ตำรวจออกหมายเรียกรุ่นพี่ลงโทษน้องมิ้นท์ นศ.ราชภัฏภูเก็ตให้วิ่งรอบสนามจนช็อกเสียชีวิต แจ้งข้อหาทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนอีก 3 คนถูกกันเป็นพยาน อ้างไม่ได้ร่วมวง
    เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีมีการรับน้องในมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต รุ่นพี่สั่งลงโทษวิ่ง ต่อมารุ่นน้องเกิดอาการช็อกเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับรายงานเพิ่มเติมจาก สภ.เมืองภูเก็ต ว่าพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ทำการสอบสวนปากคำพยานผู้ที่เกี่ยวข้องไปเเล้วกว่า 10 ปาก อยู่ระหว่างรอรายงานชันสูตรผลิกศพจากเเพทย์ เบื้องต้นพบว่ามีผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นนักศึกษารุ่นพี่ จำนวน 4 ราย โดยในขั้นตอนต่อไป พนักงานสอบสวนจะมีหมายเรียกไปยังผู้กระทำความผิดเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา และหากการสอบสวนเพิ่มเติม พบว่ามีผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม ก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
    รองโฆษก ตร.กล่าวว่า คดีดังกล่าวในชั้นนี้ยังไม่มีการเเจ้งข้อหากับผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งพนักงานสอบสวนยังคงรอผลการตรวจพิสูจน์ที่เกี่ยวข้อง ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เจ้าหน้าที่จะเร่งคลี่คลายข้อสงสัยให้สิ้นกระแสความในทุกประเด็นตามกรอบระยะเวลาของกฎหมาย โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานที่เชื่อมโยงทางคดีเป็นสำคัญ 
    กรณีดังกล่าวเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.พรพิพัฒน์ เอียดดำ หรือน้องมิ้นท์ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ถูกรุ่นพี่สั่งลงโทษโดยการวิ่งแล้วเกิดอาการช็อกวูบส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิต 
    พ.ต.อ.ธีระวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยว่า คดีมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก มีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก ซึ่งให้การว่าในวันเกิดเหตุ 19 ส.ค. ได้มีการซ้อมเชียร์ลีดเดอร์กันตั้งแต่ช่วงเย็น โดยมีรุ่นพี่ที่คุมการซ้อม 4 คน และหนึ่งในนั้นเป็นหัวหน้ากลุ่มของการฝึกซ้อม ในระหว่างทำการฝึกซ้อมได้มีข้อตกลงร่วมกันว่า หากทำไม่พร้อมกันจะต้องไปวิ่ง และหลังจากฝึกซ้อมเสร็จทั้งหมดได้ไปวิ่งตามข้อตกลง บริเวณลานจอดรถหน้าอาคารเทคโนโลยีอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ข้างขุมน้ำ และเมื่อวิ่งไปได้ประมาณ 6 รอบเศษๆ นักศึกษาที่เสียชีวิตก็ล้มลง จากนั้นได้มีการนำตัวส่งโรงพยาบาลก่อนที่จะเสียชีวิตในวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนรุ่นพี่ที่เหลืออีก 3 คน บอกว่าช่วงที่เกิดเหตุเขาทำกิจกรรมอยู่ด้านบนอาคาร และไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว
    พ.ต.อ.ธีระวัฒน์ระบุว่า เบื้องต้นความผิดที่ชัดเจนน่าจะเป็นการกระทำโดยประมาทของรุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าควบคุมการฝึกซ้อม ซึ่งขณะนี้ได้มีการออกหมายเรียกไปแล้ว ตามพยานหลักฐานที่มีในเบื้องต้น โดยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้ประสานทางโทรศัพท์ยังผู้ปกครองของนักศึกษาคนดังกล่าวแล้ว เพื่อให้นำตัวนักศึกษามาพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนรุ่นพี่อีก 3 คน ซึ่งยืนยันว่าในช่วงที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้มีการกันไว้เป็นพยาน.