เนื่องจากวิกฤติโรคโควิด-19 จึงทำให้พวกเราหลายคนหยิบแอลกอฮอล์ขึ้นมา และสิ่งหลายคนอาจสงสัยว่าการดื่มสุราในปริมาณที่พอเหมาะนั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีหรือเป็นการรักษาโรคกันแน่? เพราะก็มีเสียงแตกออกเป็น 2 มุม ทั้งมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพและทำร้ายสุขภาพของเรา สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หลายคนรู้สึกมึนหัวด้วยความสงสัยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว 
     ล่าสุดมีงานวิจัยเชิงบวกที่เก็บรวบข้อมูล 1 อาทิตย์ออกมาระบุว่า “สำหรับนักดื่มที่ยกแก้วกระดกแอลกอฮอล์บ่อยๆ นั้น จากการวิจัยข้างต้นพบว่าก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพถ้าเทียบกับคนไม่ดื่มสุรา” 
     นอกจากนี้ก็มีการวิจัยชิ้นล่าสุดอีกเช่นกัน ที่ออกมาระบุใหม่ว่า นี่อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกี่ยวกับประชากรวัยกลางคนของอเมริกา โดยเฉพาะการดื่มสุราในปริมาณที่พอดี ซึ่งไม่เพียงเป็นประโยชน์กับสุขภาพของสมอง แต่ยังช่วยป้องกันภาวะโรคสมองเสื่อมในวัยชราได้อีกด้วย
     นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอร์เจียกล่าวว่า “พวกเขาระบุสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าความสัมพันธ์รูปตัวยูระหว่างแอลกอฮอล์และสุขภาพสมอง” ทั้งนี้การบริโภคแอลกอฮอล์ในปริมาณน้อย เช่น การที่ผู้หญิงดื่มสุราประมาณ 8 แก้วใน 1 อาทิตย์ และผู้ชายดื่มแอลกอฮอล์ 15 แก้วใน 1 สัปดาห์ ซึ่งการดื่มในปริมาณดังกล่าวจะช่วยชะลอโรคหัวใจและช่วยบำรุงสมอง ดังนั้นการดื่มในปริมาณที่เกินจำนวนดังกล่าวจะทำให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติและเกิดความเสียหายได้ 
     สำหรับผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่ผ่านมานั้นชี้ให้เห็นว่า ครอบในประเทศอังกฤษ คิดเป็น 4 ใน 10 ครอบครัวมีแนวโน้มดื่มสุราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากพวกเขาถูกล็อกดาวน์ในที่โรคโควิด-19 กำลังระบาด โดยผู้เชี่ยวชาญยังได้แสดงความเป็นห่วงว่าจะเกิดปัญหาสุขภาพที่ไม่ดีจากการดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ โดยเฉพาะโรคตับ
ขณะที่อัตราส่วนหรือปริมาณแอลกอฮอล์ที่อยู่ในเครื่องดื่มต่างๆ นั้น หากคุณดื่มเบียร์ที่มีความเข้มข้นสูง 1 ไพน์ หรือประมาณ 568 มิลลิลิตร จะมีแอลกอฮอล์คิดเป็น 2.3 หน่วย แต่ถ้าหากคุณดื่มไวน์ 1 แก้ว หรือปริมาณ 175 มิลลิลิตร อัตราส่วนของแอลกอฮอล์จะเท่ากับการดื่มสุราชนิดอื่นๆ ทั่วไปประมาณ 1 หน่วย 
     ด้านนักวิจัยชาวอเมริกันได้ทำการสำรวจและติดตาม ทั้งคุณสุภาพบุรุษและคุณสุภาพสตรีเกือบ 20,000 คน เกี่ยวกับลักษณะการดื่มสุรา ในช่วงอายุ 50 ปี 60 และ 70 เป็นเวลาหนึ่งทศวรรษ หรือประมาณ 10 ปี โดยได้ทำการประเมินเกี่ยวกับความสามารถในการคิด การมีเหตุผลตัดสินใจในเรื่องต่างๆ การจดจำ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงการจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง 
     ไม่ต่างจากสารทางการแพทย์อย่าง JAMA Network Open ได้รายงานว่า “ผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำและดื่มวันละ 2 ครั้ง มีโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมน้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มสุราและไม่สูบบุหรี่ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 1 ใน 3 รายก็ว่าได้ หรือแม้แต่ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณเล็กน้อยในแต่ละสัปดาห์ ก็สามารถได้รับประโยชน์จากเครื่องดื่มชนิดดังกล่าว”
ดร.เฉียง เหว่ยหลี่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาและชีวสถิติ ซึ่งเป็นผู้นำการศึกษานี้ ยอมรับว่า “กลไกที่อยู่ภายใต้การเชื่อมโยงที่เป็นประโยชน์ของการบริโภคแอลกอฮอล์ในระดับต่ำถึงปานกลางนั้น จะทำให้ฟังก์ชันของการรับรู้นั้นไม่ชัดเจน”
     ดร.เฉียง เหว่ยหลี่ คนเดิมบอกว่า “แม้ว่าภาพของผลการศึกษาดังกล่าวนั้นจะเป็นสิ่งที่ดูไม่ชัดเจน เนื่องจากการศึกษาก่อนหน้านี้ได้ออกมารายงานว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในระดับต่ำถึงปานกลางนั้นจะช่วยทำให้สถิติที่เกี่ยวกับสุขภาพของหัวใจนั้นดีขึ้นถ้าเทียบกับผู้ที่ดื่มสุราในปริมาณหนัก แต่ทั้งนี้นักวิจัยคนอื่นๆ ก็ได้ค้นพบว่า การดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นระดับไหนนั้น ก็มักจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดสมองได้ทั้งนั้น”
     นอกจากนี้ ดร.เฉียง เหว่ยหลี่ ได้คาดการณ์อีกว่า “บางทีบทของสุรานั้นอาจจะทำให้ความรู้ความเข้าใจ เกิดเป็นความสมดุลระหว่างผลดีและผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดก็เป็นได้”.