เคลียร์พื้นที่ปะทะเดือดปัตตานี 3 วัน วิสามัญฯ 7 ศพ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 แสดงความเสียใจต่อครอบครัว ระบุขอเจรจาทุกทางแต่ไร้ผล ถูกโจมตีตอบโต้รุนแรง ชี้กลุ่มคนร้ายซุ่มไม่น้อยกว่า 6 เดือน เตรียมก่อการใหญ่ 
    เมื่อวันอาทิตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ปะทะกันบริเวณพื้นที่ป่าละเมาะในหมู่บ้านบือแนจือแล ม.2 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ขณะเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงเข้าปิดล้อมตรวจค้น ซึ่งเหตุปะทะครั้งนี้ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ถูกนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา 1 นาย และ รพ.ปัตตานี 2 นาย ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
    สำหรับคนร้าย เมื่อเสียงปืนสงบ ชุดปฏิบัติการได้นำเครื่องร่อนตรวจทางอากาศเข้าไปตรวจสอบจุดปะทะของคนร้ายเพื่อทำการตรวจพิสูจน์ทราบ และเจ้าหน้าที่ได้ทำการโอบล้อมพื้นที่โดยรอบด้วยความระมัดระวัง ซึ่งตลอดตั้งแต่วันที่ 14-16 ส.ค. เจ้าหน้าที่ได้ทำการปะทะกับกลุ่มคนร้ายหลายระลอกด้วยกัน จนในที่สุดสามารถวิสามัญฯ คนร้ายได้ทั้งหมด 5 ราย ทราบชื่อคือ 1.นายมะซูกี สารูเมาะ อายุ 37 ปี พฤติกรรม หน.RKK ระดับสั่งการ มีหมายจับ ป.วิ  จำนวน 2 หมาย 2.นายอันวา กอแล อายุ 28 ปี พฤติกรรมสมาชิกระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิ จำนวน 1 หมาย 3.นายมาสุวัน กะจิ อายุ 33 ปี ส่วนอีก 2 รายนั้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันตัวบุคคล
    สำหรับอาวุธที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก, ปืนเล็กยาวเอ็ม 16 ของคนร้ายจำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ยังคงมีการตรวจสอบอาวุธของคนร้ายในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อาวุธที่พบบางส่วนนั้นได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ตรวจสอบเพื่อขยายผล
    อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้า แม้ว่าสามารถวิสามัญฯ คนร้ายได้แล้ว 5 ราย แต่เจ้าหน้าที่ยังคงกระชับวงล้อมเข้าพื้นที่ดำเนินต่อไปตามยุทธวิธี โดยมีการตรวจค้นตามจุดต่างๆ บริเวณพื้นที่ดังกล่าว ในระยะรัศมี 1-5 กม. เพื่อทำการตรวจค้นและหาหลักฐานต่างๆ จนกว่าจะมั่นใจว่าในพื้นที่จุดปะทะไม่มีคนร้ายหลบซ่อนอยู่อีก และจนกว่าในพื้นที่นั้นปลอดภัย
    วันเดียวกัน ในช่วงเวลา 13.00 น. พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 กล่าวถึงเหตุปะทะในพื้นที่ ม.2 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ว่าแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับเน้นย้ำการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ให้ใช้ความระมัดระวัง และพยายามที่จะบังคับใช้กฎหมายเพื่อนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย แต่การปฏิบัติที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ปฏิบัติด้วยความยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่ที่คนร้ายหลบซ่อนตัวเป็นป่าละเมาะและทุ่งนาบริเวณกว้าง 
    พล.ต.ปราโมทย์ระบุว่า วันแรกและวันที่สองก็ได้มีการเจรจาโดยการนำผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นมาเกลี้ยกล่อมหลายรอบ แต่คนร้ายใช้ความรุนแรงในการตอบโต้จนนำไปสู่การวิสามัญฯ และล่าสุดจากการตรวจสอบ พบว่าคนร้ายเสียชีวิตทั้งหมด 7 คน และตรวจยึดอาวุธได้จำนวน 9 กระบอก ในจำนวนนี้เป็นอาวุธสงคราม 5 กระบอก มีทั้งเอ็ม 16 และอาก้า ปืนพกจำนวน 4 กระบอก เพื่อไว้ตรวจสอบที่มาและเคยนำไปก่อเหตุที่ใดบ้าง
    "ในนามของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย ซึ่งเป็นการเสียชีวิตที่เจ้าหน้าที่ไม่อยากให้เกิด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก แต่คนร้ายเลือกที่จะใช้ความรุนแรงตอบโต้ ซึ่งทางแม่ทัพขอบคุณและชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการปฏิบัติครั้งนี้ โดยเฉพาะทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นาย" พล.ต.ปราโมทย์ระบุ 
    โฆษก กอ.รมน.ระบุด้วยว่า จากการตรวจฐานปฏิบัติการของคนร้ายที่ยึดมาได้ตั้งแต่วันแรกนั้น น่าจะใช้มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน คาดว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะวางแผนเตรียมการก่อเหตุขนาดใหญ่ ตามที่เคยแจ้งเตือนมาก่อนหน้านี้ เราได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น และจะนำศพไปที่โรงพยาบาลต่อไป เพื่อส่งศพให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนวัตถุพยานทั้งหมดที่ยึดได้นั้น ทาง ผบช.ภาค 9 ได้สั่ง การพนักงานสอบสวนทุกคนเก็บหลักฐานอย่างละเอียด
    "สิ่งที่สำคัญทางแม่ทัพเน้นย้ำให้ใช้งานมวลชนสร้างความเข้าใจต่อประชาชนที่อยู่พื้นที่เกิดเหตุ รวมทั้งสั่งการให้นายอำเภอยะรังเป็นหน่วยหลักในการสำรวจความเสียหายในการปฏิบัติในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่พร้อมจะดูแลเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายของการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ สุดท้ายการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนใช้ความระมัดระวังกันเต็มที่ แต่คนร้ายเลือกที่จะใช้ความรุนแรงในการตอบโต้จนนำไปสู่การสูญเสีย ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมเปิดโอกาสให้คนที่เห็นต่างจากรัฐที่ต้องการยุติความรุนแรงขอให้เข้ามารายงานตัวแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ รับรองว่าทุกคนจะได้ รับความยุติธรรมแน่นอน" โฆษก กอ.รมน.ระบุ.