แจ้งจับ13ตร. ยัดข้อหาหนุ่ม ค้าใบกระท่อม


เพิ่มเพื่อน    


    อัจฉริยะพาหนุ่มวัย 25 ปีเข้าแจ้งความดำเนินคดี 13 ตำรวจบางพลีตั้งแต่ พ.ต.ท.ยันผู้หมู่ ระบุตัวเองตกเป็นแพะในคดีค้าใบกระท่อม ขณะที่กลุ่มผู้ต้องหาตัวจริงหลุดหมด 
    เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 สิงหาคมนี้ ที่ห้องประชุมชั้น 3 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พานายนครินทร์ ทรงศิริ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/5 หมู่ 9 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เข้าร้องเรียน พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ และแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ สภ.บางพลี จำนวน 13 นาย
    นายนครินทร์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค.62 เวลาประมาณ 09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี จำนวน 7 นาย ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 42/26 หมู่ 9 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่ห้องของนายตะวัน ไม่ทราบนามสกุล พบปืนปากกา ขนาด .22 และขนาด .38 รวม 2 กระบอกอยู่ในลิ้นชัก และเครื่องกระสุนปืน จำนวน 2 นัด ตนนอนอยู่อีกห้องของบ้านนายตะวัน ได้เดินออกมาดู มารดาของนายตะวันได้ขอร้องตนซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างให้รับว่าเป็นปืนของตน โดยบอกว่าจะเดินเรื่องกับตำรวจให้  
    สำหรับสาเหตุที่ตำรวจมาตรวจค้นบ้านดังกล่าว เพราะบ้านที่เกิดเหตุมีการสั่งซื้อใบกระท่อมประมาณ 5 กิโลกรัมมาจากทางภาคใต้ โดยสั่งซื้อผ่านทางบริษัทขนส่งเคอรี่ ระบุชื่อผู้รับ คุณจิดาพร จักเจริญชัย ที่อยู่ 42 /26 ม.9 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นชื่อของมารดานายตะวัน แต่กล่องที่บรรจุใบกระท่อมตกแตก พนักงานเคอรี่พบว่าเป็นสิ่งของผิดกฎหมายจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นตำรวจได้ปลอมตัวเป็นพนักงานเคอรี่นำใบกระท่อม 5 กิโลกรัม มาส่ง น.ส.เปย์ ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ได้เปิดประตูออกมารับ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุมตัวนายตะวัน น.ส.เปย์ ภรรยานายตะวัน นายนครินทร์ พร้อมด้วยชายวัยรุ่นอีก 4 คน ที่อยู่ในบ้านมารดาของนายตะวัน นำตัวส่ง สภ.บางพลี  
    ต่อมาตำรวจทำบันทึกการจับกุมนายนครินทร์คนเดียว ในข้อหา ผลิตและมีพืชกระท่อมฯ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยมารดาของนายตะวันได้บอกกับตนว่าได้เคลียร์กับตำรวจจ่ายไปประมาณ 50,000 บาทแล้ว แลกกับการไม่ดำเนินคดีกับนายนครินทร์ และให้นายนครินทร์ลงชื่อในบันทึกการจับกุม  บอกว่าคดีจบแล้ว   
    นายนครินทร์กล่าวว่า จนวันที่ 18 กันยายน 2562 ตนได้รับหนังสือให้ไปพบอัยการจังหวัดสมุทรปราการ ก็ตกใจเมื่อรู้ว่าถูกมารดาของนายตะวันหลอกให้รับผิดกลายเป็นผู้ต้องหา โดยตำรวจทำสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องศาล จึงได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนายอัจฉริยะ และเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562 ได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมส่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจบางพลีระดับชั้นสัญญาบัตรทราบว่านายนครินทร์ได้เข้าร้องเรียนกับนายอัจฉริยะ จึงได้โทรศัพท์มาขอเคลียร์ โดยเสนอเงินให้จำนวน 250,000 บาท แลกกับการไม่ให้นายนครินทร์ดำเนินคดีอาญาและวินัยกับพวกตน ซึ่งตนได้ปฏิเสธไป และเมื่อเร็วๆ นี้ตนได้รับหมายเรียกให้ไปขึ้นศาลจังหวัดสมุทรปราการในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ โดยขณะนี้ตนอยู่อย่างหวาดกลัว ไม่กล้าออกไปไหน เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเกรงจะได้รับอันตราย
    ทั้งนี้ นายอัจฉริยะได้พานายนครินทร์เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ สภ.บางพลี จำนวน 13 นาย มียศตั้งแต่ พ.ต.ท.จนถึง ส.ต.ท. ในหลายข้อหา ตั้งแต่ กลั่นแกล้งยัดเยียดข้อหามีอาวุธปืนและยาเสพติด เรียกรับสินบน และให้ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาตัวจริงมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งให้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยกับตำรวจบางพลีทั้ง 13 นาย ซึ่งมีทั้งระดับสัญญาบัตรและชั้นประทวน โดยทาง พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้ให้นายอัจฉริยะพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.บางพลี ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ โดยได้ประสานงานให้แล้ว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"