ผงะ! พบผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศ 2 คน ทั้งที่เข้ากักตัวที่สถานกักกันที่ราชการกำหนดครบ 14 วัน และออกไปใช้ชีวิตปกติแล้ว อธิบดีกรมควบคุมโรคชี้แค่ซากเชื้อไวรัส ไม่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค แต่หุ้นร่วงทันที 21 จุด “บิ๊กเล็ก” เผย ศบค.ชุดเล็กจ่อชงต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยันไม่กระทบชุมนุม

    เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุว่า โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ได้มีการตรวจพบคนไทย 1 คน ติดเชื้อโควิด-19 เบื้องต้นเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์
    ทั้งนี้ คนไทยดังกล่าวเป็นผู้เคยทำงานที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนรายละเอียดรอกรมควบคุมโรคเป็นผู้แถลง
    ขณะที่ พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เผยว่า ได้รับรายงานเคสดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นเป็นคนที่กลับมาจากดูไบและเข้าพักที่สถานที่กักกันของรัฐจนครบ 14 วัน แล้วจึงออกมาใช้ชีวิตปกติ
    อย่างไรก็ตาม ขณะที่ประชาชนให้ความสนใจข่าวนี้ และต้องการรายละเอียดมากขึ้น นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ขอเลื่อนการแถลงข่าวกรณีผู้พบผู้ติดเชื้อ โดยขอรอให้ทาง รพ.รามาฯ แถลงชี้แจงรายละเอียดก่อน เพราะทราบว่าเพิ่งตัดสินใจว่าจะแถลงในเวลา 17.00 น. เมื่อถึงเวลาดังกล่าวกลับไม่มีการแถลงแต่อย่างใด
    ข่าวดังกล่าวกระทบไปถึงตลาดหุ้น โดยรายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า กรณีนี้ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,308.67 จุด ลดลง 21.44 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 1.61% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 57,283.62 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,332.79 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,301.97 จุด
    ขณะที่ นพ.นวนรรน ธีระอัมพรพันธุ์ อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า กรณีข่าวผู้ป่วย COVID-19 ของ รพ.รามาธิบดี ที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ อาจมีข้อมูลที่ไม่ตรงความจริงบางประการ ขอให้รอการแถลงรายละเอียดของกรมควบคุมโรคและผู้เกี่ยวข้องนะครับ จะได้ชัดเจน
    ระหว่างนี้ขอเรียนในฐานะชาวรามาธิบดีที่ดูแลเรื่องการบริหารความเสี่ยงว่า ยังไม่มีเหตุที่ต้องตกใจแตกตื่นหรือกังวลเรื่องความเสี่ยงกันยกใหญ่แต่อย่างใดครับ อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อที่ทางกระทรวงสาธารณสุขเน้นย้ำ ก็ยังมีความสำคัญในสถานการณ์ที่เรายังไม่มีวิธีการป้องกันอย่างเช่นวัคซีนที่ได้ผลแน่ชัดครับ
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ถึงบอกว่าต้องระมัดระวังการที่มีประชาชนจำนวนมาก ที่ผ่านมามีการชุมนุมน้อยๆ ก็พอจะไว้วางใจได้บ้าง พอมากขึ้นๆ แล้วจะทำอย่างไร ถ้าไม่มีมาตรการคัดกรองโควิด-19 หลายคนอาจจะยังมีเชื้ออยู่ แต่ยังออกมาแพร่ ยังไม่ออกมาในที่ชุมนุม เราไม่สามารถจะตรวจคนทั้งประเทศได้อยู่แล้ว ฉะนั้น เราต้องป้องกันตัวเองด้วย โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ภูมิต้านทานค่อนข้างต่ำ ไม่เหมือนผู้ใหญ่ ขอให้ระมัดระวังตรงนี้ด้วย ตนไม่ได้ขู่ อย่างที่หลายคนบอกว่าออกมาขู่ด้วยกฎหมาย ขู่ด้วยโควิด-19 ตนพูดในข้อเท็จจริง ตีความกันถูกหน่อย
    ต่อมาช่วงค่ำ ที่กรมควบคุมโรค (คร.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.), นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผอ.โรงพยาบาลรามาธิบดี และคณะแพทย์ ร่วมกันแถลงกรณีตรวจพบหญิงไทยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ราย
    อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า รายแรกเป็นเพศหญิง อายุ 34 ปี เคยทำงานที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2563 ไม่มีอาการ เข้ากักตัวที่สถานกักกันที่ราชการกำหนด 14 วัน ซึ่งทำการตรวจหาเชื้อครั้งแรกวันที่ 5 มิ.ย. พบสารพันธุกรรมปริมาณน้อย สรุปว่าเป็นผลกำกวม ตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 13 มิ.ย. ไม่พบเชื้อ จึงเดินทางกลับ จ.ชัยภูมิ และแยกตัว 30 วัน ต่อมาวันที่ 17 ส.ค. เตรียมเดินทางไปต่างประเทศ จึงมาตรวจที่ รพ.รามาฯ เมื่อวันที่ 18 ส.ค. พบเชื้อปริมาณน้อย เจาะเลือดตรวจพบภูมิคุ้มกันแล้ว สรุปเป็นผู้ติดเชื้อรายเดิมที่เคยพบซากเชื้ออยู่ในสถานที่กักกันจนครบกำหนด ไม่สามารถแพร่เชื้อต่อได้
    นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า สำหรับรายที่ 2 เป็นหญิง อายุ 35 ปี เดินทางเข้าไทยเมื่อ 24 มิ.ย. และกักตัวใน state quarantine จนครบ 14 วัน และตรวจไม่พบเชื้อทั้ง 2 ครั้ง จึงให้กลับจังหวัดเลย และเตรียมเดินทางเข้า กทม. เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เดินทางไปตรวจร่างกายเพื่อต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ (ขอใบรับรองแพทย์) แต่พบเชื้อโควิดในร่างกายปริมาณน้อย และยังไม่มีอาการ สบายดี ทาง รพ.จึงรับตัวดูอาการ โดยการรักษาจากนี้เน้นการสังเกตอาการ แยกจากผู้อื่น ไม่ได้มีการให้ยาอื่นเพิ่ม เนื่องจากไม่มีอาการ คาด 2-3 สัปดาห์จึงจะทราบผล ส่วนครอบครัวหรือคนใกล้ชิดไม่ต้องกังวล เนื่องจากไม่มีอาการจึงไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ
    ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากข้อมูลวารสารทางการแพทย์ในต่างประเทศ พบว่า โอกาสที่ผู้ป่วยโควิดที่รักษาหายแล้วมีซากเชื้อไวรัสในร่างกายได้ถึง 3 เดือน แต่สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้
    ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ประจำวันว่า มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 1 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,382 ราย หายป่วยเพิ่ม 9 ราย ยอดหายป่วยสะสม 3,199 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 125 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย
    สำหรับผู้ป่วยรายใหม่เป็นหญิงไทย อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานนวด เดินทางกลับมาจากอินเดีย ถึงไทยวันที่ 8 ส.ค. เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 18 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ กรุงเทพฯ ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 17 ส.ค. ผลตรวจ พบเชื้อ ไม่มีอาการ
    นพ.ธนรักษ์กล่าวว่า ความคืบหน้ากรณีชาวมาเลเซียที่เดินทางมาเมืองไทยและกลับประเทศไปแล้วพบการติดเชื้อ ทางกรมควบคุมโรคและสำนักอนามัยกรุงเทพมหานครได้ร่วมกันสอบสวนโรค พบผู้สัมผัส 10 คน ผลตรวจไม่พบเชื้อ และมีผู้สัมผัสอีก 1 คนได้เดินทางไป จ.เชียงใหม่ เราตามตัวและตรวจเชื้อแล้ว ผลตรวจไม่พบเชื้อเช่นกัน
    ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) รองหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลาง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เผยว่า ศบค.ชุดเล็กเตรียมเสนอ ศบค.ชุดใหญ่เพื่อต่อ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต่ออีก 1 เดือน ยืนยันว่าการมี พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน และยังสามารถดำเนินการจัดการชุมนุมได้.