20 ส.ค.63-นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BA ในฐานะคณะผู้บริหารบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด(UTA) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก” ครั้งที่ 1 ว่า ขณะนี้ได้จัดส่งแผนแม่บทตามที่กำหนดในสัญญาร่วมลงทุนโครงการฯ เพื่อกำหนดตำแหน่งและจุดเชื่อมโยงของโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่สำคัญต่างๆ ในโครงการฯ ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ตามกำหนดเวลาภายใน 60 วันนับจากวันที่ลงนามสัญญาเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของรัฐ ในการให้การสนับสนุนการพัฒนาโครงการต่อไป

นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนแม่บทดังกล่าว ทาง UTA ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัท OPi ประกอบด้วย Oriental Consultants Global (OCG), Pacific Consultants (PCKK) และ IBIS Company Limited (IBIS) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลกในงานโครงการระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เป็นผู้จัดทำ โดยแผนฉบับนี้ได้ยืนยันแนวเส้นทางของรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, การแสดงแนวเส้นทางระบบโครงข่ายถนนเชื่อมต่อสู่สนามบินและเมืองการบิน, การแสดงข้อมูลทางวิ่ง(รันเวย์)ที่ 2 และการแสดงแนวเส้นทางของระบบสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา และระบบเชื้อเพลิงเข้าสู่สนามบิน

นายพุฒิพงศ์ กล่าวอีกว่า ในเดือน ก.ย.นี้ ทางเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา ทำการสำรวจอย่างละเอียด(Topographic) เพื่อใช้ประกอบการออกแบบและก่อสร้างต่อไป รวมทั้งทำการล้อมรั้วเพื่อกั้นพื้นที่ระหว่างพื้นที่ของสนามบินอู่ตะเภาที่เปิดให้บริการอยู่ในขณะนี้ และพื้นที่สำหรับการก่อสร้าง เพื่อความปลอดภัย และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการให้บริการ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะใช้เวลาออกแบบประมาณ 1 ปี จากนั้นจะเสนอให้ UTA ก่อนเสนอให้คณะกรรมการอีอีซี และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) พิจารณาประมาณเดือน มิ.ย.64 คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในต้นปี 65 ใช้เวลาสร้าง 3 ปี แล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ต้นปี 68

ด้านนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจเบื้องต้น พบว่า ไม่น่ามีปัญหาใดๆ ซึ่งในส่วนพื้นที่ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ของบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) นั้น ขณะนี้ทางคณะกรรมการอีอีซี แจ้งให้ทราบแล้วว่าได้ทำหนังสือประสานไปยังการบินไทยให้รื้อย้ายอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงเครื่องบินแล้ว เพื่อใช้พื้นที่สำหรับการก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 และอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ คาดว่าน่าจะเริ่มรื้อย้ายภายใน 1-2 เดือนนี้
ขณะที่นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้ทำการศึกษาในส่วนของกิจกรรมที่นอกเหนือจากธุรกิจการบิน (Non-Aero) อาทิ บนพื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ มูลค่าโครงการหลักแสนล้านบาท อาทิ เมืองการบิน, การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ และคลังสินค้า เป็นต้น โดยจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปี  จากนั้นอาจต้องหาพันธมิตรมาร่วมลงทุน เบื้องต้นเวลานี้มีนักธุรกิจทั้งชาวไทย และต่างชาติกว่า 10 รายสนใจเข้าร่วมโครงการต่างๆ แล้ว