ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ตั้งแต่นั่งแท่นประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แทนนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่พ้นจากความเป็น ส.ส. "สิระ เจนจาคะ" ก็มีงานชุกตลอด สบช่องสอบประเด็นใหญ่ๆ ที่สังคมสนใจอย่างคดีสั่งไม่ฟ้องบอส เรียกตัวเบ้งๆ ทั้งจากอัยการ ตำรวจ เรียงตัวเข้าชี้แจง รวมถึงกรณี ส.ส.ตบทรัพย์อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล 5 ล้านบาท แลกผ่านงบปี 64 ก็ไม่พลาด โอกาสดีๆ แบบนี้ก็เลยเปิดห้องให้สื่อเข้ารับฟังตลอดรายการ แค่นี้ยังฮือฮาไม่พอ วันก่อนเพิ่งเซ็นคำสั่งแต่งตั้ง "วัน อยู่บำรุง" ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพ่อเหลิม มาเป็นที่ปรึกษาประธาน กมธ. มีผลตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลในที่ประชุม กมธ.ว่า "เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ คิดว่าน่าจะเข้ามาช่วยงานของประธานและกรรมาธิการกฎหมายฯ ได้ คุณวันมาช่วยงาน เข้าใจว่าน่าจะตรงกับสไตล์เขา และคงชอบสไตล์การทำงานของกรรมาธิการชุดนี้’ แว่วมาว่า "ชัยยันต์ ผลสุวรรณ์" ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย กรรมาธิการที่สนิทสนมกับนายสิระเป็นป๋าดันให้นายวันได้นั่งเก้าอี้นี้ เรียกว่าตั้งกันข้ามฟากชนิดคนละขั้วกันเลย ทั้งที่นายวันก็เพิ่งโพสต์เฟซบุ๊กกระทุ้งให้บิ๊กตู่ลาออก แถมสายใยกับทักษิณก็เหนียวหนึบ ขนาดโฟนอินข้ามประเทศอวยพรเบิร์ธเดย์ครบรอบ 46 ปีต้นเดือนที่ผ่านมา จะบอกว่าจุดยืนการเมืองไม่เกี่ยวกับงาน กมธ. แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามีอะไรดีถึงขั้นทำให้เสี่ยสิระต้องเรียกใช้บริการ "คนใจถึงพึ่งได้"

            ๐ ประเทศไทยเวลานี้ยังอยู่ในสภาวะเขม็งเกลียว การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่นำโดยคณะประชาชนปลดแอก ที่ทำกิจกรรมการชุมนุมม็อบนักศึกษา-ประชาชน พบว่า พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน กำลังมีการเดินหน้าเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมามีความชัดเจนแล้วว่า "ชวน หลีกภัย" ประธานรัฐสภา จะบรรจุญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 1 กันยายนนี้ ขณะที่ประเด็นเรื่องข้อเรียกร้องเรื่องเกี่ยวกับ “สถาบันเบื้องสูง” ที่เคยตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากเวทีธรรมศาสตร์ รังสิต ก็ยังมีการพูดถึงกันอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่โซเชียลมีเดียของบางฝ่าย ขณะเดียวกัน เวลานี้เริ่มมีการจัดตั้งกลุ่มต่างๆ เพื่อคัดค้านการแตะต้องสถาบันเบื้องสูงแล้ว เช่น กลุ่มไทยภักดีของหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม

            ๐ สถานการณ์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป มีความเห็นจาก “พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ” ที่แสดงออกและเคลื่อนไหวในเรื่องการปกป้องสถาบันเบื้องสูงมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มองปรากฏการณ์ม็อบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ตลอดจนกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของประชาชน ต่อการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่หลายฝ่ายสนใจว่าจะมีการเคลื่อนไหวหลังจากนี้อย่างไร..หมอเหรียญทองบอกว่า "เมื่อใดที่สถาบันพระมหากษัตริย์สุ่มเสี่ยงต่อการถูกบั่นทอนอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อนั้นประชาชนจะออกมา ประชาชนที่ออกมา ผมถือว่าคือกองทัพประชาชน และจะเป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่มาก ภาพเหล่านี้ผมไม่ต้องการให้เกิดขึ้น และผมก็ไม่ต้องการเห็น ผมถึงบอกเสมอๆ ว่าเตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้งแบบอดทนอดกลั้น ไม่ได้จะไปรุก ไปประหัตประหารกัน การอยู่ในที่ตั้ง กองทัพประชาชน ก็สามารถโต้ตอบ หรือทำอะไรต่างๆ ได้ เช่น ดูแลครอบครัวของตัวเองให้ดี ช่วยกันทำความเข้าใจแก่คนในครอบครัว แต่อะไรก็ตามที่มันเลวร้ายจนเป็นชนวนเหตุแห่งความร้ายแรง เป็นชนวนเหตุแห่งมิคสัญญี การประหัตประหาร กองทัพประชาชนก็จะเป็นฝ่ายที่จะออกมาเผชิญหน้า เมื่อความรุนแรงมันหยุดกันไม่ได้ กองทัพประชาชนก็จะเผชิญกับความรุนแรงนั้นเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและเทิดทูน"... อ่านบทสัมภาษณ์ดังกล่าวได้แบบเต็มๆ ไทยโพสต์ อาทิตย์นี้ 23 ส.ค.

   ลี้คิมฮวง