พ่อค้าแม่ค้าแผงลอยได้ลุ้น!ศาลปกครองสูงสุดนัดพิจารณาคดีครั้งแรกห้ามขายบนทางเท้า


เพิ่มเพื่อน    

23 ส.ค.63- สำนักงานศาลปกครองขอแจ้งกำหนดนัดพิจารณาคดีที่น่าสนใจของศาลปกครอง ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2563  ดังนี้ วันที่ 25 สิงหาคม 2563 เวลา 14.00 น. ศาลปกครองสูงสุดนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีหมายเลขดำที่ อร.5/2561 ระหว่าง นายปพนวัจน์ ภูเสาวพงศ์ ที่ 1 กับพวกรวม 128 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า กรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 2 คน ออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง ยกเลิกจุดผ่อนผันให้ทำการค้าหาบเร่-แผงลอย ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดจุดผ่อนผันให้ทำการค้าหาบเร่ - แผงลอย ลว. 31 พ.ค. 2548 (เฉพาะจุด) ในพื้นที่เขตราชเทวี จำนวน 12 จุด ลว. 27 เม.ย. 2559 โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ทำการค้าบนทางเท้าบริเวณจุดผ่อนผันดังกล่าวขาดรายได้ จึงฟ้องขอให้เพิกถอนประกาศกรุงเทพมหานครที่พิพาทดังกล่าว และขอให้มีการประชุมร่วมกันทุกฝ่ายเพื่อให้ผู้ค้าสามารถค้าขายในพื้นที่เดิมต่อไปได้)

คดีนี้ ศาลปกครองชั้นต้น มีคำพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โดยปกติ ทางเดินเท้าสาธารณะมีวัตถุประสงค์ของการใช้เพื่อประโยชน์สาหรับการสัญจร และกรุงเทพมหานคร มีนโยบายที่จะจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่ - แผงลอย เพื่อคืนทางเท้าให้แก่ประชาชน ซึ่งกรุงเทพมหานครได้จัดให้มีการประชุมชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพปัญหาด้านความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของจุดผ่อนผันย่านประตูน้ำ บริเวณถนนราชปรารภและถนนเพชรบุรี และข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งหนึ่งร้อยยี่สิบแปดและผู้ค้ารายอื่นทราบ

โดยหลังจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้ออกประกาศกรุงเทพมหานครที่พิพาทแล้ว ยังผ่อนปรนโดยให้ผู้ฟ้องคดีทั้งหนึ่งร้อยยี่สิบแปดสามารถค้าขายต่อไปได้จนถึงวันที่ 5 ก.ย. 2559 และผ่อนผันต่อไปอีกจนถึงวันที่ 3 ต.ค. 2559 ซึ่งจะเห็นได้ว่านโยบายและแผนปฏิบัติการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่ - แผงลอย เพื่อคืนทางเท้าให้แก่ประชาชนของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 การดำเนินการดังกล่าว จึงเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ เมื่อเทียบกับความเดือดร้อนที่ผู้ฟ้องคดีทั้งหนึ่งร้อยยี่สิบแปดได้รับผลกระทบจากการถูกยกเลิกจุดผ่อนผันให้ทาการค้าหาบเร่ - แผงลอย ในบริเวณพิพาทแล้ว การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ครั้งนี้ถือเป็นคำสั่ง ทางปกครองทั่วไปที่โดยสภาพแล้วมิได้มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่บุคคลใดในจำนวนผู้ฟ้องคดีทั้งหนึ่งร้อย ยี่สิบแปดเป็นการเฉพาะเพียงแต่ระบุพื้นที่ที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับไว้ 

โดยเฉพาะเจาะจงว่าเป็นบริเวณพิพาทที่เคยถูกกำหนดเป็นจุดผ่อนผันให้ทำการค้าหาบเร่ - แผงลอย มาก่อนเท่านั้น กฎหมายจึงมิได้บัญญัติให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองต้องแจ้งผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศยกเลิกจุดผ่อนผันได้มีโอกาสทราบข้อเท็จจริงและโต้แย้งคัดค้านหรือชี้แจงแสดงเหตุผลก่อนการประกาศยกเลิกจุดผ่อนผันแต่อย่างใด ดังนั้น การใช้ดุลพินิจในการยกเลิกจุดผ่อนผันให้ทำการค้าหาบเร่ - แผงลอย บริเวณพิพาทซึ่งตนเองเป็น ผู้กำหนดไว้เดิม จึงชอบด้วยกฎหมายและเป็นไปตาม ม. 49 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 แล้ว ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง ยกเลิกจุดผ่อนผันให้ทำการค้าหาบเร่ - แผงลอย ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดจุดผ่อนผันให้ทำการค้าหาบเร่ - แผงลอย ลว. 31 พ.ค. 2548 (เฉพาะจุด) ในพื้นที่เขตราชเทวี ลว. 27 เม.ย. 2559 ซึ่งเป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ จึงชอบด้วยกฎหมาย พิพากษายกฟ้อง ผู้ฟ้องคดีทั้งหนึ่งร้อยยี่สิบแปด ยื่นอุทธรณ์สรุปความได้ว่า พื้นที่ตามพิพาทที่ถูกยกเลิกเป็นจุดผ่อนผันให้ทำการค้าหาบเร่-แผงลอย มีทางเดินสัญจรที่กว้างมากและไม่มีการวางวัสดุอุปกรณ์ค้าขายกีดขวางทางเท้าและทางจราจร ดังนั้นการมีประกาศพิพาทยกเลิกจุดผ่อนผันดังกล่าว จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย).
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"