การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.ระยอง และจันทบุรี ระหว่างวันที่ 24-25 ส.ค. ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ครม. ถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีมาตรการผ่อนคลายในการดูแลป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 

        จุดหมายสำคัญที่ “บิ๊กตู่” เลือก จ.ระยอง เป็นสถานที่การประชุม ครม.สัญจร มีผลสืบเนื่องมาจากกรณีของทหารอียิปต์ ที่เข้ามาตามเงื่อนไขพิเศษ และเข้าไปใน จ.ระยอง ซึ่งภายหลังปรากฏว่ามีเชื้อโควิด-19 

        กรณีดังกล่าวถูกเรียกว่า แขกวีไอพี จนทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ต้องยกเลิกมาตรการยกเว้นให้กับบุคคลที่เข้ามาประเทศไทยได้ในเงื่อนไขพิเศษ เนื่องจากได้สร้างผลกระทบหลายมิติ

        โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวที่ จ.ระยอง ซึ่งทันทีที่เกิดเรื่องทหารอียิปต์ขึ้น ยอดจองห้องพักในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังถูกยกเลิกระนาว ส่งผลกระทบเป็นห่วงโซ่ไปยังธุรกิจอย่างอื่น 

        เหตุนี้ “บิ๊กตู่” จึงตั้งใจที่จะใช้ จ.ระยอง เป็นสถานที่การประชุม นัยหนึ่งคือ เพื่อเรียกความเชื่อมั่น และอีกนัยหนึ่งเพื่อเข้าหาประชาชนที่เกิดความไม่พอใจในช่วงดังกล่าว

        เมื่อครั้งกำหนดโปรแกรม ครม.สัญจร จ.ระยอง สถานการณ์การเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศไทยยังไม่ร้อนแรงเท่ากับในปัจจุบัน การประชุมครั้งนี้จึงถูกจับจ้องเป็นพิเศษ

        โดยเฉพาะปฏิกิริยาในพื้นที่ จ.ระยอง ที่จะเกิดขึ้นกับ “บิ๊กตู่” ในระหว่างการลงพื้นที่ เพราะต้องไม่ลืมว่า เมื่อคราว “บิ๊กตู่” ลงพื้นที่ เรียกความเชื่อมั่นกับผู้ประกอบการในช่วงเกิดกรณีทหารอียิปต์ ก็มีการออกมาชูป้ายโจมตีรัฐบาล ตัวละครสำคัญในนั้นคือ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง หัวหอกเยาวชนปลดแอกในปัจจุบัน

        ในขณะเดียวกันยังมีเรื่องน่าสนใจ เพราะก่อนหน้า “บิ๊กตู่” จะเดินทางลงพื้นที่ จ.ระยอง 1 วัน ปรากฏว่า ในวันอาทิตย์ที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ก็ได้เข้ามาจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่น ซึ่งนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะเจ้าของพื้นที่ เคยระบุว่าเป็นกิจกรรมที่มีการแจ้งล่วงหน้าเอาไว้แล้ว

        หนึ่งในกิจกรรมที่นายธนาธรดำเนินการเมื่อวันอาทิตย์คือ การเดินทางไปรับฟังพูดคุยกับประชาชน พ่อค้าแม่ค้า บริเวณตลาดรวบรวมสินค้าครบวงจรเทศบาล ต.บ้านเพ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ตลาด 100 เสา”  

        เป็นจุดเดียวกับภารกิจในช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 24 ส.ค. ที่ “บิ๊กตู่” จะเดินทางไป โดย “บิ๊กตู่” จะไปเยี่ยมชมตลาด 100 เสา จะพบปะกับตัวแทนผู้ประกอบการการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เยี่ยมชมนิทรรศการบริษัท ประชารัฐสามัคคีระยอง (วิสาหกิจสังคม) จำกัด ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนจาก 8 อำเภอ และร้านค้าภายในตลาด 100 เสา

        เป็นจุดจุดเดียวกัน ระยะห่างห่างกันแค่วันเดียว และเป็นกิจกรรมในลักษณะคล้ายกัน จุดนี้จึงถูกจับจ้องว่า ปฏิกิริยาของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวที่มีต่อนายธนาธร และ พล.อ.ประยุทธ์ จะแตกต่างกันอย่างไร 

        แน่นอนว่า หากมีใครสักคนถูกประชาชนแสดงสัญลักษณ์ต่อต้าน ย่อมกลายเป็นประเด็นตามหน้าสื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

        สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์นั้น ก่อนหน้านี้ได้กำชับนายสาธิตระหว่างการประชุม ครม.เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า อย่าให้มีม็อบ หรือหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็อย่าให้ม็อบมาประชิดตนเอง เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า หรือปะทะ อันจะกลายเป็นประเด็นต่อไปไม่รู้จบ

        จะเห็นว่า ในกำหนดการของ “บิ๊กตู่” ในครั้งนี้มีการอัดภารกิจที่ค่อนข้างแน่น โดยในช่วงบ่ายวันจันทร์ จะตรวจเยี่ยมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมการขนส่ง อย่างโครงการมอเตอร์เวย์ ช่วงพัทยา-มาบตาพุด จากนั้นจะตรวจเยี่ยมศูนย์ EOC หรือศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เพื่อรองรับ Travel Bubble ในอนาคต หลังจากนั้นเยี่ยมชมตลาดเทศบาลบ้านเพ ตลาด 100 เสา ปิดท้ายช่วงเย็นด้วยการเยี่ยมชมวิถีกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านหาดสวนสน 

        ส่วนในวันอังคารที่ 25 ส.ค. เวลา 07.30 น. จะเปิดโอกาสให้มีการแสดงผลงานนวัตกรรมอีอีซี และเป็นสักขีพยานการมอบเอกสารที่ดินทำกิน และจะเป็นการประชุมกลุ่มพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออก และจะเริ่มประชุม ครม. ในเวลา 10.30 น. 

        หลังประชุม ครม.เสร็จ “บิ๊กตู่” ยังไม่กลับ กทม. ในช่วงบ่ายจะเดินทางไป จ.จันทบุรี เพื่อเยี่ยมโครงการนำร่องการผลิตแบริเออร์และถนนหุ้มด้วยยางพารา

        ทั้งนี้ การเดินทางไปครั้งนี้จะยังไม่มีเวทีรับฟังนักศึกษาในพื้นที่ โดย นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลว่าเนื่องจากภารกิจแน่น 

        แต่ข้อเท็จจริงในสถานการณ์แบบนี้น่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงการปะทะมากกว่า 

        การประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ จะมีหลายอย่างแปลกตาไปจากครั้งก่อน ที่มักจะเห็น “บิ๊กตู่” อารมณ์ดีระหว่างพบปะชาวบ้านในต่างจังหวัด หรือเล่นมุก หยอดมุก แต่ครั้งนี้อาจจะดูตึงๆ ขึ้นสักหน่อย

        รวมไปถึงวาระการประชุม โครงการต่างๆ ที่ ครม.จะอนุมัติ ซึ่งมักจะได้รับความสนใจทุกครั้ง แต่ครั้งนี้อาจจะโฟกัสไปที่การลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจ และปฏิกิริยาของประชาชนที่มีต่อ “บิ๊กตู่” มากกว่า.