“จารุวัฒน์” ส่งผลสอบ 20 นายตำรวจพันคดีบอสถึงมือ “บิ๊กแป๊ะ” แล้ว แย้มมีนายตำรวจยศ “พล.ต.ท.” ร่วม รอ ผบ.ตร.ฟัน “วิชา” ชี้สัปดาห์มีโอกาสสรุปผล ประชุม กมธ. 5 ชั่วโมงเดือด “สมยศ” เบี้ยวแจง

เมื่อวันพุธที่ 20 สิงหาคม พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำสำนวนคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดงขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เมื่อปี 2555 กล่าวว่า จะเสนอรายชื่อตำรวจ 20 ราย ส่งให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พิจารณาตั้งกรรมการสอบสวนวินัย โดยเบื้องต้นพบตำรวจที่มีความบกพร่องเป็นชุดที่ทำสำนวนครั้งแรก 11 นาย และชุดหลังอีก 9 นาย ซึ่งใน 11 นายมีผู้ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลไปแล้ว ต่อมาคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตรวจพบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหลังเพิ่มเติม โดยมีตำรวจตั้งแต่ยศ พล.ต.ท. พล.ต.ต. ซึ่งบางส่วนเกษียณอายุราชการไปแล้ว มีความผิดกรณีไม่ควบคุมสำนวนการสอบสวนให้เคร่งครัด ซึ่งต้องส่งให้กองวินัยพิจารณา ถ้าเป็นคดีอาญาหากอายุความยังไม่หมดก็ต้องดำเนินคดี หากยังรับราชการอยู่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และหากพบความผิดทางอาญาก็จะส่งเรื่องไป ป.ป.ช.
“เมื่อส่งรายชื่อให้ ผบ.ตร.แล้ว หากมีรายละเอียดที่ยังไม่ชัดเจน ผบ.ตร.อาจตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเพื่อรวบรวมข้อมูล  แต่ถ้าชัดเจนแล้วสามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยได้เลย" พล.ต.ท.จารุวัฒน์กล่าว และว่า ถือว่าคณะกรรมการฯ ชุดนี้สิ้นสุดการสอบสวนข้อเท็จจริงตำรวจบกพร่องแล้ว
ด้านนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ยืนยันว่าจะพยายามพิจารณาให้เสร็จตามกรอบ 30 วัน และคาดว่าต้นสัปดาห์หน้าน่าจะได้ข้อสรุปประเด็นข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน จากนั้นก็เป็นเรื่องของข้อกฎหมายที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องไปดำเนินการต่อไป
วันเดียวกัน คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ.ประชุมร่วมกับ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ที่มีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ. เพื่อตรวจสอบกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ โดยได้เชิญ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. มาชี้แจง แต่ พล.ต.อ.สมยศได้ส่งหนังสือชี้แจงแทน   
    โดยที่ประชุมได้ซักถาม พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ในฐานะอดีตผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐานที่ถูกอ้างว่าอยู่ในเหตุการณ์ที่ พล.ต.อ.สมยศที่เป็นผู้พานายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เข้ามาร่วมคำนวณความเร็วในคดีนี้
    ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม กมธ.พยายามซักถามว่าเหตุใดจึงมีชื่อ พล.ต.อ.สมยศเข้ามาเกี่ยวข้อง พล.ต.อ.มนูจึงตอบว่า พล.ต.อ.สมยศไม่ได้มาด้วย ไม่มีใครก้าวก่ายแทรกแซงในคดี ส่วน พ.ต.อ.วิรดล ทัมทิบดี ในฐานะพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ยืนยันว่า ไม่รู้จักนายสายประสิทธิ์มาก่อน ทำให้นายรังสิมันต์ต้องสอบถามอีกครั้งว่าใครเป็นผู้พานายสายประสิทธิ์มากันแน่ ซึ่ง พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ยืนยันว่าเป็นไปตามเอกสารชี้แจงคือ พล.ต.อ.สมยศ
    ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่ง นายรังสิมันต์ได้ถามว่า พล.ต.อ.มนูมีส่วนช่วยเป่าคดีหรือไม่ ทำให้ พล.ต.อ.มนูพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า มากล่าวหาว่าเป็นคนเป่าคดีหมายความว่าอย่างไร นายรังสิมันต์ ตอบว่าเป็นเพียงการตั้งคำถามในฐานะ กมธ. ซึ่ง พล.ต.อ.มนูย้อนว่ายังยืนยันในคำพูดว่าเป่าคดีหรือไม่ ทำให้นายรังสิมันต์ตอบกลับมาอีกว่าไม่ใช่การกล่าวหา หากท่านคิดว่าจะดำเนินดคี ก็เป็นสิทธิของท่าน   
    นายสิระแจ้งที่ประชุมอีกว่า ในสัปดาห์หน้าจะเชิญ พล.ต.อ.สมยศมาชี้แจงอีกครั้ง เพราะอยากรู้ว่ามีหน้าที่อะไรถึงได้พานายสายประสิทธิ์ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน โดยการประชุมครั้งนี้ใช้เวลายาวนานกว่า 5 ชั่วโมง.