ไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 5 รายจากสถานกักกันตัวอีกแล้ว เริ่มน่าห่วงต้องตรวจรอบ 2-3 ถึงพบเชื้อ เพราะไม่มีการแสดงอาการ สธ.ย้ำให้รักษาวินัยป้องกันตัวให้เป็นนิสัย อย่าตื่นเรื่องระบาดรอบ 2
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักในสถานกักกันตัวของรัฐ โดยมาจากอินเดีย 1 ราย, อังกฤษ 1 ราย, โอมาน 3 ราย ส่วนในประเทศยังคงไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทำให้ผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,395 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,444 ราย และตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 458 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,221 ราย หรือ 94.87% ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 116 ราย หรือ 3.42% ของผู้ป่วยทั้งหมด และยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
     ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก มียอดผู้ติดเชื้อ 23,377,806 ราย เสียชีวิต 808,588 ราย โดยอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดคือ 1.สหรัฐอเมริกา 5,841,428 ราย 2.บราซิล 3,582,698 ราย 3.อินเดีย 3,043,436 ราย 4.รัสเซีย 951,897 ราย และ 5.แอฟริกาใต้ 607,045 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 117
     นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ว่าเป็นผู้ที่เดินทางต่างประเทศ จากอินเดีย 1 ราย, อังกฤษ 1 ราย และโอมาน 3 ราย ซึ่งเข้ารับการเฝ้าระวังกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ โดยผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากอินเดีย 1 ราย เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 41 ปี อาชีพแม่บ้าน เมื่อวันที่ 8 ส.ค. เดินทางถึงไทย เป็นเที่ยวบินเดียวกันกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 19 ราย เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อวันที่ 21 ส.ค. พบเชื้อจากการตรวจครั้งที่ 3 ซึ่งในประวัติเคยมีอาการป่วย อังกฤษ 1 ราย เป็นเพศหญิง สัญชาติไทยอายุ 45 ปี อาชีพรับจ้าง เมื่อวันที่ 10 ส.ค. เดินทางถึงไทย เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ใน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 ส.ค. พบเชื้อจากการตรวจครั้งที่ 2 โดยไม่มีอาการ
     “โอมาน 3 ราย สัญชาติไทย เป็นเพศหญิง 2 ราย อายุ 26 ปีว่างงาน อายุ 29 ปี อาชีพพนักงานโรงแรม และเพศชาย 1 ราย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างทั้ง 3 ราย เมื่อวันที่ 17 ส.ค. เดินทางถึงประเทศไทย เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ใน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 ส.ค. พบเชื้อจากการตรวจในครั้งแรก โดยไม่มีอาการ”
     นพ.โสภณย้ำว่า มาตรการการดูแลสำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ยังคงเข้มงวดทุกขั้นตอน โดยทุกคนต้องถูกกักตัวเพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน และตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีการนำเชื้อเข้าสู่ประเทศ และหากพบว่าป่วยหรือติดเชื้อจะนำเข้าสู่ระบบการรักษาทันที ส่วนข้อกังวลของประชาชนว่าจะเกิดระบาดระลอก 2 นั้น สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ไม่เกิดการระบาดได้คือ รักษาวินัยในการป้องกันตนเอ งทำให้เป็นนิสัย โดยการสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้านและตลอดเวลาขณะอยู่ในพื้นที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ กินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว เว้นระยะห่าง ลดการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัด เมื่อไปใช้บริการในสถานที่ต่างๆ ต้องลงทะเบียนเข้า-ออก หรือลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ
     “ผู้ประกอบการ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ยังต้องให้ความร่วมมือรักษามาตรการที่รัฐได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันและช่วยรักษาสถานการณ์ให้อยู่ในระดับต่ำต่อไป แต่หากเกิดการระบาดขึ้น ระบบสาธารณสุขของไทยก็พร้อมรองรับการดูแลรักษาประชาชนได้ และขอความร่วมมือประชาชน ไม่ส่งต่อ ไม่แชร์ ไม่เชื่อข่าวปลอมที่ไม่ทราบแหล่งที่มา โดยสามารถติดตามข่าวสารที่ถูกต้องเชื่อถือได้จาก ศบค.และกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422” นพ.โสภณกล่าว.