18 ส.ค.63- น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ อดีตรองหัวหน้าพรรคและที่ปรึกษานโยบายการศึกษา พรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงวิสัยทัศน์ในพิธีเปิดงาน "ยกกำลังสองการศึกษาไทย สู่ความเป็นเลิศ" เกี่ยวกับประเทศฟินแลนด์เอาไว้ว่า “เรื่องการศึกษาหลายคนบอกว่าอยากเอาแบบประเทศฟินแลนด์ ไม่ต้องไปโรงเรียน เด็กมีความสุข เราทำอย่างนั้นได้หรือไม่ ไปคิดดู แต่ตนคิดว่ายังไม่ถึงเวลานั้น ลำบาก เพราะเรามีปัญหามากในขณะนี้”
น.ส.กุลธิดา ระบุว่า ข้อความดังกล่าวของพลเอกประยุทธ์ มีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง แสดงความไร้วิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศ และขาดความเข้าใจในการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ซึ่งขัดกับงานที่นายกรัฐมนตรีกำลังกล่าวเปิดโดยสิ้นเชิง ซึ่งการศึกษาที่ดีไม่จำเป็นต้องเลียนแบบฟินแลนด์ แต่ควรตั้งอยู่บนหลักการดังต่อไปนี้ 1. การศึกษาที่ดีและฟรี เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคน 2. การจัดการเรียนรู้ต้องเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นภัยคุกคามต่อผู้เรียน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ และ3. การศึกษาควรนำพามนุษย์ไปสู่การเรียนรู้อันไม่สิ้นสุดตลอดชีวิต มิใช่ความเป็นเลิศเพียงอย่างเดียว
“ปัจจุบันข้อเท็จจริงที่เป็นประจักษ์อย่างกว้างขวางแล้วว่านักเรียนของเรากำลังเผชิญกับความหวาดกลัวจากการคุกคามโดยรัฐ ผ่านครูและเจ้าหน้าที่ความมั่นคง สภาพแวดล้อมแบบนี้ไม่อาจส่งเสริการเรียนรู้ได้เลย ซึ่งตนมองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องแก้ทันที ไม่ใช่อ้างว่าค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีนักเรียนคนไหนรอได้ และไม่มีใครควรต้องรอ การที่นักเรียน นักศึกษา ออกมาเรียกร้องสิทธิต่างๆ เหล่านี้เพื่อวันนี้และอนาคตของพวกเขา พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีทักษะในศตวรรษที่ 21 อยู่ไม่น้อย พวกเขาคิดวิเคราะห์ได้ สื่อสารได้ สร้างสรรค์เป็น ใช้เทคโนโลยีคล่องแคล่วและเท่าทัน พวกเขาย้อนสำรวจประวัติศาสตร์เดือนตุลา ตลอดจนไล่เทียบดูว่าระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการข้อใดบ้างที่ขัดหลักรัฐธรรมนูญ และเสนอความเห็นของตัวเองเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดล้วนเป็นผลงานของ พลเอกประยุทธ์ และการบริหารงานของ คสช.ตลอด 6ปี ที่กระตุ้นให้นักศึกษา นักเรียน และประชาชนสงสัย กระหายรู้ อยากเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมในการตรวจสอบผู้บริหารประเทศ รวมถึงสร้างสังคมที่ดีกว่าให้ตนเอง”กุลธิดา กล่าว
น.ส.กุลธิดา ยังฝากถึง พลเอกประยุทธ์ จงได้วางใจว่านักเรียนของเรามีทักษะพร้อมรับมือกับยุคอนาคต แม้ว่าเขาจะต้องท่องจำค่านิยม 12 ประการ ต้องอยู่อย่างจำนนในระบบอำนาจนิยมโรงเรียน แต่พวกเขาก็คิดเองได้ และแม้แต่กระทรวงศึกษาธิการที่มีหน้าที่ดูแลพวกเขาจะไม่เคยจริงใจในการดูแลความปลอดภัยขั้นพื้นฐานให้พวกเขาเลย อย่าง กรณีละเมิดสิทธิเด็กในโรงเรียน มีเพียงไม่กี่กรณีเท่านั้นที่กระทรวงฯ ที่ได้รับแจ้ง แทบจะไม่มีนักเรียนกล้าพึ่งพากระทรวงฯ เพราะกลัวโดนคุกคามต่อเนื่อง และเห็นว่าแจ้งไปคงไม่เกิดอะไรขึ้น และการที่พวกเขาเลือกจะแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่เห็นด้วยอย่างสร้างสรรค์และสันติ แสดงให้เห็นว่าบัดนี้นักเรียนได้ก้าวไปข้างหน้า ไปไกลกว่าความสามารถและศักยภาพของนายกรัฐมนตรี หรือแม้กระทั่งกระทรวงศึกษาธิการแล้ว งานอันไม่เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาและอนาคตของนักเรียนประเทศนี้ของพวกคุณต้องสิ้นสุดลงได้แล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |