เยาวชนและคนที่ชื่นชมการออกมาชุมนุมของเยาวชน ตลอดจนนักเรียนผูกโบขาวและชู 3 นิ้วหลังเคารพธงชาติ เขาเรียกร้องผู้ใหญ่ให้ฟังความคิดเห็นและข้อเรียกร้องของเขาที่พวกเขาบอกว่าพวกเขาคิดได้เอง เขาไม่ได้ถูกใครหลอกหรือครอบงำ ก็เป็นเรื่องที่ดีนะ พวกเราน่าจะฟังพวกเขาดูบ้าง เพราะคนที่ชื่นชมและสนับสนุนเขาพูดชัดเจนว่าพวกเขามีวุฒิภาวะ เป็นผู้ใหญ่ แสดงความคิดเห็นอย่างกล้าหาญ พวกเยาวชนเขาก็ยืนยันว่าเขาไม่ได้ถูกหลอก ดูเหมือนเวลานี้พวกเขามี Google เป็นครู เมื่อเปิดหาข้อมูลใน Google พวกเขาจะรู้อะไรทั้งหมดแบบรู้แจ้งเห็นจริง ผู้ใหญ่ไดโนเสาร์ทั้งหลาย (ในสายตาของพวกเขา) น่าจะใช้ Google ไม่เป็น ไม่มีปัญญาเสาะหาข้อมูล ดังนั้นคงไม่มีปัญญาจะมาสอนมาบอกอะไรเขาได้ ดังนั้นอย่าหวังให้พวกเขาฟังไดโนเสาร์ที่เยาวชนบางคนบอกว่าไม่มีสิทธิ์มากำหนดอนาคตของพวกเขาในภายภาคหน้า พวกเขาจะมีอนาคตเช่นไร ผู้ใหญ่ควรจะให้พวกเขาได้วางอนาคตของตนเอง ผู้ใหญ่ไม่ต้องยุ่ง
     ก็ อยากจะบอกเด็กๆ ว่า Google หรือข้อมูลจาก Platforms อื่นๆ Online นั้น อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการเตรียมพวกเขาให้มีความรู้ ทักษะ จิตสำนึก และค่านิยมในการที่พวกเขาจะต้องประกอบอาชีพทำมาหากินข้างหน้า พวกเขายังต้องการครูที่มีความรู้ มีประสบการณ์ในการพัฒนาความสามารถและจิตวิญญาณของพวกเขาให้มีความพร้อม ที่สำคัญคนเป็นครูส่วนใหญ่ ทำงานในการพัฒนาลูกศิษย์ด้วยความรัก ห่วงใย อาทรและหวังดี การที่ครูพยายามชี้แจงให้เข้าใจว่าการกระทำบางอย่างของพวกเขาไม่ค่อยเหมาะสม เพราะมันไม่ใช่การเรียกร้องเสรีภาพ หรือการแสวงหาประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะครูเขาเข้าใจดีว่ามีนักการเมืองกำลังเหยียบบ่าเหยียบไหล่พวกเขาเป็นบันไดทำลายสถาบันหลักของประเทศ ครูเขาพูดด้วยลีลาที่สุภาพด้วยความรักและห่วงใย เกรงว่าพวกเขาจะพลาดทำผิดกฎหมายแล้วเดือดร้อน พวกเขาบางคนกลับชี้หน้าเถียงครูด้วยท่าทีที่ก้าวร้าว ขาดสัมมาคารวะ เพราะพวกเขาคิดว่าเขาจ่ายค่าเล่าเรียนในการมาเรียน ไม่ได้เรียนฟรี ดังนั้นเขาไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณหรือติดค้างอะไรครูที่สอนพวกเขา และเขาก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องเรียนกับครูก็ได้ เขาเรียนจาก Google ก็ได้
     เอาละ เมื่อพวกเขาอยากจะพูดให้ผู้ใหญ่ฟัง เราก็อยากจะฟัง โดยจะขอตั้งคำถามเพื่อให้พวกเขาได้แสดงความคิดเห็นเป็นคำตอบ อยากจะฟังอย่างละเอียด และจะขอตั้งใจฟังทุกถ้อยคำที่พวกเขาตอบด้วยใจอันบริสุทธิ์ โดยไม่มีนักการเมืองคนใด พรรคใด กลุ่มใดเป็นผู้ชี้นำคำตอบ เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็จะไม่ใช่คำตอบจากความบริสุทธิ์ของนิสิตนักศึกษาและนักเรียนทั้งหลาย ที่กำลังออกมาเรียกหาประชาธิปไตย ที่ในความรู้สึกของคนแก่อย่างไร ไม่ได้หายไปไหน ทำไมจึงต้องออกมาตามหา และที่อยากรู้มากไปกว่านั้นก็คือ พวกเขาถูกคุกคามอย่างไร เพราะในฐานะผู้ใหญ่ที่ห่วงใยลูกหลาน ก็ไม่อยากให้พวกเขาถูกคุกคาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถูกคุกคามโดยรัฐบาล ตอนนี้บอกตรงๆ ยังไม่รู้ว่าพวกเขาถูกคุกคามอย่างไร ถ้าคิดจะช่วยก็คงช่วยไม่ถูก ตอนนี้เห็นแต่เยาวชนบางคนที่ทำผิดกฎหมาย โดนหมายจับ และตำรวจก็เชิญไปโรงพัก เพื่อไปให้การ แบบนี้หรือเปล่าที่พวกเขาเรียกว่าเป็นการถูกคุกคาม ก็อยากรู้นิยามคำว่าคุกคาม และอยากจะรู้ว่ามีการคุกคามที่เป็นรูปธรรมอย่างไรบ้าง ถ้าจำเป็นจะต้องช่วยลูกหลานไม่ให้ถูกคุกคามจะได้หาทางช่วยได้ถูกต้อง เวลานี้ได้ยินแต่ข้อความว่า “ถูกคุกคาม” แต่ไม่เคยได้รู้ได้เห็น จึงต้องรอฟังจากพวกเขา
เห็นพวกเขาบอกว่ารัฐบาลนี้เป็น “เผด็จการ” ก็อยากจะฟังจากปากของพวกเขาว่ารัฐบาลนี้เป็นเผด็จการอย่างไร คนแก่ๆ อย่างเรารู้แต่ว่ารัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งในรัฐสภา คนแก่อย่างเราก็เลยคิดว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย แต่เด็กๆ เขาบอกว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการ เราก็อยากฟังพวกเขาพูดนะว่ารัฐบาลนี้เผด็จการอย่างไร อยากให้พวกเขาอธิบายความหมายของคำ พร้อมยกตัวอย่างการกระทำของการเป็นเผด็จการอย่างเป็นรูปธรรมให้ชัดเจนสักหน่อย บางทีคนแก่อย่างเราอาจจะตาสว่างเลิกหลงผิดว่ารัฐบาลนี้เป็นประชาธิปไตย ช่วยกันหน่อยนะคะ พ่อแม่ลองถามลูก ครูลองถามศิษย์ นายลองถามลูกน้อง สื่อมวลชน (ที่ขยันถามนักการเมืองที่แก่แล้ว) ลองหันมาถามเอาคำตอบจากเยาวชนดูบ้างก็ดีนะ ให้โอกาสพวกเขา ให้ได้พูดให้คนแก่ฟัง เพราะพวกเขาเรียกร้องกันเหลือเกิน ตามใจให้เขาได้พูด แล้วไดโนเสาร์ทั้งหลายก็จงตั้งใจฟังอย่างคนใจกว้างนะ ถ้าจะแย้งพวกเขาก็สุภาพหน่อยนะ เสียงต้องราบเรียบ อย่าขึ้นเสียง เก็บนิ้วด้วยนะ อย่าไปชี้หน้าพวกเขาล่ะ การชี้หน้าคนอื่นเวลาพูดผิดหลักการสมบัติผู้ดีนะคะ
     อีกเรื่องหนึ่งที่เห็นน้องๆ เขาเรียกร้องเหลือเกิน คือการให้แก้รัฐธรรมนูญ คนแก่อย่างไรพอจะได้ศึกษารัฐธรรมนูญมาบ้าง ก็เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงที่น่าจะแก้ปัญหาความประพฤติของนักการเมืองเลวๆได้เป็นอย่างดี ก็เลยลงคะแนนรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่รู้เราคิดผิดหรือเปล่า คงต้องให้น้องๆ ที่มีวุฒิภาวะและมีความกล้าหาญที่จะพูดความจริงอันกระอักกระอ่วนชี้แจงให้ฟังสักหน่อยว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มีประเด็นใดที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนจนต้องมีการแก้ไข และน้องๆ ต้องการให้แก้ไขมาตราใด เพราะอะไร ไม่รู้ว่าพวกเขารู้หรือเปล่าว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคเขาต้องการแก้ทั้งฉบับรวมทั้งหมวดที่ 1 และหมวด 2 น้องๆ เขารู้หรือเปล่านะว่าทั้ง 2 หมวดนี้มีเนื้อหาว่าอะไร ถ้าหากเขาบอกว่าพวกเขารู้ เราคนแก่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าน้องๆ เขายังอยากจะให้แก้ตามที่พรรคการเมืองพรรคหนึ่งเขาเสนอกล่าวไว้ว่าอย่างไร เวลานี้เราได้ยินว่าการชุมนุมของพวกเขานั้นเป็นการออกมาปลดแอก เขาจึงตั้งชื่อการชุมนุมของพวกเขาว่า “เยาวชนปลดแอก” ก็อยากจะฟังจากพวกเขาเหมือนกันว่าอะไรคือแอกที่พวกเขาต้องการปลด และอยากรู้ให้ชัดๆ ว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์เป็นคนเอาแอกไปใส่หลังเขาหรือไร ถ้าเป็นเช่นนั้น จะได้ช่วยพวกเขาไล่พลเอกประยุทธ์ออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยความรักและห่วงใยเด็กๆ ใครจะยอมให้เยาวชนที่น่ารัก น่าเอ็นดู น่าห่วงใยของพวกเราต้องรับภาระแบกแอกไว้ได้ อยากให้เด็กๆ พูดให้ชัดๆ เราจะตั้งใจฟังว่าเขาแบกแอกอะไรอยู่ และแอกนั้นทำให้ชีวิตเขาลำบากยากเย็นอย่างไร และพูดให้ชัดๆ ว่ารัฐบาลนี้เป็นคนสร้างแอก อยากรู้จริงๆ ค่ะ ตอบชัดๆ นะคะ.