ในที่สุด “ผนังทองแดง กำแพงเหล็ก” ว่าด้วยการไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศของไทยก็สิ้นสุดลงในจำนวน 86 วันเสียแล้ว เพราะล่าสุด “นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา” คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ได้เผยผลตรวจสอบพบคนไทย 1 คนติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ทั้งที่ผู้ป่วยดังกล่าวได้เข้าพักที่สถานที่กักกันของรัฐจนครบ 14 วัน และออกมาใช้ชีวิตปกติแล้ว!!! ...๐ ต้องเรียกว่านับจากนี้คงต้องมีการเช็กลิสต์ “ไทม์ไลน์” ของผู้ป่วยกันจ้าละหวั่นว่าเคยไปใช้ชีวิตปกติในละแวกใดแถวไหนกันบ้าง เพราะนี่อาจเป็นการส่งสัญญาณว่า “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” หรือโควิด-19 จะกลับมาระบาดรอบ 2 ก็เป็นได้ ยิ่งได้ฟัง “นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์” รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ที่แถลงว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาระบุว่าขณะนี้ประเทศในเอเชียแปซิฟิกกำลังเข้าสู่การระบาดระลอก 2 ก็ยิ่งจะทำให้คนไทยเกิดอาการปริวิตกกันได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อดูผลของการศึกษาจากต่างประเทศ ที่พบว่าแม้มีการกักตัวครบ 14 วัน ก็มีโอกาสหลุดถึง 2% หากกักตัว 10 วัน มีโอกาสหลุด 4% ซึ่งกรณี “ออสเตรเลีย” หลุดครอบครัวเดียว ทำให้เกิดการติดต่อกันถึง 3,000 คน …๐
นี่ยัง ไม่นับรวมกรณี “ชาวมาเลเซีย” ติดโควิดหลังเดินทางกลับจากไทย ซึ่งกำลังกลายเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศอยู่รอมร่อ เมื่อทั้ง “มาเลย์” และ “ไทย” ต่างยืนยันว่าไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่ประการใด ซึ่งหากกรณีนี้มาสบทบกับกรณี “รพ.รามาธิบดีฯ” ก็ยิ่งทำให้ปัญหาวิกฤติโควิดรอบ 2 น่าห่วงมากขึ้น ...๐
และช่าง สอดรับกับ “ศบค.ชุดเล็ก” ขึ้นมาแบบไม่ได้นัดหมาย เมื่อจะชง ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ให้ต่ออายุพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน พร้อมกับจะทบทวนการผ่อนคลายมาตรการใน 3-4 เรื่อง ขณะที่ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกฯ และ รมว.พลังงานเผยผลประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. นัดแรกว่าในการประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดระยองในวันที่ 25 ส.ค.นี้ อาจมีการ นำเรื่องมาตรการดึงนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศท่องเที่ยวเฉพาะพื้นที่ตามแบบภูเก็ตโมเดลด้วย ก็เรียกได้ว่า “โควิด-19” จ่อคอหอยกันเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกที่ตลาดหุ้นไทยดิ่งเหวทันทีเมื่อมีข่าวไวรัสมรณะออกมา โดยปิดตลาดติดลบกว่า 20 จุด ...๐
โควิดก็ร้อน แก้ไข “รัฐธรรมนูญ” ก็แรงไม่แพ้กัน แต่ที่สำคัญก็เป็นการเปิดหน้ากันอย่างชัดเจนในฐานะพรรคการเมือง ซึ่งก็จะได้ความชัดเจนทั้งประชาชนและคอกาแฟ เพราะใน บรรดาพรรคการเมืองที่ประกาศชัดว่าพร้อมแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 นั้น ก็นำโดย พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้บังเหียนของ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ, พรรคภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข และพรรคประชาธิปัตย์ ของ “ป๋าอู๊ดด้า-จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ...๐
ส่วนพรรคที่ประกาศตัวชัดแจ้งว่า แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับรวมทั้งหมวด 1 และหมวด 2 ก็คือ พรรคก้าวไกล ของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” พร้อมทั้งคณะก้าวหน้า ในการชี้นิ้วของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เพราะนอกจากการให้สัมภาษณ์ยืนยันของ “ชัยธวัช ตุลาธน” เลขาธิการพรรคก้าวไกลแล้ว การถอนชื่อ 21 รายชื่อจากพรรคร่วมฝ่ายออกไปก็ยิ่งแสดงชัด ...๐
ส่วน พรรคกั๊กนั้นได้แก่ “พรรคเพื่อไทย” ภายใต้การกำกับดูแลของ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ เพราะท่าทีของประธานวิปฝ่ายค้านอย่าง “สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม ที่ให้สัมภาษณ์ล่าสุดออกชัดแจ้งว่าหากใช้ท่าทีของก้าวไกลอาจทำให้ “ล่มปากอ่าว” ในญัตติดังกล่าวได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยไว้แล้ว เลยต้องยื่นแบบภาพกว้างเพื่อให้ผ่านวาระ 1 ไปก่อน แล้ววาระ 2 ในการแปรญัตติค่อยมาปรึกษาหารือกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องดังกล่าวหรือไม่อย่างไร เรียกว่า “แทงกั๊ก” กันอย่างไม่อายฟ้าอายดินกันเลยพี่น้อง ...๐
ทิ้งท้ายด้วยข่าวฮอตต่อเนื่องอีกข่าวคงหนีไม่พ้น “บอส เรดบูล” เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบในส่วนของ “หมาต๋า” ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.แต่งตั้ง ได้สรุปผลแล้ว และได้ ส่งรายชื่อ 20 ตำรวจที่มีส่วนพันพัวในคดีดังกล่าวให้กับ “บิ๊กแป๊ะ” พิจารณาเชือดไก่แล้ว ซึ่งมีทั้งสิ้น 20 รายชื่อ โดยมี 11 รายที่ ป.ป.ช.เคยชี้มูลมาแล้ว ส่วนอีก 9 รายก็มีตั้งแต่ยศ “พล.ต.ท.” “พล.ต.ต.” จนถึงระดับสารวัตร ซึ่งบางส่วนเกษียณอายุราชการไปแล้ว ...๐
...ท.ศักดิ์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |