ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ผู้นำเผด็จการเบลารุสที่ครองอำนาจมานาน 26 ปี ยืนกรานไม่เลือกตั้งเว้นแต่โดนฆ่าตาย อีกทางพยายามลดแรงต้านครั้งใหญ่จากมวลชนโดยอ้างพร้อมแบ่งปันอำนาจ แต่ไม่ใช่เพราะแรงกดดันจากม็อบ

คนงานโรงงานรถยนต์มินสก์ร่วมเดินขบวนประท้วงกับลูกจ้างที่นัดหยุดงานเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2563 เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลาออก

    ผู้นำวัย 65 ปีของเบลารุสซึ่งเพิ่งชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 6 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม กำลังเผชิญการท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 26 ปีที่ครองอำนาจ ฝ่ายค้านซึ่งนำโดยสเวตลานา ทีคานอฟสกายา แม่บ้านวัย 37 ปีที่ลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีภายหลังผู้สมัครหลายราย ซึ่งรวมถึงสามีของนาง โดนจับขังคุก จัดชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยมีผู้เข้าร่วมนับแสนคน

    ฝ่ายต่อต้านกล่าวหาว่าลูกาเชนโกโกงคะแนนเลือกตั้ง ซึ่งผลออกมาว่าเขาได้มากกว่า 80% ส่วนทีคานอฟสกายาได้แค่ราว 10% การต่อต้านเขาลามถึงคนงานของหน่วยงานภาครัฐและสถานีโทรทัศน์ช่องบีทีของทางการ รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ที่ 17 ส.ค. กล่าวด้วยว่า ในการไปเยี่ยมโรงงานรถยนต์ของรัฐในกรุงมินสก์เมื่อเช้าวันจันทร์ ซึ่งผู้ประท้วงนับหมื่นเดินขบวนไปรวมตัวที่นั่น ลูกาเชนโกโดนคนงานตะโกนเรียกร้องให้ลาออก

    รายงานของสำนักข่าวเบลตาของทางการอ้างคำพูดที่ลูกาเชนโกกล่าวกับคนงานที่นั่นว่า จะไม่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ตามที่ฝ่ายค้านต้องการ เว้นแต่เขาจะโดนฆ่า แต่กระนั้น เขาเต็มใจจะแบ่งปันอำนาจและแก้รัฐธรรมนูญที่จะจัดสรรอำนาจใหม่ แต่ไม่ได้ทำเพราะแรงกดดันจากผู้ประท้วง

    ด้านนางทีคานอฟสกายาแถลงผ่านวิดีโอจากลิทัวเนียที่เธอหนีไปลี้ภัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรียกร้องให้หน่วยความมั่นคงและตำรวจทิ้งรัฐบาลมาอยู่ข้างฝ่ายต่อต้านแล้วพฤติกรรมในอดีตของพวกเขาจะได้รับการให้อภัย และว่าเธอพร้อมรับผิดชอบและทำหน้าที่ผู้นำประเทศ.