เลขาฯก้าวไกล เล็งยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมปิดสวิตช์ ส.ว. เตือนอย่ากล่าวหาล้มล้างการปกครอง


เพิ่มเพื่อน    

19 ส.ค.63 - ที่รัฐสภา (เกียกกาย) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีกรณีการยื่นญัตติร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม และกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เตรียมยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคก้าวไกล ในข้อหาเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองและล้มล้างสถาบัน โดยระบุว่า พรรคก้าวไกลจะไม่ยื่นแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) อีก เนื่องจากพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นไว้แล้ว และในเมื่อรายชื่อครบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เเล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ เพียงแต่เราขอสงวนความเห็นไว้ในสาระสำคัญบางประเด็น และพรรคก้าวไกลจะเข้าร่วมอภิปรายเมื่อญัตตินี้เข้าสู่รัฐสภา ส่วนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่พรรคก้าวไกลจะยื่นต่อไปหลังจากนี้ คือ การปิดสวิตซ์ ส.ว. โดยจะเสนอให้ยกเลิกมาตรา 269 - 272 ที่เปรียบเสมือนกล่องดวงใจในการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกล ก้าวล่วง หรือล้มล้างการปกครอง เราเห็นว่าไม่น่าจะส่งผลดีต่อสถานการณ์ทางการเมืองแบบนี้ ประเทศไทยมีบทเรียนมาเเล้วตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2549 ว่า การหยิบยกเอาเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์มาโจมตีกันแบบนี้ ไม่ได้ส่งผลดีอย่างใดเลย ปรากฏการณ์ในวันนี้ได้สะท้อนให้เห็นแล้ว และเรามีความเห็นว่า มีบางฝ่ายบางกลุ่มพยายามยกเรื่องนี้มาเพื่อขัดขวางการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่านการตั้ง สสร. รวมถึงต้องการกระตุ้นให้เกิดความเกลียดชัง หรือปราบปรามการชุมนุมเรียกร้องของนักศึกษาประชาชนที่กำลังลุกขึ้นมาทั่วประเทศในขณะนี้ ซึ่งจะยิ่งทำให้การเมืองเดินไปสู่ทางตัน พรรคก้าวไกลยังยืนยันว่า ทางออกที่ดีทีสุด คือการตั้ง สสร.เพื่อทำให้ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นร่วมกัน และแสวงหาฉันทามติว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เรายอมรับร่วมกันนั้นจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

"ในประเด็นเกี่ยวกับหมวด 1 และหมวด 2 ผมขอย้ำอีกครั้งว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้เสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมตอนนี้ เพียงการสงวนความเห็นไว้นั้น ด้วยเหตุผล หลัก 2 ประการ คือ 1.ไม่มีความจำเป็นใดๆ เนื่องจากในส่วนของรัฐธรรมนูญมาตรา 255 ได้จำกัดไว้แล้ว กำหนดขอบเขตของการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้แล้วว่า เราจะไม่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ คือราชอาณาจักรนั้น จะกระทำมิได้ ดังนั้น เราจึงบอกว่ามันไม่มีความจำเป็น เพราะจะไปสร้างความเข้าใจผิดว่า หมวด 1-2 แก้ไขไม่ได้ ทั้งๆ ที่มีการแก้ไขมาโดยตลอด รวมทั้งตอนที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ด้วย

2.การเขียนล็อกไว้ว่าแก้ไขไม่ได้ เราเห็นว่าไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ ที่มีการชุมนุมเรียกร้องของนักศึกษาและประชาชนข้างนอก ซึ่งที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลเราเรียกร้องให้สังคมมีวุฒิภาวะในการฟังพวกเขาและเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรากังวลว่าการล็อกไว้จะเป็นการไปลดวุฒิภาวะของสังคมในการรับฟังกัน และจะทำให้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง

อีกทั้ง ในส่วนของการตั้ง สสร. เมื่อมีการเลือกตั้งขึ้นมาแล้ว สสร.จะเป็นตัวแทนของหลากหลายความคิด ไม่สามารถที่จะมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่จะผูกขาดว่าจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญไปในแนวทางแบบนี้ได้ทั้งหมด ชื่อว่าหาก สสร. นำให้ทุกฝ่ายเห็นว่า สสร. เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยเสรี ที่ทุกคนจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เราจะหาจุดสมดุลได้ และเป็นทางออกที่สันติสำหรับการเมืองไทยได้ ในทางกลับกัน ถ้าเราทำให้ สสร. มีกำแพงให้กับคนอีกจำนวนมาก ว่าไม่ฟังเสียงและความคิดเห็นของพวกเขา ไม่ใช่พื้นที่ของพวกเขา พวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วม แทนที่ สสร. จะกลายเป็นทางออกก็จะกลายเป็นทางตัน" นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า กรณีที่มีบุคคลอ้างเอาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2555 มาใช้ว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับเป็นการล้มล้างสถาบันนั้น ตนขออธิบายว่า เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิด ย้ำอีกครั้ง คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าการทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยมีการตั้ง สสร. ไม่ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง เพียงแต่เสนอแนะว่า หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 นั้น ควรจะมีการทำประชามติก่อน ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ให้มี สสร. ขึ้นมา ย่อมไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง และรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้อยู่แล้วว่าหากมีการแก้ไข ม.256 จะต้องมีการทำประชามติก่อนทูลเกล้าฯ หากรัฐสภาพิจารณาผ่าน 3 วาระไปแล้ว ดังนั้น เราก็มองไม่เห็นว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะล้มล้างการปกครองแต่อย่างใด

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันพรุ่งนี้ พรรคก้าวไกล จะมีการหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เกี่ยวกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคก้าวไกลจะเสนอในเรื่องการเเก้ไขมาตรา 269 - 272 ในการปิดสวิตซ์ ส.ว. เพียงแต่ว่า พรรคก้าวไกล มี ส.ส.แค่เสียง 54 เสียง ไม่ถึง 1 ใน 5 ของสภาผู้แทนราษฎร จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอเสียงพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย ก่อนจะเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ทันในสมัยประชุมนี้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"