เด็กฉลาดชาติเจริญ


เพิ่มเพื่อน    

      ตั้งสติกันให้ดี

            ประเทศไทยอาจไม่รอดจากการระบาดของโควิดรอบ ๒  

            กรณีชาวมาเลเซียติดจากไทย แม้จะยังเถียงกันไม่จบว่า ต้นตอของโรคอยู่ในไทยหรือมาเลเซียกันแน่ แต่ประมาทไม่ได้ทั้งนั้น

            ล่าสุดพบผู้ป่วยโควิดในประเทศเป็นรายแรกในรอบ ๘๖ วัน นี่คือสัญญาณเตือน อาจต้องล็อกดาวน์กันอีกครั้ง หากเอาไม่อยู่

            เมื่อพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็ต้องมาดูว่าเรามีความเสี่ยงแค่ไหน ที่จะเข้าสู่การระบาดรอบ ๒ เต็มรูปแบบ อย่างออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ ฯลฯ

            วันนี้ทุกที่เสี่ยงหมดหากไม่ใส่หน้ากากอนามัย ไม่เว้นระยะห่าง เพราะยังไม่รู้ว่า "ไวรัส" เดินทางไปที่ไหนบ้าง

            กิจกรรมเสี่ยง การรวมตัวกันเยอะๆ ขอให้ดูอเมริกาเป็นตัวอย่าง กรณีการชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรมให้ "จอร์จ ฟลอยด์" ยังส่งผลมาถึงวันนี้

            การชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ความต้องการให้ประเทศปลอดจากโควิด-๑๙ ก็เป็นความต้องการพื้นฐานของคนไทยเช่นกัน        

            เพราะเป็นตัวกำหนดเศรษฐกิจ ชีวิต ความเป็นอยู่

            ชุมนุมใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ป้องกันการระบาดได้หรือไม่ คำตอบคือได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยง  และนี่คือคำเตือนทางการแพทย์

            ไม่ชุมนุม ปล่อยเผด็จการอยู่ต่อได้หรือไม่ ก็ลองชั่งน้ำหนักดู

            จะรอให้โควิดระบาดก่อนแล้วค่อยหยุดชุมนุม หรือพักไปก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้ระบาด อย่างไหนจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยส่วนใหญ่ในช่วงเวลาเฉพาะหน้านี้มากกว่า

            แต่มีสิ่งที่อยากฝากถึงเด็กๆ อนาคตของชาติ   

            ทุกสรรพสิ่งในโลกมี ๒ ด้านเสมอ

            ด้านบวก ม็อบนักเรียนมีแน่ และประวัติศาสตร์ก็ได้บอกเราแล้ว

            สมัย ๑๔ ตุลา ๑๖ ขบวนการนิสิต นักศึกษา ก็เชื่อว่าตัวเองเป็นพลังบริสุทธิ์ เป็นความคิด เรียกร้องให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม ขจัดพวกโกงกินบ้านเมือง หรือทั้งหมดคือ การทำเพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ

            ๖ ตุลา ๑๙ ขบวนการนิสิต นักศึกษา ถูกหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ล้มเจ้า แต่เหล่านิสิต นักศึกษา  ยึดมั่นในอุดมการณ์ทำเพื่อส่วนรวม ไม่ได้หวังเป็นใหญ่ เป็นโต

            วันเวลาผ่านไป ประชาธิปไตยไทย มีทั้งล้มลุกคลุกคลาน นิสิต นักศึกษาที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นปัญญาชน เติบโต ผ่านร้อนผ่านหนาว จบการศึกษา มีหน้าที่การงานมีหน้ามีตาในสังคม

            บางคนโดดเข้าวงการเมืองเต็มตัว

            หลายคนเมื่อทักษิณ ชินวัตร ตั้งพรรคการเมือง ก็เข้าไปร่วมทำงาน ตั้งแต่เริ่มแรก

            นานวันเข้าหลายคนเฟดตัวออกจากทักษิณ เพราะเริ่มประจักษ์ชัดแล้วว่า "ทักษิณ" ไม่ใช่คำตอบ ที่จะพาประเทศไทย ก้าวหน้าได้อย่างแท้จริง

            แต่บางคนยังคงอยู่กับทักษิณ ตราบจนถึงทุกวันนี้ และร่วมอยู่ในขบวนการโคตรโกง โกงทั้งโคตร

            มาวันนี้เด็กๆ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าจากที่เคยถูกวิจารณ์ว่า ไม่สนใจการเมือง สนใจหมกมุ่นแต่เรื่องตัวเอง บ้าดาราเกาหลี

            ถูกลบล้างไปแล้ว

            เด็กๆ ให้ความสนใจความเป็นไปของบ้านเมืองมากจริงๆ

            แต่...ถ้าจะเอาให้พังกันไปข้างในยามที่ประเทศเผชิญวิกฤติ อนาคตอาจไม่ได้สดใสอย่างที่คิด

            เมื่อพรรคก้าวไกลจุดพลุรื้อรัฐธรรมนูญ ลึกๆ หวังจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง ก็ต้องหยุดดูว่าระบอบปกครองอื่นคือคำตอบหรือไม่

            ยกตัวอย่างฟิลิปปินส์น่าจะใกล้เคียงกับไทย เพราะนอกจากหน้าตาแล้วนิสัยใจคอของคนยังคล้ายกัน นักการเมืองคอร์รัปชันไม่ต่างกัน

            ระบอบประธานาธิบดีแบบที่เป็นในฟิลิปปินส์ก็น่าจะเป็นคำตอบได้พอสมควรว่าเราควรไปทางนั้นหรือไม่

            ขณะที่กลุ่มต่อต้านสถาบันมองว่าม็อบเยาวชนคือมิติใหม่ของประเทศ แต่พึงตระหนักว่าคนไทยไม่ค่อยมีความอดทนที่จะแก้ไขปัญหาตามระบบ เรามักใช้ม็อบมาล้มอำนาจสลับกันไปมาไม่จบไม่สิ้น

            อเมริกาวันนี้ผู้คนไม่พอใจประธานาธิบดีทรัมป์จำนวนมาก แต่เขารอแก้ปัญหาด้วยการเลือกตั้ง วัฒนธรรมการเมืองเขาเป็นแบบนั้น

            แต่คนไทยกลับกันอย่างสิ้นเชิง เรามักใช้ม็อบกดดันเพื่อให้เปลี่ยนรัฐบาล

            ฉะนั้นคิดกันให้เยอะๆ มองให้รอบด้าน เพราะถ้าพลาดการเมืองผสมโควิด ประเทศทรุดทันที ในสถานการณ์แบบนี้ หน้าไหนมาเป็นรัฐบาลก็ฟื้นยาก

            เก็บแรงไว้ วัคซีนเริ่มจะเป็นจริง ถึงเวลานั้นอาจต้นปีหน้า ค่อยไล่เผด็จการต่อ

            แต่ระวังอย่าให้โจรมาชุบมือเปิบ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"