20ส.ค.63-นางสาวดารณี อุทัยรัตนกิจ ประธานอนุกรรมการกำกับทิศทางโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น กสศ. กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้และติดตามความคืบหน้าโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่นที่ 1 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ซึ่งโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น จะขับเคลื่อนนโยบายผลิตครูให้กับโรงเรียนขนาดเล็กจำนวน 5 รุ่น รุ่นละ 300 คน รวม 1,500 คน ทั้งนี้ตนเชื่อว่าโครงการนี้จะทำให้อัตราการโยกย้ายของครูลดลง เด็กมีจิตสำนึกรักในวิชาชีพครูมากขึ้น ทำให้กลไกการรับนักศึกษาถูกปรับเปลี่ยนตั้งแต่ต้นทาง ไม่ใช่ใครจะสมัครก็ได้ แต่ต้องเป็นคนที่อยู่ในชุมชน มีใจรักอยากเป็นครูในบ้านเกิด อย่างเช่นรุ่นที่ 1 มีเด็กกลุ่มชาติพันธุ์จากตะเข็บชายแดนฝั่งตะวันตก เข้าร่วมโครงการด้วย ซึ่งตรงนี้จะช่วยลดปัญหาเด็กเรียนไม่รู้เรื่องเพราะความต่างเชิงวัฒนธรรม และปัญหาครูจากส่วนกลางไปสอนเด็กม้งแล้วขอย้ายออกได้ กสศ.ต้องการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตครูให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมไทย โรงเรียนต้องการครูแบบไหนควรผลิตแบบนั้น และพยายามทำโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ให้เป็นต้นแบบการผลิตครูของสังคมไทย โดยชวนคนมาสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ถ้าสำเร็จจะนำไปสู่การผลิตครูแบบที่สังคมไทยต้องการ สิ่งเหล่านี้จะส่งไปถึงผู้เกี่ยวข้องทั้ง สพฐ.หน่วยงานราชการ มหาวิทยาลัย ให้ร่วมมือกันปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตครูต่อไป
ด้านนายอุดม วงษ์สิงห์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาคุณภาพครู นักศึกษาครู และสถานศึกษา กสศ. กล่าวว่า โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่น 1 มีเด็กด้อยโอกาสขาดแคลนทุนทรัพย์ได้รับทุนและเข้าเรียนในปีการศึกษา 2563 จำนวน 328 คน ใน 11 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ครอบคลุม 45 จังหวัด ของโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลที่มีอัตราเกษียณครูในปี 2567 ทั้งนี้ หลังจบการศึกษาเด็กทุกคนจะได้บรรจุเป็นข้าราชการครูสาขาปฐมวัย และสาขาประถมศึกษา ตามอัตราที่ สพฐ.ให้ตามโรงเรียนสังกัด สพฐ.ในตำบลบ้านเกิด โดยโครงการฯมีเป้าหมาย 2 ด้าน 1.สนับสนุนเด็กยากจนพิเศษระดับชั้นม.ปลาย ให้ได้เรียนครู เป็นทุนแบบให้เปล่าครบวงจรและ 2.ปฏิรูประบบการผลิตและพัฒนาครูในสถาบันอุดมศึกษา กสศ.ได้เตรียมงบประมาณไว้ช่วยเหลือเด็ก 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นค่าเทอมและค่าใช้จ่ายอื่นๆของเด็กรวมเดือนละ8,000 บาท ส่วนที่สองจัดสรรให้มหาวิทยาลัยใช้พัฒนาเด็กรายบุคคลและรายกลุ่มปีละ30,000 บาท/คน นอกจากนี้ยังมีงบกลางที่ร่วมทำงานกับมหาวิทยาลัยทั้ง 11 แห่งด้วย
“อย่างไรก็ตามสถาบันที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ส่วนใหญ่เป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏตามหัวเมืองต่างจังหวัดที่สามารถดูแลเด็กได้ตั้งแต่การไปค้นหา คัดกรอง คัดเลือก เข้าเรียน 4 ปี รวมถึงเป็นครูพี่เลี้ยงหลังจากเด็กบรรจุเป็นครูในพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ กสศ.ได้สร้างเครือข่ายมหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญสูง ให้มามีบทบาทและส่วนร่วมช่วยเน้นเสริมทางด้านวิชาการ การสร้างเครือข่าย ให้กับมหาวิทยาลัยในสถาบันผลิตครูรัก(ษ์)ถิ่น เพื่อร่วมกันสร้างความเข้มแข็งให้กับราชภัฏที่เป็นวิทยาลัยผลิตครูมาก่อน ให้เป็นอุดมศึกษาของท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง”ผอ.สำนักพัฒนาคุณภาพครู นักศึกษาครู และสถานศึกษา กสศ.กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |