"เรือดำน้ำ" หยวนคลาส S26T
ถูก "เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์" ใช้เป็นเครื่องบรรณาการ "รุ่นใหม่ ๓ นิ้ว" แบบสอพลอคะแนนนิยมอีกจนได้
ทั้งที่ ถกกันแล้วในวงประชุม อนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ในคณะ กมธ.พิจารณางบ ปี ๖๔ และมีการโหวตเสียง
ฝ่ายให้ผ่าน ชนะไปด้วย ๕:๔ เสียง
เพื่อไทย-ฝ่ายค้าน......
แพ้ในที่ประชุม ก็ออกมาตั้งโต๊ะ ปลุกกระแสค้านข้างนอก เป็นมรสุมสมทบถล่มรัฐบาล เรียกว่าเอากันด้านๆ ทุกเม็ด!
คือ เมื่อ ๑๗ ส.ค.๖๓ ในวาระ พิจารณางบกองทัพเรือ วงเงิน ๔๘,๒๘๙ ล้านบาท
ในประเด็นจัดซื้อเรือดำน้ำอีก ๒ ลำ มูลค่า ๒๒,๕๐๐ ล้าน ฝ่ายเห็นค้าน ให้เลื่อนการซื้อไปก่อน อ้างช่วงนี้วิกฤติ ให้เอาเงินไปช่วยชาวบ้าน
กองทัพเรือชี้แจง เป็นความต่อเนื่องการใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพตามแผนยุทธศาสตร์ทางทะเลยุคปัจจุบัน ควรต้องมี ๓ ลำ
ลำแรก ซื้อไปแล้วปี ๖๐ ราคา ๑๓,๕๐๐ ล้าน จะได้รับเรือ ปี ๖๗
การต่อเรือแต่ละลำ ต้องใช้เวลา ๖-๗ ปี ดังนั้น ปี ๖๔ จึงจำเป็นต้องสั่งซื้ออีก ๒ ลำ
การซื้อ ใช้เงินในส่วนงบของกองทัพเรือเอง รัฐบาลไม่ได้ตั้งงบให้ต่างหาก
โดยกองทัพเรือ "ผ่อนต้น-ผ่อนดอก" เอง ปีละ ๓ พันกว่าล้าน ประมาณ ๗ ปี/ลำ
และไม่ได้จ่ายทีเดียวทั้ง ๒๒,๕๐๐ ล้าน อย่างที่พูดตีขลุมให้คนหลงเข้าใจว่า ปี ๖๔ ต้องจ่ายหมดทั้งก้อน!
ประชาธิปัตย์ พรรคร่วมรัฐบาลแท้ๆ กลัวตกกระแสหรือไง เห็นนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.กทม.เดินตามธงเพื่อไทยบ้าง
".........ขอเรียกร้องให้ทบทวนชะลอการซื้อเรือดำน้ำ ๒ ลำ วงเงิน ๒๒,๕๐๐ ล้านบาท ออกไปก่อน เพื่อนำงบประมาณไปใช้จ่ายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนที่กำลังประสบปัญหาอย่างมากอยู่ขณะนี้"
นายกรณ์ "พรรคกล้า" น่าจะเข้าใจประเด็นนี้ดี เพราะเคยเป็นถึงระดับรัฐมนตรีคลังมาแล้ว แต่กลับโพสต์เฟซ ว่า
"........หากเอามาช่วยผู้ประกอบการพยุงเงินหมุนให้รอดตาย รายละแสนบาท จะช่วยได้ถึง 2 แสนกว่าราย การอนุมัติซื้อเรือดำน้ำในวันที่ชาติกำลังอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง"
ครับ....
อย่างที่บอก ทัพเรือใช้เงินจากงบแต่ละปีเขาเองซื้อ ไม่ได้เบียดบังงบในส่วนพัฒนาประเทศ หรืองบฉุกเฉิน หรืองบของกระทรวงอื่นไปซื้อ
พูดง่ายๆ ทัพเรือใช้งบผูกพันกับงบประจำปีของเขาเอง ที่พูดกันว่า คนกำลังอดอยาก ให้เอาก้อนนี้ไปช่วยคนก่อน เอาไปช่วยผู้ประกอบการก่อน คน ๒ แสน อะไรนั่น
พูดให้ดูดี-ดูเท่ ใครก็พูดได้ เหมือนจับช้างทั้งตัว จับขา บอกว่า..นี่ไงช้าง มันก็ใช่ จับงวง บอก...นี่ตะหากช้าง มันก็ไม่ผิด
แต่มันเป็น "ใช่" ที่แยกแต่ละส่วนกัน เอาขาไปแทนงวง, เอางวงไปแทนขา อย่างที่สื่อความให้ชาวบ้านเข้าใจไปทางนั้น ไม่ตะขิด-ตะขวงใจ ตามวิสัยวิญญูชนไปหน่อยหรือ?
ช่วยชาวบ้าน ก็เงินส่วนหนึ่ง ช่วยเอสเอ็มอี ก็อีกส่วนหนึ่ง และทัพเรือ ในส่วนกลาโหม ก็มีของเขาส่วนหนึ่ง
ในวิธีการจัดทำงบประมาณนั้น......
จะตัดงบทัพเรือไปแจกชาวบ้าน หรือเอางบช่วยเหลือชาวบ้านไปให้กองทัพ ที่ไหนเขาทำกัน?
เป็น ส.ส.จนราขึ้น ไม่รู้หรืออย่างไร ถึงพูดอย่างนั้น ต้องการถล่มรัฐบาลก็ว่าไป แต่การเอาเงิน ๒๒,๕๐๐ ล้าน "เกี่ยวเบ็ด" ล่อชาวบ้านแบบนี้
ล่อให้ชาวบ้านเกิดทัศนคติลบ ถึงขั้นไปทะเลาะกับกองทัพเรือ ทำแบบนี้ สะใจมากหรือไง?
เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ จะเล่นการเมืองแบบ "หมาในรางหญ้า" ไปเพื่ออะไร?
๒๒,๕๐๐ ล้านนั่นน่ะ เป็นยอดรวมซื้อสินค้าเงินผ่อน ไม่ใช่ตัวเงินก้อนมีในมือกองทัพ ปี ๖๔ ที่จะเอาไปแจกชาวบ้านได้ การพูดแบบนั้น เขาเรียกว่า "ตดให้หมาดม"
ผมจะให้นักการเมืองในสภา โดยเฉพาะ "เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์" อ่านอะไรซักนิด
Warong Dechgitvigrom
1 เมษายน 63
"ผมได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการจาก ปปง.แจ้งว่าเพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 นับวัน จะมีการแพร่ระบาดมากขึ้น
ศาลแพ่งจึงได้เลื่อนการพิจารณาคดี ตั้งแต่ 24 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ทำให้หมายศาลที่ผมต้องขึ้นเบิกความเป็นพยานเพื่อยึดทรัพย์เสี่ยเปี๋ยงและพวก คดีทุจริตจีทูจี สมัยรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ต้องเลื่อนไปด้วย
หมายเหตุ:
คดีนี้ เป็นผลพวงของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2555
และได้ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินคดีอาญาและคดีการเมือง ซึ่งทุกอย่างยุติแล้วด้วยการจำคุก
และได้ยื่นเรื่องต่อ ปปง.ในช่วงเวลาเดียวกันด้วย เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์
คดียึดทรัพย์มาเริ่มหลังจากศาลฎีกามีคำพิพากษาว่าคดีอาญามีความผิด การฟ้องศาลเพื่อยึดทรัพย์ซึ่งเป็นคดีแพ่ง เกิดขึ้นโดย ปปง.เป็นเจ้าของคดี
เนื่องจากทรัพย์ที่ยึดมีจำนวนมาก ทาง ปปง.ได้แยกฟ้องเป็นคดีๆ ไป จึงทำให้ต้องขึ้นเบิกความเป็นพยาน แยกแต่ละคดีไป และต้องร้องผ่านศาลแพ่งชั้นต้นก่อน เนื่องจากไม่ใช่คดีของนักการเมือง
ความเสียหายของโครงการรับจำนำข้าว ในภาพรวม ไม่น้อยกว่า 5.36 แสนล้านบาท
รัฐบาลนี้ ได้ตั้งงบชดใช้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยปีละ 5 หมื่นล้านบาท ติดต่อกัน 16 ปี"
นี่........
ตรงนี้แหละ "ใช่" เลย!
คือเงินที่รัฐบาลต้องเอาภาษีประชาชนทั้งประเทศไปตั้งเป็นงบ "ใช้หนี้แทนยิ่งลักษณ์กับแก๊งเพื่อไทย" จากทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
และงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๖๔ จำนวน ๓.๓ ล้านล้านบาท ที่กำลังพิจารณากันอยู่ขณะนี้
ไม่มีการตั้งงบซื้อเรือดำน้ำ ๒๒,๕๐๐ ล้านบาท เป็นการเฉพาะแต่อย่างใด
ที่มีแน่นอน คือ........
งบ "ใช้หนี้แทนยิ่งลักษณ์กับแก๊ง" ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท มีอยู่ในยอด ๓.๓ ล้านล้านบาทนั้นด้วย!!!
๕ หมื่นล้าน/ปี นำไปซื้อเรือดำน้ำ จะซื้อได้ปีละ ๒ ลำ ๑๖ ปี ประเทศไทยจะมีเรือดำน้ำมากที่สุดในโลก "๓๒ ลำ"
หรือถ้าไม่ซื้อ......
เอา ๕๐,๐๐๐ ล้าน/ปี ไปแจกชาวบ้าน ตามเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์และพรรคกล้าบอก ต่อเนื่อง ๑๖ ปี
คงไม่มี ส.ส.ตบทรัพย์อธิบดีแลกผ่านงบ แย่งกันไปตบหัวคิวบ้านแทน!
การโกงจริง-เจ็บจริง-หนีจริง ของคณะยิ่งลักษณ์
ทำให้รัฐบาลต้องนำเงินพัฒนาประเทศ, เงินช่วยเหลือชาวบ้าน, เงินเพื่อการศึกษาเด็ก ไปตั้งงบฯ จ่ายหนี้แทนจริงเห็นชัดๆ แบบนี้
ทำไมเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ ไม่พูด ไม่ทวงถาม ไม่ทำอะไรในทางยึดเอาทรัพย์สินคนโกงมาชดใช้บ้างล่ะ จะได้มีเงินช่วยชาวบ้านไม่ให้อดอยาก-ยากแค้น อย่างที่ยกอ้าง?
สันดาน ก็คือสันดาน พูดเอาดี-เอาเท่ ทิ่มแทงหวังให้คนเกลียดชังกองทัพ
การสร้างเหตุ-สร้างเรื่องเช่นนี้ ไม่แค่หวังร้ายรัฐบาล แต่เป็นการทำให้คนเข้าใจผิดและเกลียดสถาบันกองทัพ
การจะ "ล่มชาติ-ล่มสถาบัน" ด้วยการเปิดประตูเมืองให้นอกชาติเข้ามาเป็นเจ้าเข้าครองประเทศได้
"ไส้ศึก" ต้องทำหน้าที่ "ลิดรอน-ถอดเขี้ยวเล็บ" กองทัพ แบบนี้แหละ!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |