23 ส.ค.63-นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ว่า พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค ที่ประกาศไว้ตั้งแต่วันก่อตั้งพรรค วันที่ 6 เม.ย.2489 ข้อ4 ระบุว่า “พรรคจะไม่สนับสนุนระบบ และวิธีการแห่งเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นระบบและวิธีการของรัฐบาลใดๆ” จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ได้กำหนดท่าทีต่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้ 

คือ 1.ประกาศไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะก่อปัญหาความขัดแย้งในสังคม ตอนทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ 2.ประกาศเป็นเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย โดยเร่งด่วน 3.พรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นญัตติศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากรัฐบาลบริหารประเทศได้ครบหนึ่งปีแล้วตามสัญญา 4.พรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศแก้ไขมาตรา 256 และมาตราอื่นๆ ที่สามารถทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ส่วนมีการกล่าวอ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ผ่านการลงมติ 16ล้านเสียงมาแล้วนั้น อยากจะเรียนให้ทราบว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ก็ต้องมีการทำประชามติสอบถามความเห็นจากประชาชน ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับนี้เช่นกัน ไม่ได้เสนอแก้ไขโดยอำเภอใจของพรรคการเมืองต่างๆตามที่กล่าวหากัน 

สำหรับการทำประชามติรัฐธรรมนูญ ปี2560 ที่ผ่านประชามติมาได้ ด้วยเหตุผล 1.จัดทำขึ้นท่ามกลางการบริหารของรัฐบาลเผด็จการ คสช. มีการใช้กลไกอำนาจรัฐเต็มที่ 2.มีการจับกุม ปิดกั้น ขัดขวาง การรณรงค์ของผู้เห็นต่างกับรัฐธรรมนูญ 3.มีการทำประชามติภายใต้การใช้มาตรา 44 ของรัฐบาล 4.ประชาชนส่วนใหญ่ต้องให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว จึงจำใจยอมรับประชามติรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปก่อน 

"ดังนั้นเมื่อมีการใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านมาเป็นเวลา3ปี พบจุดบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับนี้มากมาย เป็นกับดักของประเทศ และสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคม จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขโดยด่วนที่สุด เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายไปสู่ภาวะวิกฤตของบ้านเมือง ที่กำลังเกิดเฟลชม็อบหรือการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน เกิดขึ้นรายวันเป็นดอกเห็ด ทั่วในทุกภูมิภาค ถ้าฝ่ายการเมือง ทั้งรัฐบาล และพรรคการเมืองทุกพรรคไม่จับมือกันเพื่อแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด บ้านเมืองก็จะเจอปัญหาวิกฤติทางการเมืองอย่างแน่นอน"