มีแนวโน้มว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างใหม่ น่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
แต่...ก่อนจะแก้ เราควรหันกลับมามองพฤติกรรมของคนไทยที่มีต่อรัฐธรรมนูญเสียก่อน เพราะน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มากทีเดียว
ยอมรับกันหรือไม่ว่า เรามักโทษ "กติกา" มากกว่า "พฤติกรรม" ของคน
เมื่อคนสร้างปัญหา เราก็แก้ปัญหาด้วยการรื้อกติกากันมาตลอด
ทั้งแก้โดยกระบวนการทางรัฐสภา และโดยการรัฐประหาร
ผลที่ได้คือ "วนในอ่าง"
นับแต่อดีตเรามีสภาร่างรัฐธรรมนูญมาแล้วถึง ๔ ชุด
สภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๔๙๑
สภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๐๒
สภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๓๙
สภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๕๐
กำลังจะมีชุดที่ ๕ ขึ้นมา
และไม่มีอะไรการันตีว่าเราจะได้รัฐธรรมนูญฉบับสุดท้าย หากเรายังใช้วัฒนธรรมเดิมคือ เมื่อมีปัญหาก็รื้อรัฐธรรมนูญ
รื้อจนไม่คิดจะแก้ปัญหาเรื่องคุณภาพของคน
ประชาชนเลือกนักการเมือง นักการเมืองโกง ทหารยึดอำนาจ
แม้จะเป็นคนละบริบท แต่อยากให้ศึกษาจากรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น
ฉบับที่ใช้ในปัจจุบัน ประกาศใช้ตั้งแต่ปี ๒๔๙๐ ยกร่างโดยสหรัฐอเมริกาหลังญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง
วัตถุประสงค์หลักคือ การตัดอำนาจทางกำลังทางทหารออกและลดอำนาจของจักรพรรดิให้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของประเทศ
เริ่มต้นคล้ายกับไทย
ไปๆ มาๆ รัฐธรรมนูญที่เขียนโดยศัตรูกลับทำให้ญี่ปุ่นเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
และตลอดการบังคับใช้ยังไม่มีการแก้ไขใดๆ
แต่วันนี้ญี่ปุ่นมีความจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะการมีแค่กองกำลังป้องกันตนเองไม่เพียงพอต่อการป้องกันประเทศจากภัยคุกคามจากจีน และคาบสมุทรเกาหลี
เหตุที่ญี่ปุ่นใช้รัฐธรรมนูญไม่เปลืองนั้น การไม่มีกองทัพ ก็เป็นปัจจัยหนึ่ง แต่สาเหตุหลักมาจากการพัฒนาประเทศ โดยการเมือง และประชาชนที่มีคุณภาพ
ญี่ปุ่นไม่ได้คิดว่า รัฐธรรมนูญ คือทุกอย่างของประเทศ
แต่วันนี้คนไทยคิดในทางกลับกัน ทุกอย่างในประเทศต้องกำหนดด้วยรัฐธรรมนูญ
เมื่อมีปัญหาจึงต้องจบด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือไม่ก็ยกร่างใหม่หมด
รัฐประหารก็มีรัฐธรรมนูญใหม่ เลือกตั้งเสร็จยกร่างฉบับใหม่อีกที
และคราวนี้อาจถึงจุดตีบตัน เพราะคนบางกลุ่มต้องการแก้ไขแบบพลิกแผ่นดิน
พรรคก้าวไกลไม่ยอมร่วมลงชื่อในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้าน ด้วยเหตุผล ยังมีความเห็นไม่ตรงกันในบางหมวด ก็ต้องย้อนกลับไปถามพรรคก้าวไกลว่า ใช่หมวดพระมหากษัตริย์หรือไม่
ถ้าใช่ก็เตรียมฝันค้าง เพราะตามระบบที่มีอยู่ จำเป็นจะต้องมีเสียงของ ส.ว.อย่างน้อย ๑ ใน ๓
หรือ ๘๔ เสียง
แค่นี้ก็ไปต่อไม่ได้แล้ว
เว้นเสียว่าเป้าหมายที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
แต่เป็นอะไรที่ใหญ่กว่านั้น
และต้องเกิดความรุนแรงครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |