารวมกลุ่มประท้วงต่อสู้ทางการเมืองไล่รัฐบาลเผด็จการเมื่อยุคตุลาคม 2519 นั้น เพราะมี "พี่ชาย" ที่เป็นนักศึกษาจูงมือไป
ข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ นั้น เด็กนักเรียนมัธยมอย่างเราไม่มีโอกาสรู้ ถ้าหากไม่รู้จักรุ่นพี่ หรือมีญาติพี่น้องที่ร่ำเรียนในระดับอุดมศึกษา
ความแตกต่างของการสื่อสารในอดีต จึงช่วย "กัน" เยาวชนที่ยังอ่อนหัดและอ่อนต่อโลกให้ออกจากปัญหาวุ่นบ้านเมืองโดยปริยาย และไม่ง่ายเกินไปนักที่จะตกเป็น "เหยื่อบริสุทธิ์" แอบอ้างประชาธิปไตยบังหน้า
ย้อนคิดถึงอดีต แล้วเปรียบเทียบกับปัจจุบัน ..มนุษย์ป้าอย่างเราคงต้องยอมยกธงขาว เพราะการทะลุทะลวงของข้อมูลข่าวสารต่างๆ เข้าไปถึงห้องนอน หรือพื้นที่ส่วนตัว และสามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครอง หากอยากจะจับเข่าคุยกับลูกหลานในปัญหาความคิดความเห็นที่ไม่ลงรอยกัน เราต่างต้องนั่งถ่างตารอ ว่าลูกหลานจะกลับเข้าบ้านตอนไหน และเมื่อถึงบ้านพวกเขามีอารมณ์ที่จะนั่งลงคุยกับเราและแลกเปลี่ยนกันด้วยเหตุผลไหม
จึงไม่แปลกอะไรที่วันนี้มีเพื่อนมาบอกป้าๆ ว่า เด็กๆ เขาเรียกพวกเราที่เห็นต่างจากเขาว่า "ไดโนคัลเลอร์"
ฟังที่มาและคำอรรถาธิบายแล้ว ก็ต้องก้มหน้าก้มตาปลงซะ!!! เพราะมาจาก "ไดโนเสาร์" สมาสกับคำว่า "สลิ่ม" นั่นเอง
ต้องยอมรับว่า เก่งจริง..ตัวแค่นี้!!!
อย่าคิดมากเลยกับวันเวลาที่กำลังเปลี่ยนแปลง. "ป้าเอง"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |