23ส.ค.63-นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา (รมว.อว.) กล่าวภายหลังการมอบนโยบายแก่ที่ประชุมสามัญที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) และสมาคมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงความห่วงใยสถานการณ์บ้านเมืองเกี่ยวกับนักเรียน นิสิต นักศึกษา มากับตนหลายครั้ง เนื่องจาก อว.เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล ที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนวัย 18-22 ปี ตนฝากให้อธิการบดี ติดตามดูแลประคับประคองอย่าให้อะไรที่ไม่ควรเกิดเกิดขึ้น 
สำหรับเรื่องข้อเรียกร้องของนิสิตนักศึกษาเยาวชน กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แห่งรมชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 (รธน.) นั้น ขณะนี้พรรคคร่วมรัฐบาลยังไม่ได้มีการหารืออย่างเป็นทางการ แต่จากการติดตามความเห็นของพรรคต่างๆ พบว่า ทุกพรรค มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ การจัดตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยจะมีการให้สัดส่วนนักศึกษาเข้าร่วมด้วย ซึ่งคาดว่าจะไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้จากขั้นตอนการดำเนินการเรื่องนี้ จะต้องมีการปรับแก้ รัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ จากนั้นจะดำเนินการลงประชามติ เมื่อ รธน.ใหม่ผ่านการเห็นชอบ จึงจะนำไปสู่การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ทั้งนี้หากดำเนินการยุบสภาก่อนก็จะไม่สามารถแก้ไข้ รธน.ตามที่กลุ่มนักศึกษามีข้อเรียกร้องได้

นายเอนก กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตนไม่ได้มีข้อห่วงใย เรื่องการจัดการชุมชนของกลุ่มนักศึกษา แต่ที่เป็นห่วง คือ ปัญหาการคุกคามและการบูลลี่ ระหว่างผู้เข้าร่วมและไม่เข้าร่วมชุมนุม แต่ตนได้กำชับว่าอย่าให้เกิดความรุนแรงขึ้น อย่าให้มีการกระทำอะไรที่คุกคามกัน หรืออย่าบูลลี่กัน อีกทั้งอยากเสนอแนะให้มีการรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย ซึ่งส่วนตัวตนเห็นว่าเป็นลักษณะปกติของประเทศไทย ที่การเมืองขยับด้วยมหาวิทยาลัย คนรุ่นใหม่ที่เข้ามาเรียน ทำให้เกิดความคิด และรัฐบาลจะต้องรับฟังความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 27 ส.ค.ตนได้มีการเชิญตัวแทนเยาวชน จากกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฎและมหาวิทยาลัยเทคโนโยลีราชมงคล ที่สนใจสังคม วิชาชีพ สนใจว่าตนเองจะว่างงานหรือไม่เมื่อจบการศึกษา ให้มาดูนวัตกรรมต่างๆ ของ อว. ที่สถาบันนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อเป็นการให้เด็กได้ศึกษางานวิจัยและนวัตกรรมต่างๆ ของประเทศ และสำหรับผู้นำกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ขณะนี้ หากมีความต้องการที่จะหารือร่วมกับตน ตนก็ยินดีที่จะพูดคุย

“ผมขอให้อธิการบดีทุกมหาวิทยาลัยสนใจนิสิต นักศึกษาในฐานะที่เป็นเยาวชน คนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์และการรับรู้ที่แตกต่างจากคนในยุคก่อน อย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต นักศึกษาเท่านั้น อธิการบดีควรจะถือเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญของมหาวิทยาลัย และจะต้องเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นไม้หลัก ที่ปักบนดินที่แน่นหนา ไม่ใช่ไม้หลักปักขี้เลน อย่าคล้อยตามกระแส จนไม่กล้าพูดอะไร อย่ากลัวเสียความนิยมจนไม่กล้าพูดอะไร น่าจะต้องพูดว่าเราจงรักภักดี เพราะหากไม่พูดเลยก็จะคิดว่ารัฐบาลปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่งหลักการโดยทั่วไปได้ปิดกั้น หรือห้ามไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล รัฐมนตรี สามารถวิพากษ์วิจารณ์และนำเสนอความคิดเห็นได้ แต่ผมห่วงการกระทำที่หมิ่นเหม่ กฎหมาย หรือ รธน. อย่าให้มีการจาบจวง ก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือมีข้อเสนอให้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ผู้บริหารควรทำให้นักศึกษาทุกกลุ่มได้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์”รมว.อว.กล่าว