ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" ผลสืบเนื่องการชุมนุมของนิสิตนักศึกษาประชาชนปลดแอก ประกาศข้อเรียกร้อง 10 ข้อ สั่นสะเทือนการเมืองไทย เริ่มขยายไปยังนักเรียนในโรงเรียนระดับมัธยม มีการผูกโบสีขาว และชู 3 นิ้ว ช่วงเคารพธงชาติ แม้แต่ โรงเรียนวัดนวลนรดิศ ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยังมีการชู 3 นิ้วต่อเนื่องเป็นวันที่สอง รวมทั้งมีการปลดป้ายแสดงความยินดี พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะศิษย์เก่าที่เป็นนายกฯ ออกด้วย ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า "มีการบูลลีกัน ถ้าใครไม่มาร่วมก็จะถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมชมรม เข้ากลุ่ม อะไรแบบนี้ คิดว่านั่นคืออันตราย" ส่วน ลุงป้อม-ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวทีเล่นทีจริงว่า "อ๋อ ลูกเสือๆ" หมายถึงสัญลักษณ์คำปฏิญาณของลูกเสือ ย้อนกลับสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ...0 

                ปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะกว่าที่นักเรียน นักศึกษา จะกล้าแสดงออกท้าทายอำนาจรัฐเช่นนี้มันมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ พรรคอนาคตใหม่ ตั้งพรรคใหม่ๆ มีการตั้งเครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่ (New Gen Network – NGN) แม้จะยุบไปแล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังทำงานเคลื่อนไหวจัดตั้งเด็กเยาวชนทั่วประเทศ โฟกัสไปที่อายุต่ำกว่า 18 ปี พาทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์แล้วยกระดับความคิดทางการเมือง  กอปรกับเด็กรุ่นนี้เกิดมาจากยุควิกฤติต้มยำกุ้ง เติบโตมาในยุคสงครามเสื้อสี ม็อบเสื้อเหลือง-เสื้อแดง ชุมนุมประท้วงกันหลายปี และยังมาเผชิญกับวิกฤติไวรัสโควิด-19 อีก หลายคนกำลังจบการศึกษา แต่มองไม่เห็นอนาคต คนตกงานอื้อ รัฐบาลก็ไม่สร้างหลักประกันให้คนรุ่นหลังได้เชื่อมั่น เมื่อมีโอกาสจึงระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างที่เห็น...0

                เด็กเยาวชนคือพลังบริสุทธิ์ การแสดงออกต่างๆ จะถูกหรือผิดผู้ใหญก็ต้องทำความเข้าใจและแก้ปัญหาให้ตรงจุด สำหรับข้อเรียกร้องหลัก 3 ข้อ นายกฯ ลาออก ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และยุบสภาฯ ก็ไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่เกินเลย ควรที่รัฐบาลจะรับไปพิจารณาหาทางออกให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ ก่อนที่เหตุการณ์จะลุกลามบานปลายมากกว่านี้ แม้รัฐบาลจะประกาศจุดยืนพร้อมแก้ไขรัฐธรรมนูญตามกระบวนการ แต่ปัญหาอยู่ที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งกลายเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งใหม่ หากยังไม่ลาออกสถานการณ์ก็คงไม่ยุติ อยู่ที่ผู้มีอำนาจทั้งหลายจะคิดอ่านตัดสินใจร่วมกันอย่างไร แต่ขอเตือนใครที่คิดจะล้างกระดานเพื่อ กระชับอำนาจใหม่ ระวังนรกรออยู่ข้างหน้า!...0

                หงายไพ่เล่นแล้ว! สำหรับพรรคก้าวไกล ถอนชื่อออกจากญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ไม่แตะหมวด 1 กับหมวด 2 โดย นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล บอกว่า ไม่อยากให้มีการปิดล็อกในหมวด 1 ไว้ ส่วนหมวดที่ 2 ที่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ ที่เกรงว่า ส.ส.ร.จะนำข้อความแก้ไขเลยเถิดออกไปนั้น ในมาตรา 255 ระบุไว้อยู่แล้วไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้ พร้อมเรียกร้องให้เปิดพื้นที่ปลอดภัยและถกเถียงกันอย่างมีวุฒิภาวะ ถ้าอย่างนั้น พรรคก้าวไกล-คณะก้าวหน้า ก็ใช้เวทีสภาถกเถียงกันในเรื่องนี้ ถ้าเสียงส่วนใหญ่เห็นอย่างไรก็ต้องยอมรับตามวิถีทางประชาธิปไตย เลือกตั้งคราวหน้าก็ชูนโยบายดังกล่าวให้ประชาชนตัดสินใจ ดีกว่าหนุนม็อบลงท้องถนน...0

                ความคืบหน้าคดี นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา มีการประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ที่มี นายอรรถพล ใหญ่สว่าง เป็นประธาน มีการเสนอชื่อคณะอนุกรรมการตรวจสอบการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ เพื่อตรวจสอบดุลพินิจของ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ผลการโหวตเสียงส่วนใหญ่ 9 ต่อ 5 ไม่เห็นชอบ จึงตั้งคณะอนุกรรมการดังกล่าวไม่ได้ นายอรรถพล คือเสียงส่วนน้อยที่ก่อนหน้านี้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การสั่งคดีว่าไม่ถูกต้องจนอัยการส่วนใหญ่บ่นว่า "ไร้มารยาท" ทางที่ดีอัยการทุกคนควรเรียกร้องให้มีการปฏิรูปงานสอบสวน โดยอัยการสามารถตรวจสอบคดีตั้งแต่เกิดเหตุได้ทันที แทนที่จะนั่งรออ่าน นิยายสอบสวน จากตำรวจเช่นทุกวันนี้...0

แซมซาย