นาฬิกายิ่งโผล่คดี "ป้อมโรเล็กซ์" ยิ่งส่อลากยาว ประธาน ป.ป.ช.เผยต้องใช้เวลามากในการขอข้อมูลตรวจสอบ เห็นด้วยแก้ไขกฎหมายให้เจ้าหน้าที่รัฐรับของขวัญมูลค่าเกิน 3 พันบาท อ้างเป็นธรรมเนียม ยกเทศกาลคริสต์มาสต่างประเทศยังมีให้เป็นสินน้ำใจ
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ถึงการตรวจสอบที่มาของนาฬิกาและแหวนเพชรของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมว่า เลขาธิการ ป.ป.ช.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินจะดำเนินการตรวจสอบตามปกติ ส่วนจำนวนนาฬิกาที่นำเสนอในโลกโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั้น ป.ป.ช.อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นในการขอข้อมูลมาตรวจสอบ ระยะเวลาการตรวจสอบคงขึ้นอยู่กับเอกสารและข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.อยากกำหนดกรอบเวลาทำงานที่ชัดเจน แต่เมื่อดำเนินการอะไรไปแล้วข้อมูลยังไม่ครบถ้วน การที่เลขาธิการ ป.ป.ช.และคณะจะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.วินิจฉัยจึงอาจจะต้องขยายออกไป
"เลขาธิการ ป.ป.ช.ทราบดีว่าเรื่องนี้ประชาชนให้ความสนใจ จะทำอย่างไรเมื่อเสนอเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วจะมีความครบถ้วน ถ้าเสนอมาแล้วกรรมการ ป.ป.ช.มีคำถาม ซึ่งจำเป็นต้องไปแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมก็ต้องทำ ที่สุดแล้วคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต้องรับผิดชอบกับการที่จะต้องตอบสังคม ไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้กำชับหรือมอบนโยบายแก่เลขาธิการ ป.ป.ช.ในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลตอบว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พูดกันว่าเรื่องนี้สังคมสนใจ จะต้องทำให้ชัดเจนและโปร่งใสตามพยานหลักฐาน ส่วนตัวไม่หนักใจ เพราะเมื่อพิจารณาอะไรจะเป็นมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. 9 คน โดยต้องเป็นเสียงข้างมากของที่ประชุม ดังนั้นใครคนใดคนหนึ่งจะไม่มีอิทธิพลต่อมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรรมการทุกคนต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่จะออกมา จึงไม่หนักใจอะไร
เมื่อถามถึงการเรียกเอกชน 4 รายมาให้ข้อมูลเรื่องนาฬิกาหรูในสัปดาห์นี้ พล.ต.อ.วัชรพลแจงว่า จะเรียกมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ พยานที่เชิญมาให้ปากคำย่อมผูกพันตามกฎหมายในการให้ข้อมูลข้อเท็จจริง
ถามว่าได้พูดคุยปรับทุกข์กับ พล.อ.ประวิตรในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ประธาน ป.ป.ช.ปฏิเสธว่าไม่มี ทำไมต้องปรับทุกข์ "ท่านก็ทำหน้าที่ของท่าน ผมก็ทำหน้าที่ของผม ท่านไม่มาถามผมแน่ ไม่ต้องห่วง"
พล.ต.อ.วัชรพลยังกล่าวถึงแนวคิดแก้ไขประกาศ ป.ป.ช.เพื่อเพิ่มมูลค่าให้หรือรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดของเจ้าหน้าที่รัฐจากเดิม 3,000 บาทว่า ประกาศดังกล่าวบังคับใช้มานาน จนวันนี้อะไรๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงไป หากต้องพิจารณาแก้ไขจริงจัง ป.ป.ช.ต้องดูความเหมาะสมและต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา โดยมีผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา แต่เรื่องนี้คงไม่สามารถพิจารณาแก้ไขได้ทันทีเนื่องจากมีผลกระทบหลายด้าน ต้องดูว่าสังคมคิดอย่างไร
"การมอบของขวัญในช่วงเทศกาลสำคัญเป็นขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นวัฒนธรรมการเอื้ออารี เพราะมันเป็นสิ่งที่ดี ในต่างประเทศอย่างในช่วงเทศกาลคริสต์มาสอาจจะมีการให้ของขวัญกันบ้างเป็นสินน้ำใจ ดังนั้นเรื่องการแก้ไขระเบียบคงไม่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น ต้องพิจารณาในหลายมิติ" พล.ต.อ.วัชรพลกล่าว
ด้าน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตามกฎหมาย ถ้าเขาอยากทำอะไรก็ให้เขาทำไป ส่วนที่โซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์นั้น ก็คิดว่าเป็นเรื่องของโซเชียลมีเดีย จะไปฟังทำไม แล้วเอามาถามได้อย่างไร
เมื่อถามว่าหาก ป.ป.ช.สอบถามมาพร้อมที่จะชี้แจงนาฬิกาทุกเรือนใช่หรือไม่ รองนายกฯ ปฏิเสธว่า "ผมไม่รู้" ถามย้ำว่าส่งหนังสือชี้แจงต่อ ป.ป.ช.รอบสองแล้วหรือยัง ก็ยังคงได้คำตอบเพียงว่า "ไม่รู้" ก่อนที่จะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้เสนอเพียงแต่เป็นการพูดคุยกับผู้สื่อข่าวระหว่างรับประทานอาหาร ซึ่งตนบอกว่าอัตราไม่เกิน 3,000 บาทเป็นบัญญัติในกฎหมายเมื่อปี 2542 ถ้าจะไปปรับเสียใหม่ก็สมควร แต่ดูเหมือนว่าเสียงส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยก็ไม่ว่ากัน แต่อยากเตือนว่ากฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 103 ข้าราชการรับไม่ได้แม้แต่บาทเดียว เช่นทิปหรือเงินทอน ไปเสียอะไรก็ตามมีค่าธรรมเนียม 100 บาท จ่ายด้วยเงิน 500 บาทแล้วบอกไม่ทอนก็ไม่ได้ เว้นแต่เป็นการรับโดยธรรมจรรยา ซึ่งอยู่ในประกาศ ป.ป.ช.ที่ให้รับได้ใน 3 เงื่อนไข คือ 1.ถ้าเป็นการรับจากญาติจะไม่กำหนดวงเงิน 2.ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ โดยธรรมจรรยาเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ ไม่เกิน 3,000 บาท 3.การให้โดยธรรมจรรยากับบุคคลทั่วไปที่ไม่จำเพาะเจาะจง จะเกิน 3,000 บาทหรือไม่เกินก็ไม่เกี่ยว
"เขาไม่ได้ห้ามคนให้ นายกฯ จะซื้อลูกสุนัขแจกใคร เขาไม่ได้ห้าม แต่เขาห้ามคนรับ ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ใช่เฉพาะนักการเมือง หมายรวมตั้งแต่เจ้าหน้าที่ภารโรง ธุรการ ไปจนถึงพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงเอกชนที่ไปเป็นบอร์ดของรัฐก็อยู่ในข่ายห้ามรับเกิน 3,000 บาททั้งสิ้น ผมไม่ได้เป็นคนเสนอแก้ ผมบอกไปแล้วว่ารัฐบาลไปเสนอแก้ไม่ได้ เป็นเรื่องของ ป.ป.ช." นายวิษณุกล่าว
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 78 ประกอบมาตรา 79 ให้อายัดนาฬิกาและแหวนเพชรที่อยู่ในความครอบครองของ พล.อ.ประวิตรมาตรวจสอบว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเรืองไกรได้นำภาพถ่ายสมัยเก่า 2 ภาพช่วงที่ พล.อ.ประวิตรดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกมาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยในภาพดังกล่าว พล.อ.ประวิตรสวมนาฬิกาที่ยังไม่ถูกสื่อมวลชนนำมาเผยแพร่ ทั้งนี้ในภาพดังกล่าวมี พล.อ.ประยุทธ์ปรากฏอยู่ในภาพด้วย โดยจะนำทั้ง 2 ภาพนี้ไปประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ด้วย
นายเรืองไกรกล่าวว่า ตนขอให้ ป.ป.ช.ทำหนังสือไปยัง พล.อ.ประวิตรเพื่อขอให้นำส่งนาฬิการาคาแพง แหวนเพชร และทรัพย์สินอื่นๆ ที่อยู่ในความครอบครองมาส่งมอบให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบ หากมีข้อขัดข้องขอให้ ป.ป.ช.ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพื่อยึดหรืออายัดนาฬิกาและแหวนเพชรดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะดำเนินการตรวจสอบต่อไปว่าทรัพย์สินนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |