สถานการณ์การเมืองค่อนข้างอ่อนไหว เตือนถึงม็อบนักเรียน นิสิตนักศึกษา ออกมาเคลื่อนไหวต้องยึดตามข้อเรียกร้อง 3 ประการ ประกอบด้วย หยุดคุกคามประชาชน แก้รัฐธรรมนูญ และยุบสภา โดยตั้งอยู่บน 2 หลักการที่ว่า จะต้องไม่มีการรัฐประหารและการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเท่านั้น

            กรุณาอย่านำประเด็นอื่นที่สังคมกระอักกระอ่วนใจเข้ามาชุมนุม ไม่เช่นนั้น 3 ข้อเรียกร้องจะไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะยืนระยะไม่ได้ อันเนื่องมาจากแนวร่วมอ่อนล้า จนทำให้จำนวนลดน้อยลงเรื่อยๆ

            เมื่อประเมินจากท่าทีของ ส.ส.ในฝ่ายรัฐบาลก็จะทราบว่าเล่นแผนยื้อเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้นานที่สุด

            โดยเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา วิปรัฐบาลเคลื่อนไหว แถลงข่าวมีมติแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่นอน แต่ไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 อีกทั้งให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และมาตราต่างๆ อยู่ระหว่างการพิจารณาจะแก้ไขหรือไม่!!!

            แถมยังพลิ้วด้วยว่า ส.ส.ร.ต้องดีไซน์รูปแบบอีกว่าจะอย่างไร โดยจะขอดูผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กมธ. “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ในฐานะรองประธาน กมธ.ศึกษารัฐธรรมนูญฯ คาดไว้ว่าจะนำเสนอรายงาน กมธ.ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ปลายเดือน ส.ค.นี้ และนำบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 ก.ย.

            หรือหมายความว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของฟากฝั่งรัฐบาลจะยื่นญัตติต่อนายชวน ในฐานะประธานรัฐสภา หลังวันที่ 9 ก.ย.ไปแล้ว

            ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลที่ออกมาแสดงท่าทีว่าจะยื่นในนามพรรคก็เป็นเพียงเกมช่วงชิงจังหวะการเมือง เอาใจมวลชนก็เท่านั้น แต่ความจริงไม่สามารถยื่นญัตติโดยพรรคใดพรรคหนึ่งเพียงลำพัง

            เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า การยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องอาศัยเสียง 1 ใน 5 ของสมาชิกที่มีอยู่ทั้งหมด หรือ 98 คน แต่ขณะนี้ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.ในสังกัดของตนเองไม่ถึง 98 เสียง ยกเว้นแต่ว่าจะต้องร่วมมือกับพรรคการเมืองต่างๆ

            ดังนั้น หากจะให้ซีกรัฐบาลเป็นผู้ริเริ่มการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนก็ตาม คงหมดหวัง

            เช่นเดียวกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจากพรรคก้าวไกลก็ยากเช่นกัน เพราะเจตนาชัดเจนต้องการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ไม่มีใครเล่นด้วย เพื่อนร่วมพรรคฝ่ายค้านกระโดดหนีกันหมด

            ทว่า ยังดีที่พรรคเพื่อไทยพร้อมด้วยเพื่อนๆ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยกเว้นพรรคก้าวไกล ได้เริ่มต้นแล้วโดยยื่นญัตติต่อ “ชวน” ไปเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา และดูเป็นร่างที่สามารถทำได้จริงภายใต้ข้อจำกัดจำนวนมากของรัฐธรรมนูญ

            “สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ระบุว่า “ถ้าเราเสนอไปแล้วตกตั้งแต่ยกแรกก็ไม่มีประโยชน์ ฉะนั้นเราเสนอรัฐธรรมนูญหวังผลให้แก้ได้จริง ซึ่งจะต้องปิดจุดเสี่ยง ซึ่งความเสี่ยงหนึ่งก็คือ ส.ว. และความเสี่ยงที่ 2 คือ ผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญปี 2555 ที่บอกว่าการตั้ง ส.ส.ร.ปลายเปิดหมายถึงการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งคือการล้มล้างรัฐธรรมนูญ ล้มล้างการปกครอง ซึ่งในเรื่องนี้ก็ดูเหมือน ส.ว.ตั้งป้อมไว้ว่าจะเล่นเรื่องนี้”

            อย่างไรก็ตาม ญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ประกอบด้วย ส.ส. และ ส.ว. ในวันที่ 1 ก.ย. ก็ต้องคอยจับตาปฏิกิริยาของ ส.ว. จะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยในประเด็นใด อย่างไรบ้าง

            ลำพังฝั่ง ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เห็นตรงกันว่าไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และตั้ง ส.ส.ร. แต่ที่มาของ ส.ส.ร.อาจแตกต่างกัน รวมทั้งความเห็นเกี่ยวกับ ส.ว.

            แต่ฟันธงเลยว่าญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านต้องแพ้โหวตในวาระที่หนึ่ง รับหลักการแน่นอน เพราะหากดูตามร่างแก้ไขที่พรรคเพื่อไทยเสนอ เป็นการเซ็นเช็คเปล่าให้ ส.ส.ร.ทำอะไรก็ได้กับ ส.ว.

            ฉะนั้น ส.ว.คงไม่ลงคะแนนเห็นด้วยให้กับญัตติของพรรคเพื่อไทยแน่นอน

            ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญกำหนดว่าในชั้นรับหลักการต้องไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา หรือ 375 เสียง และในจำนวนนี้ยังต้องมี ส.ว.เห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา หรือ 84 เสียง

            เท่ากับว่าในวันที่ 1 ส.ค. ประชุมร่วมรัฐสภา ต้องติดตาม ส.ว.ให้ดี นักเรียน นิสิตนักศึกษากำลังจ้อง และอย่าลืมคำประกาศบนเวทีของคณะประชาชนปลดแอกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ส.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ว่า “พวกเราขอยืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง 2 จุดยืน และ 1 ความฝัน หากภายในเดือน ก.ย.นี้ไม่มีการตอบสนองจากรัฐ โดยเฉพาะการทำให้ ส.ว.ทั้ง 250 คนพ้นไป ทางกลุ่มจะยกระดับการชุมนุมต่อไป”

                สรุป กันยา. ตุลา.นี้ ประชาชน “ปลดแอก” อาจสำแดงเดชอีกครั้ง.