เหยื่อรวมตัวร้องกองปราบฯ ดำเนินคดีร้านทองดังชวนค้าทองออนไลน์ แต่กลับถูกระงับห้ามซื้อขาย ยึดเงินลงทุน เสียหายกว่า 100 ล้าน
    เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ที่กองปราบปราม นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความและประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พากลุ่มผู้เสียหายจำนวน 7 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.หญิงบุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ สว.สอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับร้านทองชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านดิโอลด์สยามพลาซ่า หลังถูกหลอกให้นำเงินมาร่วมลงทุนเก็งกำไรทองคำออนไลน์หรือเทรดทอง แต่เมื่อผู้เสียหายลงทุนไปแล้วกลับถูกระงับห้ามซื้อขาย พร้อมกับถูกยึดเงินลงทุนไม่สามารถถอนออกได้ จนได้รับความเสียหายรวมกันกว่า 100 ล้านบาท 
    นายรัชพลกล่าวว่า อยากให้กองปราบฯ ตรวจสอบร้านทองดังกล่าว หลังโฆษณาชักชวนกลุ่มผู้เสียหายร่วมลงทุนเทรดทองในเว็บไซต์ โดยเปิดบัญชีคนละหลายแสนถึงหลักล้านบาท กระทั่งช่วงที่ราคาทองปรับขึ้น ผู้เสียหายได้พยายามกดซื้อขายทองบนเว็บไซต์เพื่อทำกำไร แต่ไม่สามารถซื้อขายได้ บางคนถูกหักเงินในบัญชีไปถึง 6 ล้านบาท โดยร้านอ้างว่าสาเหตุมาจากราคาทองที่ผันผวน คาดว่านอกจากผู้เสียหายกลุ่มนี้แล้วยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากทั่วประเทศ ซึ่งการกระทำของร้านทองแห่งนี้เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง จึงนำหลักฐานมาแจ้งความ 
    นางเอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เทรดทองกับร้านนี้มาประมาณ 2 ปี เพราะเห็นว่าเป็นร้านที่มีชื่อเสียง เจ้าของก็เป็นที่นับน่าถือตาในวงการค้าขายทอง ส่วนเว็บไซต์นี้มีรูปแบบการทำงานคือให้ผู้ลงทุนเปิดพอร์ตซื้อขายทองกับร้าน ซึ่งทางร้านจะบังคับให้คอยเติมเงินในบัญชีโดยอ้างว่าเป็นค่าค้ำประกัน หากไม่เติมเงินส่วนนี้จะถูกปิดพอร์ต เพราะร้านเป็นผู้แบกรับความเสี่ยง ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยพบความผิดปกติ จนช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตลาดทองคำมีความผันผวน ระบบซื้อขายบนเว็บขัดข้อง ไม่สามารถซื้อขายและเสียเงินประกันไป เมื่อสอบถามร้านก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่าระบบมีปัญหา จะให้ช่างเทคนิคไปตรวจสอบ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ในส่วนตนได้รับความเสียหายรวมมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท 
    เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ร้องทุกข์เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานที่นำมามอบให้ ก่อนส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป.